รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป ร่วมเครือข่ายอนาคตไทย

เสนอแคมเปญ “อย่าให้ใครว่าไทย เลี้ยงลูกไม่เป็น” หนุนพ่อแม่-ครู ใช้การพัฒนาทักษะสมอง “อีเอ็ฟ” เป็นเครื่องมือสร้างคนรุ่นใหม่
กลุ่มบริษัทอาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) หนึ่งในเครือข่ายอนาคตไทย ชูประเด็น “อย่าให้ใครว่าไทย เลี้ยงลูกไม่เป็น” หนุนพ่อแม่-ครู ใช้การพัฒนาทักษะสมอง “อีเอ็ฟ” เป็นเครื่องมือสร้างคนรุ่นใหม่ ปลอดนิสัยไม่พึงประสงค์ โกง-ฟุ้งเฟ้อ-มักง่าย-ขาดสติ
ภายหลังการเปิดตัวโครงการรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา โดยเครือข่ายอนาคตไทยซึ่งเป็นการรวมตัวกันของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อร่วมดำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมในระดับประเทศ ปัจจุบันมีภาคี 104 องค์กร โดย 6 องค์กรหลักผู้ริเริ่ม ได้แก่ มูลนิธิมั่นพัฒนา สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและสภาหอการค้าไทย มีเป้าประสงค์เพื่อการกระตุ้นคนไทยให้ตระหนักถึงปัญหานิสัยไม่พึงประสงค์ (โกง ฟุ้งเฟ้อ มักง่าย ขาดสติ) ซึ่งการดำเนินงานในปี 2559 นี้ นอกจากองค์กรสมาชิกเครือข่ายจะร่วมกันขับเคลื่อนแคมเปญมุ่งปรับลดนิสัยไม่พึงประสงค์ทั้ง 4 ด้านข้างต้นในสังคมไทยแล้ว ยังมีกลุ่มองค์กรเครือข่ายที่สร้างสรรค์แคมเปญซึ่งมีความสอดคล้องกับภารกิจขององค์กร และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาสังคมไทยให้ไปสู่เป้าหมายเดียวกันหนึ่งในนั้นคือ กลุ่มบริษัท อาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) ซึ่งถือเป็นภาคีที่มีทุนทางศักยภาพและความเชี่ยวชาญเฉพาะที่สามารถสนับสนุนภารกิจของเครือข่ายอนาคตไทยได้อย่างเข้มแข็ง
ศิริพร ผลชีวิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) กล่าวว่า เหตุผลสำคัญในการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการอย่าให้ใครว่าไทย เพราะเป้าหมายของกลุ่มอาร์แอลจีและเครือข่ายอนาคตไทยมีความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยกลุ่มอาร์แอลจีมีการดำเนินการที่เน้นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพและคุณธรรมเพื่อสร้างสังคมที่น่าอยู่ โดยเฉพาะในสาย Parenting ที่สร้างการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาเด็ก พ่อแม่ และครอบครัวไทยที่ได้รับความเชื่อถือมากว่า 30 ปี
ทั้งนี้ ในช่วงแรกของการเข้าร่วมเครือข่ายอนาคตไทย อาร์แอลจีได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการอย่าให้ใครว่าไทย โดยการร่วมประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์โฆษณา “อย่าให้ใครว่าไทย...” ทั้ง 4 ชุด (ปรับลดนิสัย โกง ฟุ้งเฟ้อ มักง่าย ขาดสติ) ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ขององค์กร และต่อมาอาร์แอลจี ได้มีการพัฒนาแนวทางการสนับสนุนภารกิจของเครือข่ายอนาคตไทย โดยการสร้างแคมเปญที่เรียกว่า “อย่าให้ใครว่าไทย เลี้ยงลูกไม่เป็น” ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนตามแนวทางที่ตนเองถนัดและเชี่ยวชาญ โดยจะใช้ช่องทางเผยแพร่แคมเปญนี้ผ่านสื่อต่างๆ ภายในเครือ อาทิ รายการโทรทัศน์โมเดิร์นมัม โมเดิร์น แฟมิลี่ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD (ช่อง 30) ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.35 น. การจัดทำโฆษณาลงตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และการจัดนิทรรศการในงานรักลูก แฟมิลี่ เฟสติวัล 2016
