RGF Executive Search Thailand เสริมแกร่ง Recruitment Agency ยุค 4.0 ต้องโตด้วย “คุณภาพ” และ “นวัตกรรม”
เศรษฐกิจที่กำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความนิยมให้เพิ่มขึ้นในหลายๆ อุตสาหกรรม รวมไปถึงธุรกิจจัดหางาน หรือ Recruiting Agency ซึ่งเติบโตตามอย่างมีนัยสำคัญในระยะเวลา 10 ปีให้หลังปัจจุบันนี้ธุรกิจจัดหางานก็ยังถูกท้าทายจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมรวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างคือความรวดเร็ว
การที่สองธุรกิจยักษ์ใหญ่ในวงการ Recruitment Agency อย่าง RGF International Recruitment (RGF) หนึ่งในสมาชิกของ Recruit Group ซึ่งเป็นบริษัทจัดหางานใหญ่อันดับ 4 ของโลกที่ทำรายได้สูงถึง 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในประเทศญี่ปุ่น และ Bó Lè Associates เอเจนซี่หางานที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วเอเชียประกาศควบรวมกิจการถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญที่อาจมีผลกระทบในวงกว้างต่อธุรกิจสรรหาบุคลากรในระดับนานาชาติ ในปี 2013 RGF ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท Bó Lè Associates ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2018 บริษัท Bó Lè Associates Thailand จะถูกรีแบรนด์อย่างเต็มรูปแบบภายใต้ชื่อ RGF Executive Search Thailand รวมไปถึง
Bó Lè Associates สาขาอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในอินโดนีเซียและมาเลเซียอีกด้วย
คุณเวทิสา กาญจนแก้ว, Head of executive search business ประเทศไทย และ Office Head, RGF Executive Recruitment (Thailand) Limited กล่าวว่า การควบรวมครั้งนี้ คือการช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเติมเต็ม ต่อยอดการให้บริการของแต่ละฝ่ายให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เพราะมีความมั่นใจว่าการผนึกกำลังครั้งนี้จะสร้างแต้มต่อให้กับธุรกิจทั้งสองบริษัทเมื่อพิจารณาจุดแข็งสำคัญของ RGF คือการมีความเชี่ยวชาญในระดับลึกในทุกสายงานและอาชีพ ทั้งทีมศึกษาวิจัย และเครือข่ายเหนียวแน่น อันเกิดจากการสั่งสมความสัมพันธ์ที่ดีทั้งกับลูกค้า ด้วยการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าแท้จริงอีกทั้งให้การบริการในรูปแบบ Retained และ Hybrid ที่จะช่วยลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้นขณะที่ Bó Lè Associates คือเป็นธุรกิจสรรหางานที่มีจุดเด่นในเรื่องหลักการทำงานและการให้บริการลูกค้าที่ชัดเจน (Methodology) คือการเน้นในเรื่องคุณภาพ และความใส่ใจในทุกกระบวนการ
RGF ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการช่วยองค์กรธุรกิจอันดับต้นๆทั่วเอเชียสรรหาบุคลากรคุณสมบัติเยี่ยมมาแล้วกว่า 20,000 ตำแหน่ง และเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้าองค์กรไม่น้อยกว่า 400 รายในระดับนานาชาติ RGF มีการให้บริการด้านสรรหาบุคลากรแบบครบวงจรในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับล่าง (Entry Level) ระดับกลาง (Middle Management) ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง (Executive Search) แก่ลูกค้าทั้งในประเทศญี่ปุ่น และในประเทศอื่นๆ อีกกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
RGF หางานให้กับบุคลากรมาแล้วไม่น้อยกว่า 45,000 คน ซึ่งเน้นโฟกัส ใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่
