'Suzuki XL7' ปีนดง ลงดอย เกาะถนนไม่แพ้ใคร
ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7 (XL7) เป็นหนึ่งในรถที่ประสบความสำเร็จของซูซูกิ หลังจากปรับตัวต่อยอดมาจาก เออร์ติกา ให้มีบุคลิก เป็นครอสโอเวอร์มากขึ้น โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกกลางปี 2563 ถึงปัจจุบันมียอดขายสะสมกว่า 7,000 คัน
ล่าสุด ซูซูกิ สร้างความเคลื่อนไหวให้กับ เอ็กซ์แอล7 (Suzuki XL7) ด้วยการเติมออปชั่นเข้าไป 2 รายการ แต่เป็นออปชั่นที่คิดว่าน่าจะตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ คือ
- ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (wireless charger)
- กล้องติดหน้ารถ (Digital VDO Recorder) แบบ บิวท์-อิน ดูเรียบร้อย และเชื่อมต่อกับมอนิเตอร์ที่คอนโซลกลาง สามารถแสดงภาพ เรียกดูภาพ และป้อนคำสั่งต่างๆ ผ่านทางมอนิเตอร์ได้เลย
เรียกว่าเป็นออปชั่นที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานทั้ง 2 รายการ และเป็นออปชั่นที่คนใช้รถก็ใช้กันจริงๆ
ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆ ยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
ช่วงล่างด้านหน้า แมคเฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง ทอร์ชั่น บีม พร้อมคอยล์สปริง พวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน ดิสค์เบรกด้านหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน ด้านหลัง ดรัมเบรก
เอ็กซ์แอล 7 ราคาจำหน่าย เริ่มต้น 8.14 แสนบาท ส่วนถ้าเลือกสีขาว 8.19 แสนบาท สีทูโทน-ตัวถังสีส้มหลังคาดำ 8.24 แสนบาทและสีทูโทน ตัวรถสีขาวหลังคาดำ 8.29 แสนบาท
การตกแต่งและออปชั่นหลักๆ เช่น กระจังหน้าสีดำผสมโครเมียม ไฟหน้า LED โดยที่ไฟต่ำสามารถปรับระดับองศาการส่งสว่างสูง-ต่ำได้ ไฟสำหรับขับขี่กลางวัน หรือ Daytime Running Light ไฟตัดหมอกหน้า ตกแต่งด้วยด้วยวัสดุสีเงินรอบคัน ไฟท้าย LED และไฟเบรกแนวตั้ง ซุ้มล้อสีดำ
ล้ออลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว ติดตั้งยางขนาด 195/60 R16 ติดตั้งราวหลังคา เพิ่มอารมณ์สปอร์ต และก็เพิ่มประโยชน์ในการบรรทุกสัมภาระ
ส่วนระยะสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 200 มม. ซึ่งรองรับการขับขี่ในเส้นทางนอกถนนได้พอตัว พวกทางขรุขระ เป็นหลุมเป็นร่อง บ่อน้ำจากฝนตกได้สบาย โดยกันชนไม่กระแทก ใต้ท้องรถไม่ครูด หรือลุยน้ำท่วมน้ำขังช่วงนี้ได้สบายใจขึ้น
ภายในห้องโดยสาร พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง D-Shape คอนโซลหน้าตกแต่งวัสดุด้วยลายคาร์บอน ไฟเบอร์ คิ้วโครเมียม มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลสำคัญของตัวรถ รวมถึง Driving G-Force การใช้แรงบิด และแรงม้า ในช่วงเวลานั้นๆ
