รมว.พม. เป็นประธานเปิดงาน “เสริมพลัง สร้างชุมชนเพื่อทุกคน”
รมว.พม. เป็นประธานเปิดงาน “เสริมพลัง สร้างชุมชนเพื่อทุกคน” และการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนับสนุนการศึกษาวิจัย การสำรวจ และการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวก ตามหลักการออกแบบเพื่อทุกคน หรือ Universal Design
วันนี้ (6 ส.ค. 60) เวลา 13.30 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เสริมพลัง สร้างชุมชนเพื่อทุกคน” และการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนับสนุนการศึกษาวิจัย การสำรวจ และการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวก ตามหลักการออกแบบเพื่อทุกคน หรือ Universal Design โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานสร้างชุมชนเพื่อทุกคน การประกาศเกียรติคุณยกย่องหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือและขับเคลื่อนโครงการฯ ให้ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนสื่อสารสังคม และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อเป็นแบบอย่างความสำเร็จให้แก่จังหวัดอื่นๆในการขยายผลต่อไป พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณจังหวัดตัวอย่างเสริมพลัง สร้างชุมชนเพื่อทุกคน จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลำปาง นครพนม ชลบุรี น่าน ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี ยโสธร ตาก นนทบุรี และพิษณุโลก ณ ห้องประชุมชั้น 2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และการเสริมสร้างให้ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะต่างๆ สำหรับรองรับผู้สูงอายุและคนพิการ ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะทำให้คนพิการและผู้สูงอายุ สามารถเข้าถึงบริการข้อมูลข่าวสารต่างๆ และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม อันจะนำไปสู่การยอมรับเช่นเดียวกับคนทั่วไป โดยการบูรณาการร่วมกันตามแนวคิดที่มองว่าคนพิการและผู้สูงอายุ เป็นพลังของสังคม ทั้งนี้ การจัด สิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ไม่ใช่ทำเฉพาะเพื่อคนพิการเท่านั้น แต่เพื่อทุกคนในสังคม และที่สำคัญในวันนี้ สังคมไทยกำลัง ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกจึงเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ที่อ่อนแอทางร่างกาย สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้เต็มที่
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ บูรณาการร่วมกับหน่วยงาน และองค์กรคนพิการ เพื่อร่วมกันกำหนดและผลักดันการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในภาพรวม ที่ครอบคลุมทุกมิติให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างและพัฒนารูปแบบอาชีพให้เหมาะกับคนพิการแต่ละประเภทความพิการ เพื่อนำไปสู่การจ้างงานตามที่กฎหมายกำหนดอย่างยั่งยืน การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกและการนำเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยให้คนพิการสามารถเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม และการศึกษาวิจัย เพื่อป้องกันความพิการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้ง การส่งเสริมภาคเอกชนในการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เอื้อต่อคนพิการและผู้สูงอายุ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเมืองอนาคตเพื่อทุกคน โดยเฉพาะคนพิการและผู้สูงอายุ ทำให้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ และที่สาธารณะได้อย่างไม่มีอุปสรรค เพื่อเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง และเปิดกว้างให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกัน เป็นสังคมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของทุกคนหรือชุมชนอารยสถาปัตย์ โดยหวังว่าจะขยายผลครอบคลุมทุกชุมชนทั่วประเทศต่อไป ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงาน การลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และสถาบันการศึกษา รวมทั้งสิ้น 13 หน่วยงาน เพื่อสนับสนุนการศึกษา วิจัย การสำรวจ และสนับสนุนการจัดทำสิ่งอำนวย ความสะดวกตามหลักการออกแบบเพื่อทุกคน หรือ Universal Design ในพื้นที่ดำเนินโครงการฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย ผู้แทนจากส่วนราชการ สถาบันการศึกษา ผู้แทนองค์กรเอกชน องค์กรด้านคนพิการ คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 150 คน
“การดำเนินงานดังกล่าวจะสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ จากทุกภาคส่วนในสังคม ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าหากคนพิการได้รับการพัฒนาอย่างครบถ้วนในทุกด้าน รวมทั้ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสภาพแวดล้อมที่ปราศจากอุปสรรคแล้ว จะส่งผลให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข และสิ่งที่เราอาจจะคิดว่าเป็นภาระ ก็จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังของครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ซึ่งในวันนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่พวกเราที่จะมาร่วมกันเดินหน้าประเทศไทย เพื่อ “เปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง สร้างสังคมเพื่อทุกคน” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย
########