RGF Professional Recruitment บริการสรรหาบุคลากรในกลุ่ม mid-level management และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพพิเศษให้กับลูกค้าธุรกิจ, RGF HR Agent บริการสรรหาบุคลากรสำหรับองค์กรญี่ปุ่นที่ตั้งสาขาในต่างประเทศและสำหรับผู้หางานที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ และสุดท้าย Executive Search Function เป็นธุรกิจที่เฟ้นหาผู้บริหารระดับสูงสำหรับบริษัทข้ามชาติที่ได้กวาดรางวัลด้านการดำเนินธุรกิจด้าน Executive Search ระดับดีเลิศมาแล้วทั้งในจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ โดยหลังจากการควบรวมกิจการในครั้งนี้ ทาง RGF มีการวางแผนที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยการขยายกิจการสู่ระดับโลก
ส่วน Bó Lè Associates คือผู้นำด้าน Executive Search ในภูมิภาคเอเชีย ปัจจุบันมีสำนักงานสาขาเพื่อให้บริการลูกค้าอยู่ใน 13 เมือง ตลาดสำคัญคือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยังมีสำนักงานสาขาในจีนมากถึง 10 สาขา Bó Lè มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการสรรหาบุคลากรในระดับ ผู้บริหารมากว่า 20 ปี มีจุดเด่นในเรื่องทีมที่ปรึกษาและทีมวิจัยตลาด ทำให้ที่ผ่านมามีรางวัลการันตีไม่น้อยเช่นกัน
ซึ่งหลังจากการควบรวมกิจการในวันที่ 1 เมษายน 2018 แล้ว ทุกสาขาของ Bó Lè Associates ในประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย จะเปลี่ยนชื่อเป็น RGF Executive Search เพื่อตอกย้ำความพร้อมในการเป็นผู้ให้บริการสรรหา Executive Search ครบวงจรสำหรับลูกค้าทั่วโลก โดยก้าวแรกในการติดอาวุธให้กับ RGF Executive Search คือการพัฒนาเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ในอินเดีย เพื่อเป็นการเปิดพื้นที่ให้กว้างขึ้นในการค้นหาแคนดิเดทที่มีคุณสมบัติโดดเด่นเพื่อตอบสนองตามความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจรีครูทเมนท์ เอเจนซี่มีการแข่งขันสูง ไม่แต่เฉพาะเอเจนซี่ที่ต้องแข่งขันกันเอง เพราะลูกค้าองค์กรก็พัฒนาทีมสรรหาบุคลากรภายในองค์กรเองเช่นกัน เมื่อการแข่งขันสูงขึ้น จึงไม่แปลกหากอัตราความสำเร็จในการจับคู่ “คน” กับ “งาน” ที่เรียกว่า Successful Rate ในวันนี้จะไม่สูงเหมือนในอดีต ซึ่งมีมากกว่า 80% หากลดลงมาเหลือน้อยกว่า50% ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากเทรนด์ลูกค้าเริ่มหันมาใช้บริการหลายเอเจนซี่ในการหาบุคลากรในตำแหน่งเดียวกัน แนวโน้มนี้ จึงทำให้ในบางบริษัทหรือบางประเทศที่มีการแข่งขันสูง อาทิในประเทศสิงคโปร์มี Successful Rate ลดลงเหลือเพียง 20% เท่านั้น
“แต่การที่ลูกค้ายังเดินมาหาเราเพราะเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ทั้งเรื่องความรวดเร็วและคุณภาพ ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญของธุรกิจเรา”
เป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธว่า ปัจจุบันกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจที่กำลังก้าวสู่ยุคดิจิทัลค่อนข้างมีบทบาทต่อธุรกิจจัดหางาน แต่แม้โซเชียลมีเดียจะมีข้อดีในเรื่องความรวดเร็ว แต่เธอให้ความเห็นอีกมุมมองว่าการเป็นรีครูทเตอร์ในยุคนี้ จะพึ่งพาแต่ “ความรวดเร็ว” อย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีแนวคิดที่ “สร้างสรรค์” และมี “อินโนเวทีฟ” รวมถึง “การรักษาคุณภาพและมาตรฐานแบบมืออาชีพ” เหล่านี้คือกุญแจก้าวสู่ความสำเร็จ
