เปิด 10 อันดับ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ยอดจดทะเบียนตั้งแต่ต้นปี 66 แรงจัดแซงทุกโค้ง
กรมการขนส่งทางบก เผยการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 100% ที่มีการเข้ามาจดทะเบียนป้ายขาวครั้งแรก ตั้งแต่เดือนม.ค. - ก.ย. 66 โดย 10 อันดับยอดจดทะเบียนสูงสุด รวมทั้งสิ้น 46,496 คัน อันดับ 1 BYD Atto3 เข้าจดทะเบียนตั้งแต่ต้นปี รวม 15,924 คัน สนนราคาเริ่มต้น 1.09 ล้านบาท
นาทีนี้ปฎิเสธไม่ได้ว่า กระแสรถยนต์ไฟฟ้าดูจะมาแรงเป็นพิเศษ จากการที่รัฐบาลได้ผลักดันและส่งเสริมการลงทุนอย่างจริงจัง ล่าสุดบอร์ดอีวีชุดใหม่ อนุมัติมาตรการ EV 3.5 โดยรัฐจะให้เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตามประเภทของรถ และขนาดของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังได้ให้ความสำคัญในการผลักดันให้ไทยเป็นฮับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค
ฐิตา เภกานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC ให้ข้อมูลว่า ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตตลาด EV โลก หรืออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่ายอดขายเละยอดผลิตรถ EV ทั่วโลกในช่วงระหว่างปี 2022 - 2030 จะขยายตัวเฉลี่ยปีละ 20% และ 33% ตามลำดับ ซึ่งปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจาก
1.นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในหลายประเทศที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา อาทิ ไทย บราซิล และอินเดีย ที่ต่างมุ่งส่งเสริมการใช้งานและการลงทุนในอุตสาหกรรม EV
2. การเปิดรับจากฝั่งผู้บริโภค โดยเฉพาะหลังเผชิญราคาพลังงานที่ผันผวน รวมถึงต้นทุนการเป็นเจ้าของรถ EV ก็ทยอยลดลงต่อเนื่อง และคาดว่าในระยะยาวจะต่ำกว่ารถสันดาปจากค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงและการบำรุงรักษา และ
3.การรุกตลาดของค่ายรถยนต์จีนที่ทำให้ตัวเลือกในตลาดรถยนต์ EV มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งในด้านรูปลักษณ์ ฟังก์ชันการใช้งาน และระดับราคา
ทั้งนี้ ผู้ผลิตยานยนต์สันดาปจำนวนไม่น้อยกำลังทยอยปรับตัวให้สอดรับกับกระแสนิยมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป SCB EIC ได้ศึกษาแผนการลงทุนของบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั่วโลกและพบว่า ค่ายรถจากฝั่งตะวันตก อาทิ BMW Mercedes-Benz และ Volkswagen มีการเปลี่ยนผ่านที่เท่าทันกับกระแส EV ทั้งในด้านการเพิ่มความหลากหลายของโมเดลรถยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนาแบตเตอรี่ EV ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่เจ้าตลาดเดิมจากฝั่งตะวันออก เช่น Toyota Honda และ Nissan กลับมีแนวทางการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป
โดยคาดว่า การแข่งขันในตลาดรถยนต์ทั่วโลกจะทวีความรุนแรง โดยกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนที่ปรับตัวได้ช้าจะเผชิญความเสี่ยงจากการสูญเสียส่วนแบ่งทางตลาด ขณะที่ผู้บริโภคจะได้รับอานิสงส์จากตัวเลือกในตลาดที่มีความหลากหลายมากขึ้น
นอกจากนี้ได้ประเมินว่า ทุก ๆ 1 แสนคันของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ภายในประเทศจะทำให้ GDP ไทย เติบโตขึ้นราว 0.2% นัยต่อเศรษฐกิจไทยจากการก้าวไปเป็น Regional EV hub ไม่เพียงแต่จะมาจากภาคการส่งออก แต่ยังเชื่อมโยงกับมูลค่าเพิ่มจากภาคธุรกิจที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรม EV ที่กำลังทยอยเกิดขึ้นอย่างครบวงจรภายในประเทศอีกด้วย ทั้งอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่ สถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมถึงกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนบางประเภท ซึ่งเดิมเป็น Supplier ให้กับผู้ผลิตรถสันดาป