หน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ระบบปรับแต่งเสียงและประมวลผลในแบบดิจิทัล ฟังก์ชันเชื่อมต่อบลูทูธ เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto รวมไปถึงช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ที่ให้มา 3 ตำแหน่ง
เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยเบาะแถวที่ 2 ปรับพับแบบ 60:40 และเลื่อนหน้า-หลัง ได้ 240 มม. เพื่อปรับพื้นที่ให้เหมาะสม กรณีมีและไม่มีผู้โดยสารแถวที่ 3 ซึ่งเบาะแถว 3 ก็สามารถพับได้แบบ 50:50
ถุงลมคู่หน้า เบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรกหรือ EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว (ESP) และการปรับแต่ง module ในพวงมาลัยเพื่อช่วยให้การขับขี่ในโค้งแม่นยำขึ้น
ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX ล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์่กะระยะในขณะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
จริงๆ แล้วผมเคยลองขับเอ็กซ์แอล 7 มาก่อนหน้านี้ แต่การลองครั้งนี้ มีความแตกต่างตรงเส้นทาง ที่ท้าทายและน่าจะตอบคำถามหลายๆ คนที่อยากรู้สมรรถนะในการขับขี่
ก่อนหน้านี้ ผมเคยบอกไปแล้วว่า เอ็กซ์แอล7 เป็นรถที่ขับดีกว่าที่คิดไว้มาก เพราะแมืจะพื้นฐานมาจาก เออร์ติกา แต่การขับขี่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งการควบคุม และอารมณ์สปอร์ตที่ได้จากรถแบบ 7 ที่นั่งคันนี้
ครั้งนี้ผมลองที่เชียงราย ซึ่งมีภูมิประเทศ และเส้นทางที่หลากหลาย และที่เป็นไฮไลท์ คือ ช่วงขึ้น-ลง ดอยช้าง โดยขึ้นทางแม่สรวย แต่ลงทางห้วยส้าน
ช่วงขึ้นทางแม่สรวย เส้นทางนี้สวยงาม แต่เป็นทางเล็กๆ 2 เลน โค้งไปมา ผ่านป่าเขา ชุมชน และร้านกาแฟที่น้อยกว่าดอกเห็ดหน้าฝนเล็กน้อยเท่านั้น มีทั้งร้านที่เปิดบริการแล้ว และร้านที่กำลังก่อสร้าง รวมถึงสถานที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือที่พัก ช่วยให้คิดล่วงหน้าว่าถ้าช่วงเทศกาล ท่องเที่ยวพีคๆ สภาพการจราจรบนถนนเส้นนี้เป็นอย่างไร
แต่ก็เป็นเส้นทางที่ขับสนุก รีดสมรรถนะของรถโดยเฉพาะเรื่องของการควบคุมรถ การยึดเกาะถนนออกมาได้ เป็นรถที่ทำความเร็วได้ดีกับเส้นทางแบบนี้
สิ่งที่ช่วยได้ดี คือ ช่วงล่างที่เซ็ทมาได้ดี การโยนตัวในทางโค้งแคบๆ ลึกๆ มีแค่เล็กน้อยทำให้ผู้ขับสามารถวางแผนสำหรับเส้นทางข้างหน้าต่อไปได้เลย ไม่ต้องมาพะวงกับการแก้อาการ
