นิวเจนฯ-Tech Leader-ผู้หญิง ตัวแปรดันยอดขายปอร์เช่พุ่ง
ปอร์เช่ แบรนด์ พรีเมียม สปอร์ต จากเยอรมนี เข้ามาทำตลาดในไทยครบ 30 ปี และมีการเติบโตที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงหลังๆ ที่ทำให้บริษัทปักประเทศไทยเป็นหมุดหมายสำคัญของตลาดในภูมิภาคอาเซียน และเอเชีย
การเติบโตที่โดดเด่น และต่อเนื่องของ ปอร์เช่ มาจากหลายปัจจัย ทั้งด้านตัวผลิตภัณฑ์ และ แนวทางการบริหารงาน
ปวราภา ดุพัสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ปอร์เช่ ประเทศไทย ที่ผ่านมา ปอร์เช่ พยายามที่จะเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด และทุกช่องทาง ผ่านทางสินค้า และบริการที่หลากหลาย รวมถึงการมองหาช่องทางใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
เช่น ผลจากการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ที่มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น การเปิดตัวรถรุ่นพิเศษ "ปอร์เช่ 911 Carrera GTS-30 Years Porsche Thailand Edition"
เป็นรถที่มีเพียงคันเดียวในโลก ออกแบบสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ มีทั้งสัญลักษณ์พิเศษ เช่น รูปแผนที่ประเทศไทย สัญลักษณ์ 30 ปี และสีตัวถัง 7 สี ตามความเชื่อเรื่องสีประจำวันของคนไทย
แม้รถคันนี้จะไม่ได้จำหน่าย แต่หลังจากเสร็จกิจกรรมจะส่งเข้าพิพิธภัณฑ์ที่ เยอรมนี แต่ ปอร์เช่ ผลิตรุ่นพิเศษทั้ง 7 สี จำนวน 30 คัน เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวไทยมีโอกาสร่วมเฉลิมฉลอง
หรือการร่วมมือกับพันธมิตรผลิตสินค้า ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น เช่น ร่วมกับ พูม่า ผลิต สนีกเกอร์ รุ่นพิเศษ เป็นต้น
ปวราภา กล่าวว่า กิจกรรมพิศษ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ นอกจากจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าปอร์เช่แล้ว พบว่ายังได้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ๆ จำนวนมากที่เป็น young generation
“คนรุ่นใหม่ ประสบความสำเร็จเร็ว เยอะมาก และก็ต้องการหารางวัลให้กับตัวเอง และปอร์เช่ เป็นตัวเลือกที่พวกเขาสนใจ”
ทั้งนี้หากมองลึกลงไปอีก ก็จะพบว่า หนึ่งในสิ่งสำคัญของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายยุคใหม่ คือ การชื่นชอบเทคโนโลยี เป็น Tech Leader และรถที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ คือ ไทคานน์ (Taycan) รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกและรุ่นดังของปอร์เช่
รวมถึงหลายคนชื่นชอบสีที่มีความพิเศษ ดังนั้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์จึงต้องมีความหลากหลายเช่นกัน
นอกจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ สิ่งที่มีผลต่อการขยายตัวของปอร์เช่ คือ การที่ลูกค้ากลุ่มผู้หญิงขยายตัวอย่างชัดเจน จากเดิมสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 20% หรือบางช่วงขยับไปที่ 30% แต่พบว่าปัจจุบันขึ้นมาอยู่ที่ 40%
การที่ลูกค้ากลุ่มผู้หญิงขยายตัวมาจากทั้งการที่ผู้หญิงประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้น และการที่ปอร์เช่มีสินค้าที่ตอบสนองได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการวางกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์และการตลาด
“ปอร์เช่ ได้ชื่อว่าเป็นรถสปอร์ต เรื่องของเพอร์ฟอร์แมนซ์นั้นเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว แต่เราเสริมเรื่องของดีไซน์ให้ตอบรับลูกค้าที่กว้างและหลากหลายมากขึ้น และเป็นรถที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน หรือ daily use เดิมรถอาจจะเหมาะกับผู้ชายมากกว่า แต่ปัจจุบันเรามีรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงลูกค้าได้ตรงตามเป้าหมาย เรื่องของการตลาดหรือกิจกรรมต่างๆ ต้องถูกนำมาใช้ เช่น หากเป็นลุกค้ากลุ่มผู้ชาย สิ่งสำคัญคือ กิจกรรมลองขับในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการขับรถในเซอร์กิต กิจกรรม Driver Safety Training
