อีซูซุ โดดร่วมวง EV ลงนามร่วมนโยบายรัฐ
อีซูซุ อีซูซุร่วมลงนาม MOU ยานยนต์ไฟฟ้าฯ ข้อตกลงรับสิทะิตามมาตรการสนับสนุนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า กับกรมสรรพสามิต
สำหรับการลงนาม ข้อตกลงการรับสิทธิตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า มีซาโตชิ ยามางุจิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานผลิตรถยนต์อีซูซุ ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์อีซูซุ และเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต
อีซูซุ ระบุว่า การลงนามดังกล่าวเป็นการตอบรับนโยบายรัฐบาลต่อยอดการเป็นฐานการผลิตรถปิกอัพในไทย ตอบรับนโยบายรัฐบาล เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญในประเทศไทย และต่อยอดการเป็นฐานการผลิตรถปิกอัพในไทยไปยังตลาดโลก
ทั้งนี้สำหรับมาตรการส่งเสริมการใช้งาน อีวี ขณะนี้เป็นระยะที่ 2 หรือ EV 3.5 โดยหนึ่งในรายละเอียดของมาตรการคือ การส่งเสริมรถปิกอัพ แต่ทั้งนี้จะต้องเป็นรถที่ผลิตในประเทศเท่านั้น ต่างจากรถยนต์นั่งที่อนุญาตให้นำเข้ามาทำตลาด ก่อนที่จะผลิตคืนได้
โดยปิกอัพอีวีที่จะร่วมโครงการ ต้องมีราคาจำหน่ายไม่เกิน 2 ล้านบาท และจะต้องติดตั้งแบตเตอรี ที่มีขนาดความจุตั้งแต่ 50 kWh ขึ้นไป โดยสำหรับการจำหน่ายในประเทศ จะได้รับเงินอุดหนุนระหว่าง 50,000 - 100,000 บาท/คัน
ทั้งนี้การแสดงความสนใจต่อ อีวี ของอีซูซุ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะจริงๆ แล้ว อีซูซุ นั้นยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ (BOI) ไปก่อนหน้านี้
โดยเดือนตุลาคม 2566 บีโอไอ ประกาศอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนให้แก่ บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จ.สมุทรปราการ ที่ยื่นแพกเกจผลิตรถปิกอัพพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี
ขณะที่ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ช่วงปลายเดือน พ.ย.2566 ว่า อีซูซุ มีแผนที่จะผลิตรถปิกอัพอีวี เริ่่มต้นในปี 2568 เพื่อรับแผนการส่งออก เริ่มต้นคือตลาดภูมิภาคยุโรปบางประเทศที่รัฐบาลมีแผนส่งเสริมชัดเจน หรือกำหนดให้ใช้รถไฟฟ้า
ส่วนประเทศอื่นๆ รวมถึงไทยจะทำตลาดหรือไม่นั้น ต้องดูถึงความเหมาะสมของตลาด และความต้องการของแต่ละประเทศก่อน โดยอีซูซุเริ่มต้นทดสอบปิกอัพ อีวี เพื่อเตรียมความพร้อมรับแผนการดังกล่าวแล้ว ส่วนกำลังการผลิตอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดของตลาด
สำหรับตลาดประเทศไทยที่อีซูซุ ยังไม่มีแผนที่จะทำตลาด เพราะจากการประเมินความต้องการของลูกค้าพบว่ามีความต้องการน้อย โดยเงื่อนไขของ ปิกอัพ อีวี ที่ลูกค้ามองคือน้ำหนักบรรทุก ระยะ่ทางการใช้งาน และระดับราคาจำหน่าย
นอกจากนี้ยังมองว่า หากต้องการมุ่งเน้นเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอนจริงๆ เห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องมุ่งไปสู่ที่อีวีอย่างเดียว แต่เทคโนโลยีอื่นๆ ก็สามารถช่วยให้เข้าถึงเป้าหมายได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ต้องตามดูว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจปิกอัพ อีวี ในประเทศของอีซูซุ จะเปลี่ยนไปหรือไม่ หลังกระแสอีวีขยายตัวอย่างโดดเด่น