มาเซราติ เกรคาเล่ (Grecale) เอสยูวี อารมณ์สปอร์ต เริ่ม 6.49 ล้าน
มาเซราติ ประเทศไทย เสริมตลาดรถเอนกประสงค์ เปิดตัว มาเซรติ เกรคาเล่ (Maserati Grecale) เสริมตลาด เอสยูวี ผลผลิตจาก Maserati Innovation Lab เมืองโมเดนา อิตาลี
ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย กล่าวว่า มาเซราติ เกรคาเล่ (Maserati Grecale) จะเป็นตัวเลือกสำหรับรถในกลุ่ม high performance luxury พัฒนาขึ้นตามคอนเซ็ปต์ "Italian AudacityW หรือความกล้าที่จะแตกต่าง
ในสไตล์อิตาเลียน โดยมี 2 รุ่น คือ GT และ Trofeo
แนวทางการอกแบบเอสยูวีคันนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากรถที่อยู่คนละเซ็กเมนต์กัน คือ ซูเปอคาร์
ปิยะเทพ ศิวากาศ, ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ ประเทศไทย กล่าวว่า มาเซราติ เกรคาเล่ (Maserati Grecale) จะเป็นตัวเลือกสำหรับรถในกลุ่ม high performance luxury พัฒนาขึ้นตามคอนเซ็ปต์ "Italian AudacityW หรือความกล้าที่จะแตกต่าง
ในสไตล์อิตาเลียน โดยมี 2 รุ่น คือ GT และ Trofeo
แนวทางการอกแบบเอสยูวีคันนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากรถที่อยู่คนละเซ็กเมนต์กัน คือ ซูเปอคาร์ “เอ็มซี20” (MC20) เสริมด้วยความแรงของเครื่องยนต์ เน็ททูโน (Nettuno) ในรุ่น Trofeo ซึ่งใช้เทคโนโลยีจากสนามแข่งฟอร์มูลา วัน และยังให้เสียงคำรามแบบ "Maserati Signature Sound"
เสริมด้วยความแรงของเครื่องยนต์ เน็ททูโน (Nettuno) ในรุ่น Trofeo ซึ่งใช้เทคโนโลยีจากสนามแข่งฟอร์มูลา วัน และยังให้เสียงคำรามแบบ "Maserati Signature Sound"
โดยมาเซราติ เกรคาเล่ เป็นเอสยูวีทีมีรูปทรงตัวถังสไตล์คูเป้ เน้นการออกแบบให้มีเส้นสายโค้งมน กระจังหน้าเป็นเอกลักษณ์ ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมไฟท้ายบูเมอแรง ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก มาเซราติ Giugiaro 3200 GT
โดยมิติตัวถัง (รุ่น GT) ยาว 4,846 มม.กว้าง 2,163 มม.(รวมกระจกข้าง)สูง 1,670 มม., (รวมกระจกข้าง) ระยะฐานล้อ 2,901 มม.
ขณะที่ภายในห้องโดยสาร มาเซราติ ยืนยันว่ามีความล้ำสมัย และมีพื้นที่่กว้างสุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ในเซ็กเมนท์เดียวกัน ตกแต่งด้วยหนังแท้, ไม้แท้ และคาร์บอนไฟเบอร์ และยังเป็นครั้งแรกที่ใช้นาฬิกาดิจิทัล แทนนาฬิกาทรงรีแบบดั้งเดิม แสดงข้อมูลได้หลากหลาย
ติดตั้งจอทีเอฟที (TFT: Thin-Film Transistor) ขนาด 12.3 นิ้ว ด้านหน้าผู้ขับ จอทัชสกรีนแบบจอคู่บริเวณกลางแดชบอร์ด โดยจอบนมีขนาด 12.3 นิ้ว และจอล่าง 8.8 นิ้ว ใหญ่สุดเท่าที่เคยติดตั้งในรถยนต์ มาเซราติ ติดตั้งลำโพง Sonus Faber 14 ตำแหน่ง และหากไม่สะใจมีออปชั่นพิเศษให้เลือก เพิ่มเป็น 21 ตำแหน่ง
ด้านเครื่องยนต์ รุ่น จีที (GT) ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ไมลด์ไฮบริด (Mild Hybrid) ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า
รุ่น โทรเฟโอ (Trofeo) ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด เครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ 3.0 ลิตร 530 แรงม้า ที่ใช้พื้นฐานจากเครื่องยนต์เน็ททูโน (Nettuno) ของซูเปอร์คาร์รุ่น เอ็มซี 20 (MC20) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 285 กม./ชม.
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มี 4 โหมดการขับให้ใช้ คือ Comfort, GT, Sport และ Off-road และ รุ่น โทรเฟโอ เพิ่มโหมด ‘คอร์ซา’ (Corsa) ที่มาพร้อมความเร้าใจสูงสุด ผสานระบบควบคุมการทรงตัวใหม่ล่าสุด วีดีซีเอ็ม (VDCM-Vehicle Dynamic Control Module)
ส่วนที่มาของชื่อ เป็นการนำชื่อลมมาใช้ตามแบบฉบับนิยมของมาเซราติ ที่ใช้ลมมาเป็นชื่อรุ่นรถมาแล้วหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถในตำนานอย่างมิสทรัล (Mistral) ตามด้วย กิบลี่ (Ghibli), โบร่า (Bora), แคมซีน (Khamsin) และ เลอวานเต้ (Levante) โดย เกรคาเล่ มีความหมายว่า “ลมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกเฉียงเหนือ”
ราคาจำหน่าย
- เกรคาเล่ จีที เริ่มต้น 6.49 ล้านบาท
- เกรคาเล่ โทรเฟโอ เริ่มต้น 9.49 ล้านบาท
ทั้งนี้ปัจจุบัน มาเซราติ ประเทศไทย ทำตลาด เอสยูวี คือ เลวานเต้ และ เลวานเต้ ไฮบริด