ขณะที่กลุ่มผู้หญิง คือ กิจกรรมท่องเที่ยว road trip หรือกิจกรรมผ่อนคลายอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมา ปอร์เช่ ประเทศไทยจัดอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับที่ดี
นอกจากนี้ยังพบว่าลูกค้าผู้หญิงจะชอบความคุ้มค่า และสิทธิพิเศษ ซึ่งในเรื่องเหล่านี้จริงๆ แล้วระดับโกลบอลก็มีนโยบาย หรือ Global Strategic แต่ทุกอย่างอาจจะใช้ได้ไม่เหมือนกัน
ดังนั้นสิ่งที่บริษัททำมาตลอดคือการพูดคุยกับลูกค้า ศึกษาข้อมูลเพื่อให้รู้ว่าต้องการอะไร เพื่อตอบสนองได้ถูกต้อง เช่น การเสริมกิจกรรมเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย การช้อปสินค้าแบรนด์เนม แฟชั่นโชว์ หรือ ดินเนอร์ เป็นต้น จากนั้นจึงกำหนดออกเป็นกิจกรรม โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องที่เหมาะสม
ทั้งหมดนี้ ไม่เพียงแต่สร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ แต่ในอนาคต จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำ ซึ่งเป็นอีกหัวใจหลักของการทำธุรกิจอีกด้วย
ในขณะที่ด้านการตลาดซึ่งขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปอร์เช่ ต้องเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ รองรับ ในทุกๆ ด้าน เช่น กลุ่มอีวี ที่ในอนาคตจะมีรุ่นใหม่ๆ เปิดตัวมากขึ้น เริ่มต้นด้วย มาคันน์ อีวี
นอกจากนี้ปอร์เช่ยังเดินหน้าสร้าง อีวี อีโค ซิสเทม เช่น การสร้างสถานีชาร์จ ซูเปอร์ชาร์จ กำลังไฟ 360 กิโลวัตต์ การร่วมมือกับ เชลล์ สร้างซูเปอร์ ชาร์จ 180 กิโลวัตต์ รองรับการเดินทางเส้นทางหลัก โดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมต่อ มาเลเซีย และสิงคโปรฺ์
“ปัจจุบัน อีวี มีผู้เล่นในตลาดจำนวนมาก แต่ปอร์เช่ เราไม่มองคู่แข่ง เรามองที่ลูกค้า ทำอย่างไรให้ลูกค้าสะดวกที่สุด นั่นก็จะเป็นดึงให้ลูกค้าอยู่กับเรา”
นอกจากนี้สำหรับลูกค้าทั่วไป ยังมีโปรแกรมให้ลูกค้าเลือกขยายการประกันรถนานสูงสุด 15 ปี ทำให้ใช้รถได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น และที่สำคัญมีผลต่อราคารถมือสองที่ดีขึ้นด้วย สามารถขายต่อได้ง่าย และราคาดี
รวมถึงการขยายโชว์รูม ศูนย์บริการ อีก 2 แห่ง และในปี 2568 จะเพิ่ม ปอร์เช่ เซ็นเตอร์ 3 แห่ง ขณะที่โชว์รูมและศูนย์บริการดอนเมืองปัจจุบัน อยู่ระหว่างขยายพื้นที่จากเดิมหลายเท่า โดยจะมีทั้งศูนย์บริการ ศูนย์ฝึกอบรม และศุนย์อะไหล่ เพื่อรองรับประชากรปอร์เช่ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไม่เพียงด้านการผลิตภัณฑ์ ตลาด บริการ กิจกรรมร่วมลุกค้า แต่ปอร์เช่ ยังให้ความสำคัญกับส่วนอื่นๆ เช่น กิจกรรมมอเตอร์ สปอร์ต ทั้งการสนับสนุน หรือการเข้า่ร่วมโดยตรง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้ผลดีมาก โดยเฉพาะลูกค้าที่ชื่นชอบอารมณ์สปอร์ต และมอเตอร์สปอร์ต เพราะเข้ากับ ดีเอ็นเอ ของรถ
และบางกิจกรรมลูกค้าก็สามารถมีประสบการณ์ตรงได้ เช่น การเปิดให้ลูกค้านำรถตัวเองลงไปขับในสนามช้าง อินเตอร์ เนชันแนล เซอร์กิต สนามแข่งมาตรฐานโลก ที่บุรีรัมย์ ทำให้เรียนรู้สมรรถนะรถของตนเองมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีความชื่นชอบ และสัมพันธ์ที่ดีกับอร์เช่มากขึ้นเช่นกัน
ปวราภา กล่าวว่า สิ่งต่างๆ ที่ทำมาโดยตลอด นอกจากเกิดผลดีต่อการที่ธุรกิจขยายตัวแล้ว ยังทำให้บริษัทแม่ใหัความสำคัญกับ ปอร์เช่ ประเทศไทย มากขึ้น โดยปัจจุบันแม่เข้ามาดูมาวิจัยทั้งเรื่องของราคาที่สามารถแข่งขันได้ นโยบายการรับประกัน หรือรายละเอียดของตัวรถที่เหมาะกับตลาดเมืองไทย