อย่าให้ใครว่าไทย เลี้ยงลูกไม่เป็น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาร์แอลจี ชี้ว่า โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีความวุ่นวาย ซับซ้อน และมีปัญหาสังคมเกิดขึ้นมากมาย เราพบว่าขณะนี้มีเด็กไทยจำนวนมากที่ตกอยู่ในสภาวะเสี่ยง เช่น ติดยาเสพติด ติดการพนัน ติดเกม ติดโซเชียล ชอบใช้ความรุนแรง หรือปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน เป็นต้น แนวทางการพัฒนาทักษะสมองที่ทางอาร์แอลจีดำเนินการอยู่ สามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้เพื่อสร้างเสริมลักษณะนิสัยที่ดี และสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเกิดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของเด็กที่จะเติบโตขึ้นมาในสังคมไทยได้ ซึ่งจะทำให้เด็กไทยคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และใช้ชีวิตอย่างรู้เท่าทันโลกปัจจุบัน
“เลี้ยงลูกอย่างไรได้อย่างนั้น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาร์แอลจี ระบุถึงแนวคิดในการดูแลเด็ก และปัญหาที่พบคือ พ่อแม่ผู้ปกครองไม่รู้วิธีการ โดยเฉพาะเมื่อเด็กเข้าโรงเรียนแล้ว ผู้ปกครองส่วนใหญ่มอบให้ภาระการดูแลเด็กเป็นของโรงเรียน ตนเองหันไปให้ความสำคัญกับการทำงานหาเงิน ให้เวลากับลูกน้อยลงหรือไม่มีเวลาให้กับลูกเลย ไม่รู้วิธีสั่งสอนหรือใช้เหตุผลกับลูก เร่งเรียนเขียนอ่าน ละเลยการปลูกฝังในด้านคุณธรรม และการเสริมสร้างทักษะนิสัยที่ดี เหล่านี้ คือสภาวการณ์ของการ “เลี้ยงลูกไม่เป็น”
อาร์แอลจีได้นำองค์ความรู้ “การพัฒนาทักษะสมอง” หรือ Executive Function (EF) ที่สถาบันอาร์แอลจี พัฒนาร่วมกับศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ เพื่อสร้างลักษณะนิสัยและพฤติกรรมที่เหมาะสมให้กับเด็ก ซึ่งเชื่อมั่นว่า ผลของการใช้เครื่องมือดังกล่าวจะสร้างคนรุ่นใหม่ที่ปลอดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ โกง-ฟุ้งเฟ้อ-มักง่าย-ขาดสติ ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ Executive Functions หรือ อีเอ็ฟ คือทักษะของสมองที่เป็นชุดกระบวนการทางความคิด (Mental process) ทำงานในสมองส่วนหน้า (Prefrontal cortex) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคิด การรู้สึก และการกระทำของมนุษย์ ช่วยให้มนุษย์คิดเป็น มีเหตุมีผล ยับยั้งชั่งใจได้ ควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของตนเองได้ วางแผนทำงานเป็น มุ่งมั่นจดจ่อ จำคำสั่ง และจัดการกับงานหลายๆ ด้านได้ โดยการจัดลำดับความสำคัญของงาน เพื่อให้งานทุกอย่างลุล่วงเรียบร้อยได้ โดยยึดเป้าหมายแล้วทำเป็นขั้นเป็นตอนจนสำเร็จ
จากการศึกษาวิชาการด้านประสาทวิทยา (Neuroscience) พบว่า สมองส่วนหน้ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น และในช่วงวัย 3-6 ปี ถือเป็น “หน้าต่างแห่งโอกาส” ที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นช่วงวัยซึ่งจะสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้แก่ทักษะสมองอีเอ็ฟได้ดีที่สุด
“เรียกง่ายๆ ว่า ‘ทักษะนิสัยดี’ ซึ่งสามารถพัฒนาขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูในวัยเด็กเพื่อสร้างทักษะให้เกิดขึ้นและจะคงอยู่ตลอดไป เพราะการไปสร้างตอนโตทำได้ยาก ความสำคัญจึงอยู่ที่คนที่ดูแลเด็ก ทั้งพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมทั้งคุณครู หากมีความรู้ความเข้าใจก็จะรู้ว่า คุณลักษณะนิสัยใดที่เด็กยังขาด ก็จะรู้วิธีที่จะเติมหรือปลูกฝังให้เกิดมีขึ้น”