อย่างไรก็ตาม กระแสนิยมยานยนต์ไฟฟ้าก็นำมาซึ่งความเสี่ยงต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์บางกลุ่มแม้ว่าการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าจะเป็นโอกาสต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องในห่วงโซ่อุปทาน แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์รถยนต์บางกลุ่มมีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบจากแนวโน้มความต้องการที่ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบส่งกำลังและเชื้อเพลิง โดย SCB EIC คาดว่า มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมเหล่านี้จะปรับลดลง 3.8 พันล้านบาท หรือราว 10% จากปี 2022 หากรถ EV สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 15% ของยอดขายรถยนต์ทั่วโลกภายในปี 2025
สำหรับ ความท้าทายสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย คือ การเร่งพัฒนาระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้า และการส่งเสริมภาคธุรกิจให้สามารถปรับตัวได้สอดรับกับความต้องการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น โดยประเมินว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเผชิญกับความท้าทายสำคัญ 2 ประการ คือ
1.การสร้างเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานและระบบนิเวศน์ EV ให้เกิดขึ้นภายในประเทศอย่างครบวงจร เพื่อลดการนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนจากต่างประเทศ และสร้างมูลค่าเพิ่มจากกิจกรรมการผลิตที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นเป็นหลัก และ
2.การส่งเสริมภาคธุรกิจให้สามารถปรับตัวและมีความพร้อมสำหรับโอกาสใหม่ ๆ โดยกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตไปพร้อม ๆ กับตลาด EV อาทิ ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มอเตอร์ไฟฟ้า ยางล้อ และชุดสายไฟ ควรส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ขณะที่กลุ่มเปราะบางควรมีแนวทางการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ อาทิ ชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์เชิงพาณิชย์ ซึ่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ EV คาดว่าจะเกิดขึ้นช้ากว่า รวมถึงการเจาะตลาดอะไหล่ (REM) ซึ่งอุปสงค์ยังเติบโตได้ตามอายุการใช้งานรถยนต์ที่ยาวนานขึ้นในหลายประเทศ
ทั้งนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” ได้สำรวจข้อมูลจาก กรมการขนส่งทางบก กรณีการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการเข้ามาจดทะเบียนป้ายขาวครั้งแรก ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 66 โดย 10 อันดับยอดจดทะเบียนสูงสุด รวมทั้งสิ้น 46,496 คัน
อันดับ 1 BYD Atto3 รวม 15,924 คัน
เริ่มต้น 1.09 ล้านบาท
- ม.ค. มียอดจดทะเบียน 1,040 คัน
- ก.พ. มียอดจดทะเบียน 2,068 คัน
- มี.ค. มียอดจดทะเบียน 2,434 คัน
- เม.ย. มียอดจดทะเบียน 1,743 คัน
- พ.ค. มียอดจดทะเบียน 2,025 คัน
- มิ.ย. มียอดจดทะเบียน 1,857 คัน
- ก.ค. มียอดจดทะเบียน 1,377 คัน
- ส.ค. มียอดจดทะเบียน 1,770 คัน
- ก.ย. มียอดจดทะเบียน 1,610 คัน
อันดับ 2 NETA V รวม 9,294 คัน
เริ่มต้น 5.49 แสนบาท
