ป.ป.ช.ลุยหาดเจ้าไหม-เกาะกระดาน-ถ้ำมรกต สกัดปมเก็บค่าเข้าอุทยานรั่ว
![ป.ป.ช.ลุยหาดเจ้าไหม-เกาะกระดาน-ถ้ำมรกต สกัดปมเก็บค่าเข้าอุทยานรั่ว](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2025/02/lWo5UQNFCyDB8iuGSVMr.webp?x-image-process=style/LG)
ป.ป.ช. ลุยคิดตามเก็บค่าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เกาะกระดาน-ถ้ำมรกต สกัดจัดเก็บไม่รั่วไหล จนท.ยอมรับมีเรือนำเที่ยวลักไก่ไม่จ่าย ส่งทีมตระเวนรอบพื้นที่
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2568 นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำคณะผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เกาะกระดาน พื้นที่ถ้ำมรกต อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดเก็บรายได้ของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งจุดแรกไปดูการจัดเก็บรายได้หน้าถ้ำมรกต โดยใช้เรือเป็นด่านลอยจัดเก็บค่าเข้าสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ พบว่าเป็นการขายบัตรและจัดเก็บเงินสด ไม่มีการจัดเก็บแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-ticket และยังไม่สามารถชำระเงินผ่านการสแกน QR code ได้เนื่องจากไม่มีระเบียบรองรับ
โดยเจ้าหน้าที่อุทยานที่ทำหน้าที่จัดเก็บรายได้ยอมรับว่า หากมีระบบ e-ticket หรือระบบสแกน QR code ชำระเงินจะสะดวกและเกิดความปลอดภัยในการจัดเก็บเงินค่าเข้า เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่นิยมพกเงินสด ซึ่งปัจจุบันมีการจัดเก็บโดยถือกล่องพลาสติกสำหรับใส่เงินสด สามารถจัดเก็บรายได้วันละ 50,000 บาท ราคานักท่องเที่ยวที่จัดเก็บโดยนักท่องเที่ยวคนไทย จัดเก็บอยู่ที่ 40 บาท แต่เด็กจัดเก็บ 20 บาท และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เด็ก เก็บ 100 บาท ผู้ใหญ่จัดเก็บค่าเข้าอยู่ที่ 200 บาทโดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีอุปสรรคในการจัดเก็บเนื่องจากนักท่องเที่ยวมีการศึกษารายละเอียดมาก่อนหน้านี้แล้ว ยกเว้นกรณี มีคลื่นลม สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จะเป็นปัญหา เพราะเป็นการจัดเก็บบนพื้นน้ำทะเล
สำหรับค่าเข้าชมในการจัดเก็บจะมีการตรวจสอบจำนวนนักท่องเที่ยว เมื่อเรือท่องเที่ยวมาจอด เจ้าหน้าที่จะขึ้นไปบนเรือนับจำนวนนักท่องเที่ยวและจัดเก็บค่าเข้าสถานที่เป็นรายบุคคล จะไม่มีการจัดเก็บผ่านไกด์นำเที่ยวเหมือนจุดอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการจัดเก็บไม่ครบถ้วน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะลอยลำรอจัดเก็บตลอดทั้งวัน จากนั้นจะมีการนำเงินมารวมกับจุดจัดเก็บบนพื้นที่เกาะกระดาน ก่อนนำส่งรายได้ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม
ด้าน นายสาโรจน์ กล่าวว่า การจัดเก็บแบบใช้คิวอาร์โค้ด กรมอุทยานฯสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องแก้ไขกฎหมาย เพียงแต่ต้องใช้ระบบวิธีบริหารจัดการ ซึ่ง ป.ป.ช.เคยเสนอมาตรการไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) และครม.ได้เสนอไปยังหน่วยงานให้ดำเนินการตามที่ป.ป.ช.เสนอ เพียงแต่ยังติดอุปสรรคในเรื่องเทคโนโลยี และงบประมาณ ขณะนี้หน่วยงานกำลังดำเนินการ ซึ่งการใช้ QR code ในการเก็บรายได้ทำให้สะดวก ทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องมานั่งนับเงินและเก็บสด
