ลอง 'Neta V' EV ประหยัด ขับในเมือง-เร่งแซง คล่องตัว ช่วงล่างนุ่มไปหน่อย
เนต้า วี (Neta V) หนึ่งในตัวเลือกรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ที่ราคาไม่แรง ได้รับการตอบรับจากลูกค้าน่าพอใจ รถคันนี้น่าใช้มากน้อยแค่ไหน ไปลองขับลองใช้งานจริง ทั้งในเมือง และการเดินทางต่างจังหวัด
เนต้า (Neta) ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนเข้าสู่ตลาดเมืองไทย ด้วยรถยนต์รุ่นแรก เนต้า วี ( Neta V ) ที่เปิดตัวเมื่อเดือน ส.ค. 2565 ก่อนที่จะเริ่มต้นส่งมอบได้จริงช่วงปลายปี ซึ่งได้รับการตอบรับที่น่าพอใจ ด้วยยอดเกิน 3,600 คัน เมื่อช่วงสิ้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
และปี 2566 ที่ทำตลาดเต็มปี เนต้า คาดว่าจะสามารถส่งมอบได้ 1 หมื่นคัน นำไปสู่การปรับแผนการตลาด เช่น การปรับเพิ่มเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการจากเดิมตั้งเป้า 30 แห่ง เป็น 50 แห่ง
จุดหนึ่งที่ทำให้ เนต้า วี ได้รับการตอบรับที่ดี คือ ระดับราคาที่ไม่แรงนัก 5.49 แสนบาท ซึ่งตอบโจทย์คนที่อยากจะได้ อีวี ไว้ใช้งาน แต่ไม่ต้องการจ่ายเงินมากเกินไป โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้คาดหวังจะใช้งานเดินทางไกลๆ ใช้งานในเมืองเป็นหลัก เรียกว่า เป็น ซิตี้ อีวี
แต่จริงๆ แล้ว ระยะทางใช้งานสูงสุดต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้งที่ 384 กม.ตามมาตรฐาน NEDC ถ้าใช้จริงอาจอยู่สัก 300 กม. ก็พอใช้ได้ สามารถเดินทางออกต่างจังหวัดที่ไม่ไกลนัก หรือ ไกลหน่อยแต่มีที่ชาร์จรองรับชัดเจน ก็พอไหว
อย่างการลองของผมเที่ยวนี้ ผมก็เดินทางไปสุพรรณบุรี นอน 1 คืน ใช้งานรถในพื้นที่ด้วย จนแบตเตอรีเหลือพลังงานประมาณ 30% ก็ไปแวะไปชาร์จไฟแบบ DC ของ EA Anywhere 20 นาที ก็เดินทางกลับกรุงเทพได้สบายใจ โดยเหลือแบตเตอรีอีกประมาณ 30%
แต่เชื่อว่าถ้าหากใช้งานในเมืองเป็นหลัก จะใช้งานได้สบายใจมาก เพราะชาร์จครั้งหนึ่ง สามารถใช้งานได้หลายวัน แต่ถ้ามีวอลล์บ็อกซ์ ชาร์จที่บ้านเอง ก็จะมั่นใจได้ว่าตื่นเช้ามา รถมีพลังงานไฟฟ้าให้ใช้เต็มที่
ส่วนเรื่องของการขับขี่ เนต้า วี มีโหมดการขับ 2 โหมด คือ Normal กับ Sport ให้เลือกใช้ตามความต้องการ
- Normal ทำความเร็วสูงสุด 110 กม./ชม.
- Sport ทำความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม.
