ปชป.พร้อมช่วยเหยื่อตกท่อมรณะใน กทม. ลุยดำเนินคดีทุกหน่วยงานให้ถึงที่สุด

ปชป.พร้อมช่วยเหยื่อตกท่อมรณะใน กทม. ลุยดำเนินคดีทุกหน่วยงานให้ถึงที่สุด

‘ราเมศ’ ยัน ปชป.พร้อมช่วยเหยื่อตกท่อมรณะใน กทม. ลุยดำเนินคดีทุกหน่วยงานให้ถึงที่สุด ถามกลับถ้าเป็นลูกหลานผู้บริหารตกบ้างจะรู้สึกอย่างไร

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2567 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีมีผู้เสียชีวิตจากการข้ามถนนและตกท่อร้อยสายไฟ ฝั่งตลาดสะพานสอง ซอยลาดพร้าว 49 กทม. ว่า ขอประณามความมักง่ายของหน่วยงานที่ไม่เคยคิดถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน หลักความปลอดภัยสาธารณะ คือหลักประกันขั้นพื้นฐานอีกเรื่องหนึ่ง ที่มีความสำคัญต่อประชาชนมากที่สุด อย่าคิดว่าประชาชนมีราคาชีวิตที่ถูกมาก เกิดเหตุการณ์ก็เยียวยากันไป แต่ชีวิตคนมีค่ามากกว่านั้น

นายราเมศ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมด และจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ส่วนผู้เสียหายทางพรรคฯ จะเข้าไปช่วยดูในเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งต้องแนะนำครอบครัวผู้เสียหายว่าต้องดำเนินคดีทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

นายราเมศ กล่าวอีกว่า ถึงเวลาที่เราจะต้องร่วมกันหาวิธีการป้องกันรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างจริงจังและยั่งยืน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง กรุงเทพฯ ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่านี้ การที่ออกมาบอกในลักษณะว่าเป็นงานของ กฝน. ทั้ง ๆ ที่ กทม.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงจะปฏิเสธความรังผิดชอบไม่ได้ส่วน กทม. จะไปไล่เบี้ยก็ว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่ง

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายเหตุการณ์พอข่าวหมดกระแสไป ทุกฝ่ายก็คิดว่าเงียบแล้ว แต่ความจริงไม่เคยมีมาตรการอะไรเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจตามมาเลย ประชาชนผู้เสียหายก็ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมด้วยความยากลำบาก เพราะหน่วยงานมีข้ออ้างสารพัด ถ้าคนที่ตกท่อเป็นลูกหลานรัฐมนตรี ลูกหลานผู้บริหาร กทม. ลูกหลานผู้บริหาร กฝน. ท่านจะรู้สึกอย่างไร ท่านจะรู้สึกไหมว่าเงินจะมากมายขนาดไหนเทียบกับชีวิตของคนไม่ได้” นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวด้วยว่า นอกเหนือจากความรับผิดชอบแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดควรคุยกันและเริ่มวางระบบหลักประกันขั้นพื้นฐาน ในเรื่องความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน ไม่เช่นนั้นประชาชนก็จะต้องมารับกรรมจากความชุ่ยของแต่ละหน่วยงานที่ไร้ซึ่งความละเอียดรอบคอบ มีแต่ความละเลยประมาทเลินเล่อ ตอนนี้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ กทม. ต้องเร่งแก้ไขตรวจทุกพื้นที่ที่มีลักษณะเช่นนี้ ก่อนวางแผนแก้ไขในระยะยาวอย่างไร