ปตท.ผนึก “TTA-สตรอม” รุก Battery Swapping เร่งแบรนด์มอร์เตอร์ไซค์ไฟฟ้า P80 Go
กลุ่มปตท. ผนึก “TTA-สตรอม” ขยายเครือข่าย Battery Swapping ทางเลือกใหม่เพื่อสังคมไร้มลพิษ ตั้งเป้าไรเดอร์ใช้บริการสิ้นปีนี้ 500 คัน จากปัจจุบัน 60 คัน จ่อขยายจุดสลับแบต 100 แห่ง คาดกำลังผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ P80 Go ปี 66 ที่ 10,000 คัน และปี 67 ที่ 25,000 คัน
นางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด (Swap & Go) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ถือเป็นบริษัทลูกที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 100% มุ่งให้บริการแพลตฟอร์มหรือโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเครือข่าย Battery Swapping หรือสลับแบตเตอรี่แบบไม่ต้องรอชาร์จ ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดรับเทรนด์และเทคโนโลยีของโลกที่เปลี่ยนแปลง เพื่อตอบสนองนโยบายและทิศทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ภาครัฐ เพิ่มศักยภาพการใช้พลังงานสะอาดให้กับประชาชน และร่วมสร้างต้นแบบการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานอนาคตครบวงจรมาใช้งานจริงในประเทศ
"เราพัฒนารูปแบบธุรกิจการให้บริการสลับแบตเตอรี่ตอบโจทย์การใช้งาน ออกแบบการใช้งานให้ง่าย สะดวก และทันสมัย ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Swap & Go เชื่อมต่อกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่รองรับการใช้งาน เพื่อตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ ค้นหาตำแหน่งสถานี จองแบตเตอรี่ใหม่ล่วงหน้า และมีระบบนำทางไปยังสถานีและสแกน QR code เพื่อสลับแบตเตอรี่เดิมที่หมดกับแบตเตอรี่ใหม่ที่พร้อมใช้งานในตู้ชาร์จด้วยตัวเองได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ปัจจุบันมีสถานีที่ 22 แห่ง ตั้งเป้าขยายเป็น 100 แห่งไม่เกินปี 2566 ขณะนี้มีไรเดอร์จากแกร็บและเซเว่นใช้งานในระบบที่ 50-60 คัน ตั้งเป้าปีหน้าไว้ที่ 500 คัน"
ทั้งนี้ Swap & Go พร้อมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และให้บริการที่เหมาะสมกับสังคมไทย และพัฒนา EV Ecosystem เพื่อเตรียมความพร้อมในการเพิ่มจำนวนการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยผ่านการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ สู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ร่วมกับ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA บริษัทชั้นนำด้านการลงทุนในเชิงกลยุทธ์ ขานรับนโยบายรัฐบาลในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เปิดตัว บริษัท พี80 โก จำกัด (P80 Go) อย่างเป็นทางการ เพื่อพัฒนาและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (Electric motorcycle) ที่มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มไรเดอร์อย่างแท้จริง
“อีกทั้ง TTA ยังร่วมมือกับบริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด (STROM) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ เพื่อพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ P80 Go ให้สามารถใช้งานสลับแบตเตอรี่ในระบบของ Swap & Go ได้”
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA และบริษัท พี80 โก จำกัด กล่าวว่า เพื่อต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพไรเดอร์ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐบาลอีกแรงหนึ่งด้วย นอกจากนี้ TTA มีนโยบายการทำธุรกิจที่ยั่งยืนและให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องการลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprints)
ดังนั้น ธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของบริษัท พี80 โกฯ จึงสอดคล้องกับนโยบายของ TTA และจะช่วยลดผลกระทบต่อมลภาวะที่เกิดขึ้นได้ เช่น ฝุ่นจากการเผาไหม้ และมลภาวะทางเสียง เป็นต้น โดย TTA มีธุรกิจในเครือ คือ Skootar ซึ่งเป็นธุรกิจบริการเรียกเมสเซนเจอร์ออนไลน์ และร้าน Pizza Hut ดังนั้น ช่วงประมาณเดือนส.ค. 2565 บริษัท พี80 โกฯ จะนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นทดสอบมาให้ไรเดอร์ Pizza Hut และ Skootar ทดลองใช้ก่อนในเฟสแรก ซึ่งยังเป็นรุ่นที่ชาร์จแบตเตอรี่กับไฟฟ้าตามที่อยู่อาศัย และชาร์จที่ EV Charging Station ตามปั๊มน้ำมันก็ได้เช่นกัน
“รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ P80 Go มีกำลังการผลิตเบื้องต้นประมาณการไว้ที่ 10–20% ของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าภายในประเทศ หรือ 1,000–2,000 คันต่อปี ราคาตั้งแต่ 50,000-120,000 บาท และในอนาคตจะสามารถสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่กับเครือข่ายตู้สลับแบตเตอรี่ของ Swap & Go ซึ่งมีจุดให้บริการครอบคลุมหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศไทยภายใต้แบรนด์ P80 Go จะมีบริการ 3 แบบ คือ แบบให้เช่าใช้รถ แบบเช่าซื้อ แบบขายขาด อย่างไรก็ตาม เพื่อมอบทางเลือกใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับไรเดอร์และผู้ใช้งานทั่วไป เราจะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ขับฟรี 3 เดือน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก P80 Go ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.-30 ก.ย. 2565”
พ.ท. ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ ภาณุพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน STROM ได้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำหรับไรเดอร์เพื่อใช้ขนส่งสินค้าในหลากหลายรูปแบบ ทั้งรับส่งอาหาร ขนส่งพัสดุ และใช้งานส่วนบุคคล ซึ่งมีอุปกรณ์เสริมที่จำเป็น มีระยะทางต่อการชาร์จตั้งแต่ 150-250 กิโลเมตรต่อวัน ภายใต้อัตราเร่งและความเร็วสูงสุดถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากความร่วมมือในครั้งนี้ STROM คาดว่าจะสามารถขยายกำลังการผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ถึง 10,000 คัน ในปีแรก (2566) และจะขยายไปสู่ 25,000 คัน ในปี 2567