แต่หลักๆ ผมเลือกนอร์มอล เพื่อยืดระยะทาง และรถในกลุ่มนี้ก็คงไม่ได้ต้องการที่จะขับเร็วอะไรมากมาย
ซึ่งการใช้งานจริง ความเร็วสูงสุด 110 กม./ชม. ก็เพียงพอต่อการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นถนนเส้นหลัก หรือว่าเส้นรองที่เป็นถนน 2 เลน สวนทาง จังหวะเติมความเร็ว หรือเร่งแซงก็ไม่มีปัญหาอะไร
เพราะจุดเด่นของมอเตอร์ไฟฟ้าที่เรียกกำลังมาได้เร็ว ทำให้เร่งแซงในเวลาไม่นานนัก ส่วนความเร็วสูงสุดนั้นเพียงแค่เรารู้จักรถที่ขับว่า ลิมิตอยู่ตรงไหน
เช่น เมื่อขับเส้นทางระหว่างเมืองที่เป็นถนนฝั่งละ 2 เลน หรือ 3 เลน เมื่อใช้แรงบิดเร่งแซงคันอื่นได้แล้ว ก็หลบกลับเข้าช่องซ้าย เท่านั้นเอง เพราะความเร็วสูงสุดทำได้แค่นั้น หลบให้รถคันที่เร็วกว่าแซงไป แค่นั้นเอง
ซึ่งการเป็นรถเล็กๆ ความเร็วสูงสุดไม่มาก แต่ได้แรงบิดที่กระฉับกระเฉง เมื่อจับจังหวะได้ ก็สามารถใช้งานได้คล่องแคล่ว คล่องตัว ทั้งในเมืองหรือ การเดินทางไกล
และก็ยังมีโหมด One Paddle ให้ใช้งาน คือ ควบคุมการขับขี่ด้วยแป้นคันเร่งแป้นเดียว โดยเนต้าเพิ่มทางเลือกว่าจะเอาแบบเมื่อถอนคันเร่งแล้วรถจะชะลอจนหยุด หรือ ว่าแค่ลดความเร็วลง แต่ไม่ถึงกับหยุด ซึ่งอย่างหลังนี่จะให้อารมณ์ใกล้เคียงกับรถที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไปมากกว่า
สำหรับช่วงล่าง นุ่มมาก โดยรวมๆ ก็รองรับการใช้งานได้ดีพอ รถนิ่ง ขับได้เรื่อยๆ แต่ถ้าเจอทางที่ไม่เรียบ โดยเฉพาะคอสะพานจะมีจังหวะเด้งมากเกินไป ทางที่ดีคือมองล่วงหน้าแล้วชะลอความเร็วก่อนถึงจุดนั้นๆ หรือจะปรึกษากับช่างของเนต้าเองให้ปรับเซ็ทให้มันแข็งขึ้นอีกนิดก็น่าจะดี
แต่ก็เห็นที่ผ่านมาหลายๆ คนที่ใช้รถรุ่นนี้อยู่ก็ไม่ค่อยบ่นเรื่องพวกนี้สักเท่าไร เอาเป็นว่าแล้วความความชอบ กับลักษณะการขับขี่ของแต่ละคนก็ว่ากันไปครับ
พวงมาลัย เนต้า วี ออกแบบให้มีรูปทรงสปอร์ต ตัดบน ตัดล่าง น้ำหนักใช้ดี กระชับดี ขณะที่คันเกียร์ใช้งานสะดวก เป็นคันเกียร์แบบก้านด้านขวาของพวงมาลัย ใครเคยขับเมอร์เซเดส-เบนซ์ น่าจะชินกับเกียร์แบบนี้ เป็นเกียร์แบบกดลง-ดันขึ้น และถ้าจะใช้เกียร์ P ก็กดปุ่มตรงปลายคันเกียร์
สิ่งหนึ่งที่ผมชอบคือ ระบบ Cruise Control ใช้งานด้วยการกดคันเกียร์ลงด้านล่างอีก 1 ครั้ง จากตำแหน่งเกียร์ D ไม่ต้องไปหากดปุ่มอื่น เพิ่มเติม
จุดหนึ่งที่ไม่แน่ใจว่ามาจากเหตุผลไหน คือ การใช้งานในช่วงกลางวันที่แดดแรงๆ แอร์รับมือกับสภาพอากาศได้ไม่ดีนัก ผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าไม่ค่อยเท่าไร แต่ผู้โดยสารเบาะหลังจะอบอ้าว ที่บอกว่าไม่ว่ารู้เหตุผลไหน เพราะว่ารถทดสอบคันนี้ใส่สว่างทั้งคัน ไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสงมานั่นเอง ไม่แน่ใจว่าถ้าติดฟิล์มแล้วจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน
เนต้า วี เป็นรถขนาดกะทัดรัด แต่ก็มีพื้นที่สำหรับการโดยสาร 4 คน ได้สบายๆ ถ้า 5 คน ก็พอไหว แต่จะเบียดกันเล็กน้อยที่เบาะด้านหลัง
แนวทางการออกแบบภายใน ลดรายละเอียดต่างๆ ลง จึงไม่เห็นปุ่มควบคุมอะไรที่คอนโซลหน้า หรือ ตรงกลางระหว่างเบาะซ้าย-ขวา โดยทุกอย่าง เนต้า รวมการควบคุมไว้ที่หน้าจอมอนิเตอร์ตรงกลางที่เป็นจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 14.6 นิ้ว ทั้งเกี่ยวกับการขับขี่ ระบบเชื่อมต่อ หรือ การเปลี่ยนรายละเอียดการแสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ
ถ้าไม่ชิน หรือไม่ชอบ อาจรู้สึกว่าไม่คล่องมือสักเท่าไร แต่ถ้าใช้ๆ ไปสักพัก ก็ไม่ยากอะไรครับ การออกแบบเมนูต่างๆ บนหน้าจอ ใช้งานได้ไม่ยาก
สรุป โดยรวมแล้ว ก็ถือว่าน่าใช้ครับ สำหรับใครที่อยากได้เทคโนโลยี และอยากได้ความประหยัดในการใช้งาน กับระดับราคาที่ไม่สูงจนเกินไป โดยเฉพาะถ้าเป็นการใช้งานในเมืองเป็นหลักครับ
สเปค NETA V
- กำลังสูงสุด..... 95 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด..... 150 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ..... 40.7 kWh
- ระยะทางขับขี่สูงสุด..... 384 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
- มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67
- ระบบระบายความร้อน..... LIQUID COOLING SYSTEM
- ชาร์จกระแสสลับ AC Normal Charge0-100% ..... 8 ชั่วโมง
- ชาร์จกระแสตรง DC Quick Charge 30-80%..... 30 นาที
- ฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) ..... กำลังสูงสุด 3,300 วัตต์
มิติตัวถัง
- ความยาว 4,070 มม.
- ความกว้าง 1,690 มม.
- ความสูง 1,540 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,420 มม.
- ขนาดยาง 185/55 R16
- จำนวนผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง
การออกแบบภายนอก
- แรงบันดาลใจมาจากปลาโลมา (Dolphin Streamline)
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ฮาโลเจน พร้อมระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED
- สปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ต
- ไฟท้าย LED
- ไฟเบรกดวงที่ 3 LED
การออกแบบภายใน
- เบาะหนังสไตล์สปอร์ต
- หน้าจอกลาง Infotainment Screen แนวตั้ง ระบบสัมผัส 14.6 นิ้ว ควบคุมการทำงานฟังก์ชันต่างๆ
- รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ผ่าน Mobile hotspot และ สาย USB เคเบิล
- มาตรวัดแบบดิจิทัลขนาด 12 นิ้ว
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
- ระบบปรับอากาศควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัส
- ระบบกรองอากาศ N95
- เบาะนั่งด้านหลังพับได้
- Smart Key พร้อม Ride & Go function
- เกียร์ไฟฟ้า
- ความจุพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 335 ลิตร (พับเบาะหลัง 552 ลิตร)
ระบบความปลอดภัย
- ดิสก์เบรก 4 ล้อ
- ถุงลมคู่หน้า
- ระบบเบรก ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ไฟส่องนำทางหลังหยุดรถ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมการทรงตัว
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
- เบรกมือไฟฟ้า
- ระบบ Auto Brake Hold
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS
- กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณกะระยะหลัง
สีตัวถังมีให้เลือกรวม 5 สี
- สีเขียว
- สีขาว
- สีชมพู
- สีเทา
- สีฟ้า
แคมเปญ NETA V
- ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- เครื่องชาร์จ NETA WALLBOX พร้อมค่าติดตั้ง
- รับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
- รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร