มาแล้ว มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ เคาะ 699,000-1,027,00 บาท
มิตซูบิชิ เปิดตัวรถปิกอัพ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ (Mitsubishi Triton) ขายในไทยที่แรก ตามด้วยอาเซียน โอเชียเนีย ก่อนเปิดตัวในญี่ปุ่น ต้นปี 2567 เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี เคาะราคา รุ่น ซิงเกิล แค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เริ่มต้น 699,000 บาท
ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น รวมเปิดตัวรถปิกอัพ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ (Mitsubishi Triton) ในรอบ 9 ปี โดยเริ่มจำหน่ายในไทยเป็นที่แรกในโลก ก่อนเปิดตัวในภูมิภาคอาเซียน และโอเชียเนีย และจะเปิดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ในช่วงต้นปี 2567
ทั้งนี้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวรถปิกอัพครั้งแรกในปี 2521 โดยตลอด 45 ปีที่ผ่านมา ได้ผลิตรถกว่า 5.6 ล้านคัน ครอบคลุมทั้งหมด 5 เจนเนอเรชั่น ทำตลาดใน 150 ประเทศทั่วโลก และสำหรับ นิว ไทรทัน ที่เปิดตัวครั้งนี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 ที่ออกแบบใหม่ทั้งคันเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดยมีจุดเด่น เช่น
ตัวถังดีไซน์ใหม่ ขนาดใหญ่ขึ้น เฟรมพัฒนาขึ้นใหม่ เครื่องยนต์ใหม่ ช่วงล่างใหม่ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
"เราพัฒนาออล-นิว ไทรทัน ที่หลอมรวมความเป็น ที่สุด แห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) เพื่อให้ตอบโจทย์ความเป็นรถระบะสำหรับคนยุคใหม่ โดยในทุกฟีเจอร์หลัก พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกอบด้วย เฟรม ตัวถัง และแชสซีส์ที่แข็งแกร่งทนทาน เครื่องยนต์ที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดังใจ รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ"
ทั้งนี้มิตซูบิชิตั้งเป้าหมายการผลิตนิว ไทรทัน 200,000 คัน เพื่อจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และเป็นรถยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกรุ่นแรก
โดยช่วงเปิดตัวมี 2 ตัวถังคือ ซิงเกิลแค็บ และดับเบิลแค็บ มีทั้งระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ อัตโนมัติ (AT) 6 สปีด ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ Super Select 4WD-IIื โดยมีราคาจำหน่าย คือ
ซิงเกิล แค็บ
- 2.4 Pro 4WD ราคา 699,000 บาท
- 2.4 Pro 4WD AT ราคา 749,000 บาท
.
.
ดับเบิล แค็บ
- Plus 2.4 Pro ราคา 820,000 บาท
- Plus 2.4 Prime ราคา 893,000 บาท
- Plus 2.4 Prime AT ราคา 938,000 บาท
- Plus 2.4 Ultra ราคา 962,000 บาท
- Plus 2.4 Ultra AT ราคา 1,027,000 บาท
ดับเบิล แค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- 2.4 Prime 4WD ราคา 1,016,000 บาท
.
.
.
ทุกรุ่น ใช้เครื่องยนต์ ดีเซล 4N16 (Hyper Power) เทอร์โบแปรผัน (VG Turbo) ขนาด 2,442 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250-2,500 รอบ/นาที
ช่วงล่างพัฒนาใหม่ ด้วยโครงสร้างปีกนกสองชั้นที่ด้านหน้า โดยแท่นยึดคานบนของรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) และขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง (2WD High Rider) ปรับตำแหน่งยึดเกาะให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มช่วงชักอีก 20 มิลลิเมตร ช่วงล่างด้านหลังมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมความแข็งแกร่งโดยใช้แหนบแผ่นซ้อนที่ได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบากว่าเดิม พร้อมด้วยโช้คอัพที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ส่วนออปชั่น เด่นๆ เช่น
- ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM)
- ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) ระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA)
- ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)
สำหรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่
- 2H (ขับเคลื่อนล้อหลัง)
- 4H (ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา)
- 4HLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง)
- 4LLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลางอัตราทดความเร็วต่ำ)
และมีโหมดการขับขี่ 7 โหมดให้เลือกใช้ ทั้งการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด ประกอบด้วย
- Normal (ทั่วไป)
- แบบ Eco (ประหยัด)
- Gravel (ทางลูกรัง)
- Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก)
- Mud (ลุยโคลน)
- Sand (พื้นทราย)
- Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ)
สำหรับ ดับเบิล แค็บ มิติตัวถังความยาวถัง 5,320 มม. กว้าง 1,865 มม. สูง 1,795 มม. ระยะฐานล้อ 3,130 มม. ความกว้างช่วงล้อ หน้า/หลัง 1,570/1,565 มม. และระยะต่ำสุดถึงพื้น หรือ ground clearance 222 มม.
ช่วงล่างหน้า อิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง และช็อค แอบซอร์เบอร์ ด้านหลัง แหนบแผ่นซ้อน เบรกหน้า ดิสค์เบรก เบรกหลัง ดร้มเบรก พวงมาลัย แร็คแอนด์พิเนียน เพาเวอร์ผ่อนแรง
เกรด Pro และ Prime รวมถึงรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เบาะนั่งผู้ขับขี่ ปรับ 6 ทิศทางด้วยมือ เกรด Ultra ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
Pro ติดต้องล้ออัลลอย พร้อมยาง 265/70 R16 เกรด Prime รวมถึงรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้ล้ออัลลอยและยาง 265/65 R17 และ Ultra ใช้ล้ออัลลอยและยางขนาด 265/60 R18