“สิ่งที่เรานำเสนอก็คือ การพัฒนาทักษะสมองไม่ใช่เรื่องซับซ้อนหรือต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย แต่เป็นความเข้าใจในวิธีการเลี้ยงดูเด็ก ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองมีความรู้ก็สามารถนำไปใช้ได้ เช่น การฝึกความรับผิดชอบ โดยการมอบหมายงานบ้านง่ายๆ ให้ลูก หรือการพัฒนาทักษะความคิด โดยการตั้งคำถามชวนคิดในแง่มุมที่แตกต่างให้เด็กได้คิดระหว่างการอ่านนิทานหรือหลังจากอ่านนิทานจบแล้ว ซึ่งเด็กจะได้ดึงข้อมูลที่มีอยู่มาเรียบเรียง และสรุปเป็นองค์ความรู้ของตัวเอง เป็นต้น”
หนุนภาคี เลี้ยงลูกมีคุณภาพ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อาร์แอลจี เล่าถึงกิจกรรมโครงการอย่าให้ใครว่าไทย เลี้ยงลูกไม่เป็นในระยะที่ผ่านมาว่า ทางอาร์แอลจีได้เปิดตัวโครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย เลี้ยงลูกไม่เป็น” ในงานรักลูก แฟมิลี่ เฟสติวัล 2016 ซึ่งจัดขึ้นที่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยนำเสนอแนวทางการพัฒนาทักษะสมอง “อีเอ็ฟ” เพื่อสร้างเสริมลักษณะนิสัยที่ดี และลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ตามแคมเปญของโครงการฯ ได้แก่ โกง ฟุ้งเฟ้อ มักง่าย ขาดสติ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่พ่อแม่ผู้ปกครอง
รวมทั้งการใช้สื่อของอาร์แอลจี เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้และทักษะเรื่องอีเอ็ฟภายใต้แคมเปญ “อย่าให้ใครว่าไทย เลี้ยงลูกไม่เป็น” ซึ่งประกอบด้วยการประชาสัมพันธ์และการกำหนดประเด็นเพื่อสื่อสารความรู้ ผ่านสื่อของอาร์แอลจี ครอบคลุมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ รายการโทรทัศน์ การจัดกิจกรรม และสื่อดิจิทัล อาทิ คอลัมน์ประจำในนิตยสารรักลูกและโมเดิร์นมัม การจัดพิมพ์ความรู้เรื่องอีเอ็ฟในรูปแบบของซัพพลีเม้นต์ การจัดรายการช่วง Kidscovery World ในรายการโทรทัศน์โมเดิร์นมัม โมเดิร์น แฟมิลี่ กิจกรรมตลอดทั้งปีของรักลูก พาเรนติ้ง เซ็นเตอร์ เป็นชุมชนเพื่อการเรียนรู้ของพ่อแม่แห่งแรกของประเทศ ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ จนถึงครอบครัวที่มีลูกอายุ 9 ปี โดยกิจกรรมที่ผ่านไปเมื่อเร็วๆ นี้ ได้แก่ “วัยแสบสาแหรกขาด จากละครสู่ฟอรัม เปิดปมพ่อแม่และสังคมไทยเรื่องการเลี้ยงลูก” รวมไปถึงการส่งเสริมความรู้ผ่านเฟซบุ๊กพัฒนาทักษะสมอง EF และเว็บไซต์ www.rlg-ef.com
“จากการสำรวจด้วยแบบสอบถาม พบว่าพ่อแม่จำนวนมาก มีความกังวลเรื่องของการเลี้ยงลูก จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และอาจจะยัง ไม่รู้ถึงความสำคัญและวิธีการที่จะสร้างทักษะนิสัยที่เหมาะสมให้กับลูก เหมือนอย่างที่เราเคยได้ยินว่า ลูกเดินชนโต๊ะ พ่อแม่กลับตีโต๊ะ แล้วบอกลูกว่า แม่จัดการให้แล้ว ซึ่งเท่ากับสอนลูกให้โทษคนอื่น แทนที่จะใช้ความระมัดระวัง เป็นต้น”
“เราพร้อมสนับสนุนบุคลากรและสื่อความรู้เกี่ยวกับอีเอ็ฟ ให้กับสมาชิกเครือข่ายอนาคตไทยและองค์กรที่มีความสนใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการนำความรู้และวิธีการไปใช้เพื่อเลี้ยงดูเด็กอย่างเหมาะสม”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อาร์แอลจี ตั้งความหวังว่า งานด้านการเผยแพร่องค์ความรู้และวิธีการพัฒนาทักษะสมองอีเอ็ฟ โดยความร่วมมือกับโครงการอย่าให้ใครว่าไทย จะช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเติบโตต่อไปในอนาคต พร้อมคุณลักษณะพื้นฐานซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาตนเองและสังคม ตรงตามเป้าหมายที่เครือข่ายอนาคตไทยได้วางไว้อย่างแน่นอน