เตือนภัย! หลอกจำนำ-ซื้อดาวน์รถ จับแล้วสาว "นายหน้า" โดนแล้ว 50 คัน
คนมีรถต้องระวัง เตือนภัยหลอกจำนำ-ซื้อดาวน์รถ โดนแล้ว 50 คัน จับแล้วสาว "นายหน้า" เอี่ยวเครือข่ายรถเถื่อน เสียหายนับ 10 ล้าน
กองปราบจับนายหน้าสาวแสบ ตุ๋นจำนำ-ซื้อดาวน์รถส่งขายเครือข่ายรถเถื่อน เสียหายนับ 10 ล้านบาท ขณะที่ ตร.แกะรอยตามรวบได้หน้าร้านสะดวกซื้อ พื้นที่ จ.นนทบุรี เจ้าตัวอ้างไม่รู้จักตัวการ ติดต่อกันผ่านเฟซบุ๊กเท่านั้น พบมีหมายจับติดตัวเพียบ สั่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม สั่งการ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ 2 บก.ป. พ.ต.ต.หญิง กัญจิรา นรสาร ปฏิบัติราชการ สว.กก.2 บก.ป., นำกำลังจับกุม นางสาวรัตนาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหานายหน้าแก๊งหลอกจำนำรถส่งขายเครือข่ายรถเถื่อน
สำหรับคดีนี้มีกลุ่มผู้เสียหายหลายรายจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ร้องเรียนผ่านเพจกองปราบ ว่า ได้นำรถยนต์ไปจำนำกับ น.ส.รัตนาภรณ์ ผู้ต้องหารายนี้ และพวก ซึ่งเป็นนายหน้ารับจำนำรถ ในอัตตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน พร้อมค่าจอดรถ 2,000 บาท แต่เมื่อนำเงินไปไถ่ถอนกลับไม่สามารถรับรถกลับคืนได้
นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายบางรายนำรถไปขายดาวน์ต่อให้กับ น.ส.รัตนาภรณ์ แต่เมื่อส่งมอบรถให้ไปแล้ว กลับไม่ยอมทำการเปลี่ยนสัญญารวมถึงจ่ายค่างวดรถจนทำให้เจ้าของรถถูกบริษัทไฟแนนท์ฟ้องร้องได้รับความเดือดร้อน
หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบก่อนพบว่ามีการกระทำผิดจริง รวมถึงทำกันเป็นขบวนการเชื่อมโยงกับกลุ่ม แก๊ง เครือข่ายโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่เคยจับกุมมาก่อนหน้านี้ โดยตัว น.ส.รัตนาภรณ์ จะทำหน้าที่เป็นนายหน้าคนกลางรับจำนำรถจากทั่วประเทศ หรือ หลอกซื้อดาวน์รถ
แล้วนำรถไปขายต่อให้กับนายทุนรถเถื่อน 4 เครือข่าย อาทิ เครือข่าย “ฟลุ๊ก ขอนแก่น” เครือข่าย “ตั้ม นนทบุรี” เครือข่าย “นักรบกรุงเก่า ต้น อยุธยา” และ เครือข่าย “ป๊อป กาญจนบุรี” ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติ น.ส.รัตนาภรณ์ พบว่ามีหมายจับติดตัว 3 หมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเร่งแกะรอยสืบหาเบาะแสที่กบดานก่อนพบว่าปัจจุบันได้หนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี จึงนำกำลังตามจับกุมได้บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งริมถนนป็อปปูล่า 3 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
สอบสวน น.ส.รัตนาภรณ์ ให้การรับสารภาพว่าอยู่ร่วมในขบวนการดังกล่าวจริง แต่ตนเองเป็นเพียงแค่นายหน้าเท่านั้นไม่เคยพบหน้านายทุน ส่วนใหญ่จะติดต่อกันผ่านทางเฟซบุ๊ก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ อีกทั้งจากการตรวจสอบขณะนี้พบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 30 ราย มีรถยนต์ที่ถูกหลอกไปประมาณ 50 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเอาผิดผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ
เบื้องต้นแจ้งข้อหา“ ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม,ปลอมและใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอม , ร่วมกันยักยอกทรัพย์ และร่วมกันในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป