นิสสัน คิกส์ อี พาวเวอร์ ลุยยาวๆ นิ่งทางเขา สนุกทางโค้ง เปิดประสบการณ์อาเซียน
เข้าสู่ช่วงปลายปี ขณะที่อุณหภูมิของตลาดรถยนต์เดือดระอุ แต่อุณหภูมิของหลายพื้นที่ท่องเที่ยวของบ้านเรา กำลังดี อาจจะไม่ถึงขั้นหนาว แต่เย็นสบาย นิสสัน ถือโอกาสนี้จัดกิจกรรม e-POWER Experience กับสื่อในภูมิภาคอาเซียน ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย
กิจกรรม e-POWER Experience ของนิสสัน มีทั้งเยี่ยมชมโรงงาน ดูสายการผลิตรถยนต์ สายการประกอบแบตเตอรีแรงดันสูง และการขับ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ (Nissan Kicks e-POWER) ในพื้นที่ภาคเหนือ เริ่มจากเชียงใหม่ ไปเชียงราย ที่อากาศกำลังเย็นสบาย และมีวิวทิวทัศน์สวยงาม
เบื้องต้นถือว่านิสสันประสบความสำเร็จ เพราะสื่อหลายๆ ชาติชื่นชอบบรรยากาศทั้งแหล่งท่องเที่ยว จุดแวะพัก รวมถึงสภาพถนนหนทาง
แน่นอนหลายคนคงได้สนุกกันไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงที่ท้าทายสมรรถนะของรถกับเส้นทางเขา ที่มีโค้งทั้งเนินให้ได้ลองกันมากมาย
สำหรับกิจกรรมในรูปแบบนี้ น่าจะเป็นอีกแนวทางที่นิสสันจะไปใช้กับลูกค้าในวงกว้าง เพราะในสถานการณ์ที่การแข่งขันรุนแรง และบางอย่างก็ต้องยอมรับว่า คิกส์ เสียเปรียบ แต่ก็มีหลายอย่างที่เป็นจุดเด่น ที่จะต้องดึงขึ้นมาให้ลููกค้าได้สัมผัสจริงๆ และที่ดีที่สุด คือ การได้ลองขับ
เหมือนดังที่ อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธานนิสสัน อาเซียน และ ประธานนิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ นิสสัน แนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวโดยสำรวจพื้นที่ในภาคเหนือ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเมื่ออุณหภูมิเย็นลง
"นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ พร้อมยกระดับประสบการณ์การเดินทางของลูกค้า ด้วยการมอบความตื่นเต้นในการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาจุดชาร์จไฟ ซึ่งเทคโนโลยีนี้คือตัวเปลี่ยนเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มต้นการเดินทางระยะไกล หรือการสำรวจพื้นที่ห่างไกล"
เอาเข้าจริงสถานที่บางแห่งผมก็ไม่เคยไปเช่น แถวๆ เขื่อนแม่สรวยที่มีร้านอาหารซ่อนตัวอยู่ อาหารไทย ที่รสชาติไทยๆ หาได้จากที่นี่ วันหลังคงต้องไปซ้ำอีก
สำหรับการขับขี่ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้ขับในเส้นทางนี้ ถือว่า คิกส์ ตอบสนองได้ดี โดยเฉพาะ 2 เรื่องนี้ ก็คือ อัตราเร่งในการใช้งาน และการควบคุมรถ
เส้นทางเขา เปิดโอกาสให้ คิกส์ แสดงความโดดเด่นของช่วงล่างออกมา ช่วงล่างไว้ใจได้ แม้จะรู้สึกบางช่วงบางโค้งจะใช้ความเร็วสูงไปสักหน่อยจนรับรู้ได้ถึงแรงเหวี่ยงของตัวเรา แต่ช่วงล่างยังจัดการได้ดี
การรักษาสมดุลของตัวถังทำได้ดี ไม่มีอาการดื้อโค้ง หรือ ท้ายปัด และที่เด่นอีกสิ่งหนึ่งคือ การโยนตัวของตัวถังน้อย ทำให้ไม่รบกวนผู้ขับให้วอกแวกออกจากเส้นทาง
และเส้นทางแบบนี้เหมาะกับการเปิดใช้ระบบ one paddle step ซึ่งจะทำงานคู่กับโหมดขับขี่ eco หรือ sport (แต่ทางแบบนี้น่าจะต้อง sport) ช่วยให้ขับได้ง่ายขึ้น และเพิ่มความสนุกมากขึ้น เพราะใช้แค่เท้าเดียว คุมด้วยน้ำหนักเท้าเท่านั้น
ส่วนเรื่องของอัตราเร่งในการใช้งาน หมายถึง การขับขี่แบบการเดินทางทั่วไป และเมื่อถึงจังหวะที่ต้องการเพิ่มความเร็ว เช่น เร่งแซง โดยเฉพาะในช่วงเส้นทางเล็กๆ แบบ 2 เลน สวนทาง การตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้าที่เรียกกำลังมาได้เร็ว ทำให้การปรับเปลี่ยนความเร็วทำได้เร็ว ไม่ต้องลุ้น
ซึ่งการปรับเพิ่มแบตเตอรีลิเธียม ไอออนเป็น 2.06 กิโลวัตต์ชั่วโมง จากเดิม 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ก็มีส่วนช่วยไม่น้อยในการทำให้การเชื่อมต่อ หรือถ่ายทอดพลังงานไปยังมอเตอร์นั้นทำได้ดีขึ้น ราบรื่นขึ้น ช่วยในการขับขี่อีกทาง
แต่ก็มีอยู่บ้างกับบางช่วงที่ขึ้นเขายาวๆ ความเร็วปลายเหมือนจะอั้นๆ อยู่บ้าง น่าจะเป็นระบบที่ไม่ต้องการให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานหนักเกินไป เหมือนกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับรถ อีวี หลายๆ รุ่น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการขับขี่ในภาพรวมอะไรนัก
คิกส์ นั้นใช้เครื่องยนต์ เบนซิน 1.2 ลิตร 3 สูบ ให้กำลังสูงสุด 82 แรงม้า/ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร/4,800 รอบต่อนาที
ส่วนมอเตอร์ขับเคลื่อน EM47 เป็นชนิด AC3 Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า/ 3,410-9,697 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร/0-3,410 รอบต่อนาทีมิ
โดยรวมๆ แล้ว กับการขับขี่ในเส้นทางนี้ บวกกับอากาศดีๆ ทำให้ขับได้สนุก
ช่วงนี้เห็นในโลกโซเชียลถกเถียงกับคำว่าขับสนุก รู้ได้อย่างไรว่าขับสนุก เอาเป็นว่าไปลองขับ คิกส์ ในเส้นทางแบบนี้ดู ก็น่าจะพอได้แนวทางคำตอบอยู่บ้าง
ขณะที่การขับในเมือง สบายๆ รถขนาดกะทัดรัด คล่องตัวสูง ลัดเลาะไปไหนมาไหนในสภาพจราจรได้ง่ายๆ ขณะที่ภายในห้องโดยสาร แอร์ที่ผ่านการแก้ไขมาแล้วก่อนหน้านี้ เย็นสบาย เบาะนั่งผู้ขับ หรือ ผู้โดยสารด้านหน้าก็นั่งได้สบายๆ
และยังได้อารมณ์สปอร์ตจากเบาะที่มีปีกโอบกระชับลำตัว ซึ่งมีส่วนช่วยในการขับขี่โดยเฉพาะช่วงทางเขาหรือโค้ง เพราะล้อคตัวไม่ให้ไหลไปมา แต่ว่าสำหรับใครที่ตัวใหญ่ แบบใหญ่จริงๆ อาจจะรู้สึกอึดอัดบ้าง ยังไงก็ลองไปนั่งดูก่อน ถ้าเผื่อสนใจจะซื้อหามาขับกัน
เบาะด้านหลังจริงๆ ก็ออกแบบมาได้ดี นั่งได้สบายเหมือนกัน แต่ข้อจำกัดในด้านที่โดยรวม ก็ต้องยอมรับว่า คิกส์ ยังมีข้อกัด กับพื้นที่ว่างระหว่างเบาะหน้ากับเบาะหลัง จริงๆ แล้ว ไมถึงกับเข่าติด เท้าติดหรอกครับ แต่แค่รู้สึกว่าคับแคบไปหน่อยเท่านั้น
โดยมิติตัวถังของ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์
- ยาวxกว้างxสูง 4,220x1,760x1,610 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,615 มม.
- ระยะห่างล้อหน้า/หลัง 1,520/1,535 มม.
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม.
ก็ลองดูตามความชอบ ความจำเป็นในการใช้งาน แต่ถ้าใครที่ต้องการรถราคาไม่แรง แต่ตอบสนองเรื่องความสนุกในการขับขี่ ตอบสนองการเดินทางจะใกล้หรือไกลแบบไม่เหนื่อย ความประหยัดที่น่าพอใจ
หรือว่าชอบอารมณ์ของรถ อีวี แต่ไม่ต้องหาที่ชาร์จไฟ ผมว่า คิกส์ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
นิสสัน คิกส์ อี-เพาเวอร์ มีให้เลือกรวม 4 รุ่นย่อย เริ่มตั้งแต่
- รุ่น E ราคา 779,900 บาท
- รุ่น V ค่าตัว 849,000 บาท
- รุ่น VL 919.900 บาท
- รุ่น Autech ซึ่งเป็นตัวแต่งพิเศษ 979,900 บาท
โดยโครงสร้างหลักๆ นั่นเหมือนกัน รวมถึงขนาดล้อและยาง 205/55 R17 ต่างกันที่ออปชั่น
ส่วนรถที่ร่วมกิจกรรมกับสื่อนานาชาตินี้ มีหลายรุ่น รุ่นที่ผมขับคือ V ซึ่งในทางการการเลือกซื้อ หากเทียบกับตัว VL ราคาที่ต่างกัน 70,000 บาท ผมว่า รุ่น V ก็น่าสนใจ โดยออปชั่นที่น้อยกว่า คือ
- วัสดุตกแต่งประตูท้าย
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- แผงสัมภาระด้านท้าย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ICC:Intelligent Cruise Control)
- ระบบเตือนจุดอับสายตา
- ระบบเตือนขณะถอยหลัง
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง
- ระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ
ส่วนออปชั่นหลักๆ อย่างอื่น ก็ยังมีอยู่เต็มคัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง ช่วยป้องกันการหลุดโค้ง กล้องมองภาพรอบทิศทาง ถุงลมคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลม
เบรกเอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก เบรกมือไฟฟ้า ระบบ ออโต้ เบรก โฮลด์ สัญญาณเตือนกะระยะจอดด้านหลัง ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน เป็นต้น
แต่ถ้าใครที่ต้องการใช้งานระบบต่างๆ ที่มีใน VL และไม่เป็นภาระกับงบประมาณ ก็จัดได้ครับ