เปิดมุมมอง ไพรม์มัส กรุ๊ป EV มากกว่าเทรนด์ เหตุโดดร่วมขาย Deepal
กระแสรถยนต์พลังงงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) มาแรงอย่างต่อนเนื่อง มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติม มีรถรุ่นใหม่มาเติมตลาดเพิ่มความหลากหลาย ขณะเดียวกันด้านเครือช่ายการจำหน่าย ก็มีโดดเข้ามามากขึ้น ทั้งหน้าใหม่ และผู้ที่อยู่ในแวดวงอยู่แล้ว รวมถึง “เบนซ์ไพรม์มัส”
ถือเป็นน้องใหม่ที่มาแรงสำหรับ “เบนซ์ไพรม์มัส” ที่เข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯและสามารถทำผลงานได้ดี ทั้งด้านการขาย บริการ และการขยายธุรกิจ
โดยตลอดเวลา 4 ปี เบนซ์ไพรม์มัส สามารถสร้างผลประกอบการทั้งด้านการขาย และบริการหลังการขายเติบโตเฉลี่ยปีละ 10-20% และยังมี CSI อันดับ 1 จากคะแนนความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้า
จิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด ระบุว่านอกจากนี้ยังรวมถึงยังมีสัดส่วนยอดจำหน่ายสูงสุด ในรถกลุ่มพิเศษอย่าง อีคิว หรือ กลุ่มรถพลังงานไฟฟ้า และ มายบัค อีกด้วย
และนั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่บริษัทแม่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” ให้สิทธิในการทำตลาดในพื้นที่เขตพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็นพื้นที่การตลาดที่สำคัญ มีกำลังซื้อสูง และเป็นพื้นที่ศักยภาพของตลาดรถยนต์พรีเมียม
โดยเตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เข้าไปดำเนินธุรกิจแล้วผ่านโชว์รูมและศูนย์บริการชั่วคราว ซึ่งก็พบว่าได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งลูกค้าในพื้นที่ชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง
และในภาพรวมของตลาดปีนี้ เบนซ์ไพรม์มัส เชื่อว่าตลาดรถกลุ่มพรีเมียมจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อบริษัทด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไพรม์มัส ยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ นั่นคือการขยายธุรกิจไปจำหน่ายรถยี่ห้ออื่นเพิ่มเติม และเป็นรถพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี จากจีน อย่าง Changan (ฉางอัน) ที่ล่าสุดเปิดตลาดในไทย ภายใต้ชื่อ ดีพอล (Deepal)
โดยตั้งบริษัท ไพรม์มัส โมบิลิตี้ จำกัด ในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป ขึ้นมาดูแลตลาด โดยใช้ชื่อว่า ดีพอล ไพรม์มัส (DEEPAL PRIMUS)
ทั้งนี้สำหรับไพรม์มัส กรุ๊ป เป็นเครือข่ายธุรกิจของ ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง ที่มีธุรกิจรถยนต์อีก 2 แบรนด์ คือ ซูซูกิ ภายใต้ชื่อ ไอทีโอเอ ออโต้เซลส์ และ เอ็มจี โดย เบส ออโต้เซลส์
โดย ดีพอล จะดูแลโดย ไพรม์มัส กรุ๊ป ซึ่งก็จะมี จิระพล รุจิวิพัฒน์ ไปนั่งเป็นกรรมการผู้จัดการอีกแห่งหนึ่งเช่นกัน
เป็นการบ่งบอกถึงความมั่นใจ และความสำคัญของแบรนด์ใหม่ โดยจิระพลระบุว่า อีวี ไม่ใช่ เทรนด์ แต่จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งบริษัทเองก็มีประสบการณ์ จากการทำตลาดกลุ่ม อีคิว ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เห็นได้ว่าขยายตัวเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการขยับตัวครั้งนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงในกลุ่ม ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง เช่นกัน นั่นคือการปรับเปลี่ยนสาขาของ ซูซูกิ ที่บางแสน และเอ็มจี ที่ถนนรามคำแหงมาทำตลาด ดีพอล แทน
ผู้บริหารให้เหตุผลว่า ปัจจุบัน เอ็มจี มีสาขาที่ใกล้เคียงที่รองรับได้คือ บางนาตราด กม.4 ส่วนซูซูกิ มีสาขาที่ใกล้เคียงรองรับแทนได้เช่นกัน
แต่จริงๆ แล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งก็เป็นไปตามกลไกตลาดที่ปัจจุบันรถหลายยี่ห้อถูกท้าทายตลาดด้วยรถยนต์จากจีน รวมถึงซูซูกิ และไม่เว้นแม้แต่เอ็มจี ที่มี อีวี ทำตลาดเช่นกัน
โดยทั้ง 2 สาขา อยู่ระหว่างการรีโนเวท ใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในช่วงเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้ แต่บริษัทก็เริ่มต้นรับจองรถผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา
"ความสำเร็จของไพรม์มัส กรุ๊ป ทำให้เรามุ่งมั่นและแสวงหาโอกาสใหม่ในการดำเนินธุรกิจ โดยเล็งเห็นความสำคัญของตลาดอีวี เนื่องจากผู้บริโภคคนไทยให้ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดเติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ขณะเดียวกันการแข่งขันก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีบริษัทรถยนต์รายใหม่เปิดตัวแบรนด์ และรถยนต์รุ่นใหม่มากมาย"
โดยบริษัทเห็นว่า ฉางอันเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์จีนที่กระแสมาแรง ด้วยความที่เป็นแบรนด์รถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับ 4 ของจีน และมีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยม ภายใต้ชื่อ ดีพอล มีแพลทฟอร์มที่หลากหลายทั้ง BEV, PHEV, REEV (Range Extended EV) และมีเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัย
โดยบริษัทคาดหวังว่าจะมีสัดส่วนยอดขายปีนี้ 10% กรณีที่บริษัทแม่ระบุว่าจะมีสาขาในประเทศรวม 100 แห่ง ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสขยายสาขาเพิ่มเติมในอนาคตเช่นก้น