พวงมาลัยน้ำหนักดี ความแม่นยำไม่ถึงกับ 100% มีขาดๆ เหลือๆ บ้าง แต่ก็แค่เล็กน้อย ซึ่งเมื่อชิน และรู้จังหวะกันแล้ว ก็ใช้งานคล่องมือ ทำให้การขับขี่ในเส้นทางที่จำเป็นต้องจะต้องใช้พวงมาลัยตลอดเวลา เดี๋ยวซ้าย เดี๋ยวขวา สลับกันไป คนขับไม่เหนื่อยกับมัน
ดังนั้นเมื่อถึงจุดหมาย ร้านกาแฟบนดอยสูง จึงทำให้เรานั่งจิบกาแฟดำร้อนๆ รับลมเย็นๆ กับวิวสวยๆ ได้สบายใจ
แต่เส้นทางหลังจากนั้น เข้มข้นกว่าช่วงแรก ขอบคุณกาแฟ ที่ทำช่วยเพิ่มความตื่นตัวได้ดี เพราะเส้นทางที่จะกลับลงยังถนนหลัก เชียงใหม่ เชียงราย ทางห้วยส้านนี้ มีความชันมากกว่า แคบกว่าและไม่มีไหล่ทาง แน่นอนมันทำให้โค้งดูแคบไปด้วย
และที่สำคัญเส้นนี้รถน้อยกว่าช่วงขาขึ้น ดังนั้นในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ มันจึงมีความชื้นบนผิวถนนมากกว่า และบางช่วงบางตอนก็ดูว่าน่าจะลื่นกว่า ทั้งจากความชื้น จากใบไม้ หรือพืชเล็กๆ ที่ขึ้นบนผิวพื้นถนน
แต่ก็ต้องขอบคุณเส้นทางนี้ ที่ทำให้ได้คำตอบที่ชัดเจนขึ้น สำหรับคนที่ถามมาว่า เรื่องของกำลังเครื่องยนต์ เรื่องของช่วงล่างน่าสนใจไหม
ในส่วนของเครื่องยนต์ ใช้ได้ ปีนไต่ได้ แต่แน่นอนในช่วงที่ชันมากๆ ก็ต้องเค้นกำลังกันพอสมควรเพื่อให้รถไต่ขึ้นเนินไปด้วยความเร็วไม่มากนัก
แต่ถ้าเป็นทางที่ชันไม่มาก ก็ไปได้สบายๆ ดังนั้นตอบได้ว่ากำลังเครื่องยนต์เพียงพอต่อการใช้งาน แต่บางช่วงบางเส้นทางก็ต้องใจเย็นๆ รอการเค้นกำลังของมันบ้าง
ส่วนเรื่องของช่วงล่าง การควบคุมรถ การยึดเกาะถนน เส้นทางนี้ให้คำตอบได้ดี การมีพื้นที่จำกัด เพราะขนาดช่องทางกว้างกว่าตัวรถไม่มาก ไหล่ทางไม่มี แต่ต้องขับแบบเลี้ยวไปเลี้ยวมาตลอดเวลา ด้วยความเร็วพอควร
จังหวะที่โยกซ้าย โยกขวา ต่อเนื่อง ด้วยความเร็ว จนรู้สึกถึงแรงเหวี่ยงของตัวเราอย่างชัดเจน ก็รับรู้ได้ว่าตัวรถมีอาการโยนตัว และแรงหนีศูนย์ หรือถ้าเหลือบตาดูค่า Driving G-Force ที่หน้าปัดแสดงข้อมูลก็จะเห็นได้ชัดเจน
แต่ก็ต้องยอมรับว่า การขับดุๆ แบบนี้ ตัวรถยังคงรักษาทิศทางที่ถูกต้อง ล้อยังเหนียวแน่นอยู่กับพื้นผิวได้ดี แม้บางช่วงจะมีรถสวนทางระหว่างโค้งพอดี ก็ไม่กังวลว่ารถจะไถลออกนอกเส้นแบ่งจราจร ช่วยให้เราสามารถลงจากดอยได้เร็ว
เรียกได้ว่า ถ้าพูดถึง ช่วงล่าง การควบคุมรถ การยึดเกาะถนน เอ็กซ์แอล 7 รถครอสโอเวอร์ตัวย่อมๆ ที่มีความสูงพอควร ทั้งตัวรถ และความสูงใต้ท้องรถ โดดเด่นมาก และไม่แพ้ใครในตลาดเดียวกันครับ
โดยรวมถือเป็นรถที่น่าสนใจ ราคาไม่แรง สมรรถนะ การขับขี่ เสียดายอย่างเดียวว่า การออกแบบพวงมาลัยที่ปรับได้เฉพาะ ขึ้น-ลง เท่านั้น แต่ปรับเข้า-ออกจากผู้ขับไม่ได้ ทำให้การปรับตำแหน่งท่านั่งมีข้อจำกัดไปนิด อาจจะไม่มากถึงขั้นสร้างปัญหาอะไร ใช้เวลาปรับตัวสักพัก ก็ชิน แต่ถ้ามันปรับได้ ก็จะสมบูรณ์กว่านี้ครับ