“RGF Executive Search Thailand เองก็กำลังมีการปรับตัวมากขึ้น เราพยายามวางกลยุทธ์ด้วยอินโนเวทีฟ โดยเมื่อก่อนเราทำงานแบบ across function หรือ across industry ซึ่งอาจมองแต่ภาพกว้างๆ แต่ต่อไปนี้จะต้องโฟกัสความเป็น Specialization เพื่อลงลึกในแต่ละอุตสาหกรรมอาชีพมากขึ้น ดังนั้นเราจึงมุ่งพัฒนาศักยภาพทีมงานที่ปรึกษาของเราให้สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากรในระดับเชิงลึกในแต่ละอุตสาหกรรมหรือแต่ละสายงานก่อนใคร”
ขณะเดียวกัน จุดเด่นจากการมีสำนักงานสาขาทั่วภูมิภาคเอเชีย ทำให้ RGF Executive Search Thailandสามารถแชร์ในเรื่องข้อมูล และดาต้าเบส และมีฐานข้อมูลแบบเชิงลึกของทั้งแคนดิเดทและทั้งลูกค้าองค์กรทั่วภูมิภาค โดยข้อมูลดังกล่าวสามารถแลกเปลี่ยนหรือนำมาใช้เป็นประโยชน์กับสำนักงานสาขาได้
“การที่เราเป็นบริษัทในเครือของ RGF เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเสริมจุดแข็งของบริษัทเพราะ RGF มีเครือข่ายกว้างขวาง ที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูล รวมทั้งการแชร์ความรู้ และบุคคลากรระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ เราให้ความสำคัญกับการอัพเดทข้อมูล โดยดาต้าเบสที่เรามีต้องรีเฟรชตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อให้ข้อมูลที่มีเป็นข้อมูลที่ทันสมัย การมีทีมวิจัยที่คอยสำรวจความเคลื่อนไหวและเทรนด์ความต้องการของตลาดแรงงานทั่วโลกตลอดเวลาและต่อเนื่อง ถือเป็น Value Added ที่เหนือกว่า เพราะเราสามารถรู้ความเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว”
กลยุทธ์นี้นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องความรวดเร็วแล้ว ยังมีองค์ความรู้ทั้งในภาพรวมและทิศทางของแต่ละอุตสาหกรรม รวมถึงการเรียนรู้วัฒนธรรมของคนในแต่ละสายงานเพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดี เป็นแนวโน้มที่เป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะช่วยในการวางแผนหรือการเตรียมสรรหาบุคลากรที่ตรงตามความต้องการของตลาดได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะหัวใจสำคัญคือ “Human Touch” การสร้างความสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวยังเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจรูปแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลขนาดไหน
“การสื่อสารพูดคุยเป็นกลไกสำคัญที่มีประโยชน์มาก เป็นการทำให้เรารู้จักตัวคนหรือความสามารถมากขึ้นทั้งในแง่ technical skill และ soft skill เพื่อที่จะสกรีนว่ามีความเหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่ เราจึงเน้นมากว่าทีมงานทุกคนต้องมีการสัมภาษณ์แบบเผชิญหน้ากับแคนดิเดทก่อนที่จะส่งต่อลูกค้าเสมอ และเรายังให้ความสำคัญในการเทรนเพื่ออัพเดทความรู้แก่พนักงานของเรา ไม่เพียงในเรื่อง Specialization แต่เรายังเสริมความรู้ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเทรนการพัฒนาธุรกิจ การบริหารลูกค้า การสร้างภาวะความเป็นผู้นำ เป็นต้น หรือบางครั้งเราจะมีการเชิญลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรมมาช่วยบรรยายภาพรวมธุรกิจเป็นประจำ นี่คืออีกจุดแข็งสำคัญที่เรามี” คุณเวทิสากล่าวทิ้งท้าย
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ : https://www.rgf-hr.com/