VOLT EV จองทะลุ 1,000 คัน จับตา อีวี จีน คึกคัก แห่ลุยตลาดไทย
อีวี ไพรมัส แจงยอดจอง VOLT CITY EV ที่มีค่าตัวเริ่มต้น 325,000 และ 385,000 บาท ครบโควตา เรียบร้อยแล้ว หลังเปิดจองออนไลน์ 24 ชั่วโมง เทงบ 400 ล้านบาท ขึ้นสายการผลิตโรงงานฉะเชิงเทรา ปีหน้า
บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ DFSK หรือ DONGFENG, SERES และ VOLT ระบุว่า หลังจากเปิดตัว แบรนด์น้องใหม่ โวลท์ (VOLT) พร้อมเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า VOLT CITY EV เมื่อวันที่ 4 สิงหาคาที่ผ่านมา โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 1,000 คัน พร้อมเปิดให้จองผ่านออนไลน์ ตั้งแต่ช่วง14:59 น. วันดังกล่าว พบว่าภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ยอดจองทะลุ 1,000 คัน แล้ว
พิทยา ธนาดำรงค์ศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด กล่าว่าบริษัทจะรีบส่งมอบ Volt City EV ให้ไวที่สุด เริ่มตั้งแต่ปลายกันยายนนี้แน่นอน
สำหรับโวลท์เปิดตัว 2 รุ่น คือ VOLT FOR-TWO รถแบบ 3 ประตู 2 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 3.25 แสนบาท และ VOLT FOR-FOUR แบบ 5 ประตู 4 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 3.85 แสนบาท โดยเป็นราคาที่คิดรวมมาตการส่งเสริมภาครัฐ 8nvลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% และการสนับสนุนเงินคันละ 7 หมื่นบาท
บริษัทยังร่วมมือกับ กรุงศรีออโต้ เปิดเงื่อนไขการเงิน ดาวน์ 0-5% และผ่อนชำระสูงสุด 84 เดือน หรือเริ่มเดือนละ 3,600 บาท
และยังมีข้อเสนอพิเศษ จ่ายเพิ่ม 3 หมื่นบาท จะได้รับแพคเกจพิเศษรวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท โดยจ่ายเพิ่ม 3 หมื่นบาท
VOLT FOR-TWO ใช้แบตเตอรี ลิเธียม ไอออน ฟอสเฟต 11.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้า 40 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร การใช้งานต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง สูงสุด 160 กม.
VOLT FOR-FOUR ติดตั้งแบตเตอรีลีเธียม ไอออน ฟอสเฟต 16.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้า 46 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 102 นิวตันเมตร การใช้งานต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง สูงสุด 200 กม.
การชาร์จไฟ รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ (AC) ประมาณ 6 ชั่วโมง
พิทยากล่าวว่า การวางตลาดของโวลท์ คือ การเป็น ซิตี้ อีวี สำหรับลูกค้าที่ต้องการรถสำหรับใช้งานในเมือง ซึ่งความสามารถในการใช้งานได้ระดับ 160-200 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำให้ใช้งานได้สะดวก หรือ ลูกค้าที่ซื้อรถเป็นคันที่ 2 ของบ้าน สำหรับใช้งานทั่วไป ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่เมื่องต้องเดินทางไกล ก็ใช้รถคันอื่นแทน
โวลท์ เป็นการนำเข้าสำเร็จรูปจากโรงงานประเทศจีน (CBU) โดยไม่เสียภาษีนำเข้า จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี อาเซียน-จีน
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่จะผลิตในประเทศ (CKD) ช่วงประมาณเดือน ก.ย.2566 โดยขณะนี้ได้ซื้อที่ดินเพิ่มในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ฉะเชิงเทรา และสร้างตัวอาคารเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะทยอยติดตั้งเครื่องจักรต่อไป โดยเบื้องต้นใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท รองรับการผลิตในระยะ 3-4 ปี
โดยเบื้องต้นตั้งเป้าการผลิตปีละ 4,000 คัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI
ทั้งนี้การผลิตรถในประเทศ เป็นหนึ่งในเงื่อนไขของภาครัฐ สำหรับรถยนต์ที่เข้าร่วมมาตรการกระตุ้นการใช้งานอีวีระยะเร่งด่วน ทั้งการลดภาษีสรรพสามิต และเงินสนับสนุนโดยตรง โดยรัฐกำหนดว่าจะต้องผลิตชดเชยเท่ากับจำนวนนำเข้า หากเริ่มต้นผลิตภายในปี 2567 และต้องผลิต 1.5 เท่าของจำนวนนำเข้า หากผลิตในปี 2568
สำหรับตลาดอีวีในปัจจุบัน มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่มีการเติบโตที่โดดเด่นโดยเฉพาะในระยะสองสามปีที่ผ่านมา โดยรถที่ครองตลาดคือรถจากจีน จากการที่สามารถนำเข้าโดยไม่เสียภาษี จากข้อตกลงความร่วมมือเขตการค้าเสรี อาเซียน_จีน
ปัจจุบันผู้นำตลาด คือ เอ็มจี ที่มีรถจำหน่าย 2 รุ่น คือ เอ็มจี แซดเอส อีวี และ เอ็มจี อีพี พลัส ตามมาด้วย โอร่า ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่มี โอร่า กู๊ดแคท และ โอร่า กู๊ดแคท จีที จำหน่าย นอกจากนี้ยังมีรายย่อยๆ ที่ทำตลาด เช่น ปอคโค นำเข้า โดยบีอาร์จี กรุ๊ป
และ วันที่ 8 สิงหาคม รายใหญ่จากจีนอีกหนึ่งยี่ห้อจะเปิดตัว คือ บีวายดี ซึ่งปัจจุบัน มีรถทำตลาดอยู่แล้ว แต่เป็นการทำตลาดเชิงพาณิชย์ คือแท็กซี่ วีไอพี แต่การขยับตัวครั้งใหม่ที่ร่วมทุนกับกลุ่มตระกูลพระประภา จะเป็นการเจาะตลาดส่วนบุคคล
จากนั้นตามด้วยเนต้า รถจากจีนที่มีแผนจ้าง อรุณพลัส บริษัทในเครือปตท. เป็นผู้ผลิตรถให้ ส่วนค่ายอื่นๆ ที่เตรียมเข้ามาในเร็วๆ นี้ คือ เชอรี่ และฉางอัน