เมื่อถามว่า จะมีระบบการตรวจสอบการจัดเก็บเงินในแต่ละจุดแบบภาคเอกชนที่มีหน่วยงาน audit จะเป็นไปได้หรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า กรณีนี้มี สตง.ดำเนินการสุ่มตรวจอยู่แล้ว ซึ่งป.ป.ช.จะประสานให้สุ่มตรวจเป็นประจำทุกปีต่อไป ขณะเดียวกัน กรณีนักท่องเที่ยวไม่มีเงินสดนั้น หากมีความจำเป็นก็สามารถดำเนินการโอนได้ แต่จะมีปัญหาเนื่องจากเคยมีกรณีร้องเรียนและมีการตรวจสอบ อาจส่งผลปัญหาเรื่องเส้นทางการเงินซึ่งจะเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่โดยตรง
จากนั้น ป.ป.ช. ได้ลงพื้นที่ติดตามการจัดเก็บรายได้ พื้นที่เกาะกระดาน โดยได้สอบถามวิธีการจัดเก็บกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณซุ้มจัดเก็บรายได้ พบว่าการจัดเก็บมีลักษณะเช่นเดียวกัน มีการขายบัตร ใช้กล่องพลาสติกสำหรับเก็บเงินรายได้ โดยเจ้าหน้าที่ยอมรับว่า การจัดเก็บรายได้กับบัตรค่าเข้าชมจะนำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งจะสัมพันธ์กับรายได้ที่จัดเก็บ แต่ยอมรับว่ามีเรือนำเที่ยวที่ลักไก่ ไม่ผ่านจุดชำระเงิน ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมากับกรุ๊ปทัวร์ หรือพักรีสอร์ท โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตระเวณตรวจตรา หากพบไม่ชำระจะให้ชำระให้ถูกต้อง
นายปทุม พงศกรเฟื่องฟู หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวว่า สำหรับการจัดเก็บค่าเข้าอุทยานหาดเจ้าไหมจะมีจุดจัดเก็บอยู่ 5 จุดคือที่สำนักงานท่าเรือปากเมง เกาะกระดาน หน้าถ้ำมรกต และหาดหยงหลิง ส่วนเกาะกระดานเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาจะมาเทียบเรือที่โป๊ะ และนักท่องเที่ยวจะเดินมาชำระค่าธรรมเนียมตรงบริเวณทางขึ้นอุทยาน ราคาคนไทยผู้ใหญ่ 40บาท เด็ก 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ทั้งนี้ สามารถชำระที่สำนักงานและท่าเรือปากเมง จากนั้นจะโชว์ค่าบัตรธรรมเนียมได้ที่เกาะกระดาน ซึ่งจะไม่ให้เกิดการจัดเก็บที่ซ้ำซ้อน ส่วนกรณีถ้ำมรกตที่มีเจ้าหน้าที่ล่องเรือจัดเก็บค่าธรรมเนียมนั้น ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะได้รับแจ้งค่าธรรมเนียมจากบริษัททัวร์ จากนั้นจะออกไปรอ และนับจำนวนนักท่องเที่ยว ว่าตรงกับจำนวนที่บริษัทจ่ายมาหรือไม่ ยอมรับว่าอาจจะมีพลาดบ้าง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ใช้เรือยางออกไปแค่ลำเดียว ถ้าเรือมาพร้อมกันหลายลำ บางครั้งการสื่อสารอาจมีอุปสรรค ประกอบกับสภาพอากาศคลื่นลม หากเจ้าหน้าที่มาช้าจะไม่ทันนักท่องเที่ยวที่ออกเรือไปก่อนแล้ว ขณะเดียวกัน กรณีเรือจากรีสอร์ท หากพบจะสามารถจัดเก็บได้ และมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าชำระค่าธรรมเนียมแล้วหรือยัง
นายปทุม ยังระบุว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบ e-ticket มีการดำเนินการไปในอุทยานแห่งชาติ 5 แห่งแล้ว แต่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมยังไม่ได้ดำเนินการ ส่วนที่หลังจากนี้จะใช้ระบบสแกนหรือโอนเข้าบัญชีขึ้นอยู่กับกรมอุทยานฯจะไปดำเนินการ ซึ่งจะต้องมีการปรับแก้ระเบียบก่อน ว่าจะดำเนินการได้อย่างไร แต่ตอนนี้ยังคงรับเงินสดอย่างเดียว
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ หาดเจ้าไหม แก้ปัญหาเรือที่จะไม่จ่ายค่าธรรมเนียมด้วยการทำโป๊ะลอยน้ำ เพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียม โดยได้มีการขออนุมัติงบแล้วและจะดำเนินการได้ โดยอยู่ระหว่างการจัดซื้อที่กรม และนำมาติดตั้งที่นี่ภายในปีนี้ ต่อไปเรือก็จะมาเทียบที่โต๊ะจัดเก็บค่าธรรมเนียมนี้ แล้วไปจอดเรือด้านนอก ซึ่งจะแก้ปัญหาได้มาก ทั้งนี้ ส่วนตัวก็เห็นด้วยที่จะเปลี่ยนเป็นระบบ e-ticket เพื่อความสะดวกกับเจ้าหน้าที่และบริษัททัวร์ อย่างไรก็ตาม บริเวณเกาะกระดานและหน้าถ้ำมรกต จัดเก็บรายได้ประมาณ 50,000 บาทต่อวัน