- ม.ค. มียอดจดทะเบียน 555 คัน
- ก.พ. มียอดจดทะเบียน 1,254 คัน
- มี.ค. มียอดจดทะเบียน 693 คัน
- เม.ย. มียอดจดทะเบียน 564 คัน
- พ.ค. มียอดจดทะเบียน 686 คัน
- มิ.ย. มียอดจดทะเบียน 2,203 คัน
- ก.ค. มียอดจดทะเบียน 1,234 คัน
- ส.ค. มียอดจดทะเบียน 1,251 คัน
- ก.ย. มียอดจดทะเบียน 854 คัน
อันดับ 3 Tesla Model Y รวม 4,753 คัน
เริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
- ม.ค. มียอดจดทะเบียน 25 คัน
- ก.พ. มียอดจดทะเบียน 534 คัน
- มี.ค. มียอดจดทะเบียน 1,034 คัน
- เม.ย. มียอดจดทะเบียน 391 คัน
- พ.ค. มียอดจดทะเบียน 840 คัน
- มิ.ย. มียอดจดทะเบียน 814 คัน
- ก.ค. มียอดจดทะเบียน 201 คัน
- ส.ค. มียอดจดทะเบียน 664 คัน
- ก.ย. มียอดจดทะเบียน 250 คัน
อันดับ 4 ORA Good Cat รวม 4,362 คัน
เริ่มต้น 8.28 แสนบาท
- ม.ค. มียอดจดทะเบียน 494 คัน
- ก.พ. มียอดจดทะเบียน 282 คัน
- มี.ค. มียอดจดทะเบียน 214 คัน
- เม.ย. มียอดจดทะเบียน 92 คัน
- พ.ค. มียอดจดทะเบียน 430 คัน
- มิ.ย. มียอดจดทะเบียน 959 คัน
- ก.ค. มียอดจดทะเบียน 643 คัน
- ส.ค. มียอดจดทะเบียน 598 คัน
- ก.ย. มียอดจดทะเบียน 650 คัน
อันดับ 5 MG EP รวม 3,110 คัน
เริ่มต้น 9.98 แสนบาท
- ม.ค. มียอดจดทะเบียน 175 คัน
- ก.พ. มียอดจดทะเบียน 356 คัน
- มี.ค. มียอดจดทะเบียน 306 คัน
- เม.ย. มียอดจดทะเบียน 275 คัน
- พ.ค. มียอดจดทะเบียน 346 คัน
- มิ.ย. มียอดจดทะเบียน 348 คัน
- ก.ค. มียอดจดทะเบียน 384 คัน
- ส.ค. มียอดจดทะเบียน 407 คัน
- ก.ย. มียอดจดทะเบียน 513 คัน
อันดับ 6 MG 4 Electric รวม 2,860 คัน
เริ่มต้น 8.69 แสนบาท
- ม.ค. มียอดจดทะเบียน 107 คัน
- ก.พ. มียอดจดทะเบียน 318 คัน
- มี.ค. มียอดจดทะเบียน 447 คัน
- เม.ย. มียอดจดทะเบียน 271 คัน
- พ.ค. มียอดจดทะเบียน 407 คัน
- มิ.ย. มียอดจดทะเบียน 298 คัน
- ก.ค. มียอดจดทะเบียน 292 คัน
- ส.ค. มียอดจดทะเบียน 340 คัน
- ก.ย. มียอดจดทะเบียน 380 คัน
อันดับ 7 BYD Dolphin รวม 2,103 คัน
เริ่มต้น 6.99 แสนบาท
- ม.ค. มียอดจดทะเบียน - คัน
- ก.พ. มียอดจดทะเบียน 1 คัน
- มี.ค. มียอดจดทะเบียน - คัน
- เม.ย. มียอดจดทะเบียน - คัน
- พ.ค. มียอดจดทะเบียน - คัน
- มิ.ย. มียอดจดทะเบียน - คัน
- ก.ค. มียอดจดทะเบียน - คัน
- ส.ค. มียอดจดทะเบียน 481 คัน
- ก.ย. มียอดจดทะเบียน 1,621 คัน
อันดับ 8 Tesla Model 3 รวม 1,843 คัน
เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
- ม.ค. มียอดจดทะเบียน 7 คัน
- ก.พ. มียอดจดทะเบียน 175 คัน
- มี.ค. มียอดจดทะเบียน 488 คัน
- เม.ย. มียอดจดทะเบียน 143 คัน
- พ.ค. มียอดจดทะเบียน 232 คัน
- มิ.ย. มียอดจดทะเบียน 411 คัน
- ก.ค. มียอดจดทะเบียน 71 คัน
- ส.ค. มียอดจดทะเบียน 191 คัน
- ก.ย. มียอดจดทะเบียน 125 คัน
อันดับ 9 MG ZS EV รวม 1,389 คัน
เริ่มต้น 9.49 แสนบาท
- ม.ค. มียอดจดทะเบียน 372 คัน
- ก.พ. มียอดจดทะเบียน 241 คัน
- มี.ค. มียอดจดทะเบียน 155 คัน
- เม.ย. มียอดจดทะเบียน 105 คัน
- พ.ค. มียอดจดทะเบียน 145 คัน
- มิ.ย. มียอดจดทะเบียน 107 คัน
- ก.ค. มียอดจดทะเบียน 86 คัน
- ส.ค. มียอดจดทะเบียน 82 คัน
- ก.ย. มียอดจดทะเบียน 96 คัน
อันดับ 10 Volvo XC40 EV รวม 858 คัน
เริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
- ม.ค. มียอดจดทะเบียน 78 คัน
- ก.พ. มียอดจดทะเบียน 76 คัน
- มี.ค. มียอดจดทะเบียน 121 คัน
- เม.ย. มียอดจดทะเบียน 66 คัน
- พ.ค. มียอดจดทะเบียน 98 คัน
- มิ.ย. มียอดจดทะเบียน 121 คัน
- ก.ค. มียอดจดทะเบียน 99 คัน
- ส.ค. มียอดจดทะเบียน 99 คัน
- ก.ย. มียอดจดทะเบียน 100 คัน