โตโยตัา หั่นคาดการณ์ตลาดรถ 7.3 แสน ลุย 'ปิกอัพ EV' ปี 68 แต่เชื่อ ไฮบริด รุ่งกว่า
โตโยต้า หั่นคาดการณ์ตลาดรถเหลือ 7.3 แสนคัน หลังเห็นปัจจัยลบฉุดตลาด พร้อมเดินหน้าลุยพลังงานทางเลือก ตามนโยบาย Multi Pahtway รวมถึงปิกอัพพลังงานไฟฟ้าปลายปี 2568 แต่เชื่อ ไฮบริด ยังได้รับความนิยมมากกว่า
โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยยังไม่ดีนัก จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มจากดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ที่ไม่ดีนัก บวกกับสถาบันการเงินที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมที่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
เหตุผลทั้งหมดทำให้โตโยต้า ตัดสินใจปรับลดเป้าหมายปีนี้จากเดิมตั้งเป้าไว้ 7.8 - 8 แสนคัน โดยหั่นคาดการณ์ตลาดรถเหลือประมาณ 7.3 แสนคัน หรือลดลงประมาณ 5% จากปี 2566 ที่มียอดขาย 7.7 แสนคัน ซึ่งก็ลดลงจากปีก่อนหน้า 9%
อย่างไรก็ตาม คาดว่ารัฐจะมีแนวทางออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเชื่อว่ามาตรการต่างๆ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น
ในส่วนของโตโยต้า แม้ตลาดรถยนต์โดยรวมไม่ดี แต่หากเทียบกับภาพรวมตลาด เชื่อว่าสถานการณ์ของโตโยต้าจะอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยตั้งเป้าการขายปีนี้ 2.5 แสนคัน ส่วนแบ่งตลาด 34%
“แม้ว่าตลาดโดยรวมไม่ดี และยังได้รับผบกระทบจากตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรืออีวี (EV) โดยเฉพาะอีวีจากจีนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนแบ่งตลาดโตโยต้า ทำได้ 34.8% ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่ทำได้ 34.3%”
การที่ยอดขายโตโยต้าอยู่ในเกณฑ์ดีมาจาการยอมรับรถยนต์หลายรุ่น โดยเฉพาะรถที่เปิดตัวใหม่ เช่น โคโรลล่า ครอส รุ่นปรับโฉมที่หลังจากเปิดตัว 1 เดือน มียอดจองมากกว่า 3,000 คัน ยาริส ครอส เปิดตัว 5 เดือน ยอดจอง 2.5 หมื่นคัน หรือว่า ไฮลักซ์ แชมป์ มียอดจอง 5,000 คันในช่วงเวลา 3 เดือน ซึ่งสูงกว่าเป้าทั้งหมด
การที่รถหลายรุ่นของโตโยต้า ประสบความสำเร็จ แม้จะอยู่ท่ามกลางการขยายตัวของอีวี มาจากกระแสความนิยมของรถลูกผสมอย่างไฮบริดยังคงได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งหากดูตลาดปี 2566 พบว่า
- อีวีครองสัดส่วน 10%
- ไฮบริดครองสัดส่วน 12%
แต่ช่วงเดือน ม.ค.- ก.พ.2567 สัดส่วน อีวี เพิ่มขึ้นเป็น 14% แต่พบว่า ไฮบริด มีสัดส่วนที่่เพิ่มขึ้นสูงกว่า คือ 22%
“พลังงานทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองด้านความประหยัด หรือการลดปัญหามลภาวะ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่จะเป็นจะต้องเป็น อีวี เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่สามารถตอบสนองได้ ทั้งนี้ขึั้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า”
ทั้งนี้โตโยต้ามองว่าการตอบสนองของความต้องการลูกค้า ไม่ได้อยู้่ที่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานด้วย ซึ่งบางกรณีรถไฮบริด อาจจะประหยัดกว่า อีวี ก็ได้ ดังนั้นแนวทางของโตโยต้า คือ การเพิ่มความหลากหลายของทางเลือกให้ลูกค้า หรือเป็นไปตามนโยบายที่เรียกว่า Multi Pathway
อย่างไรก็ตามในส่วนรถพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี นั้น โตโยต้า มีแผนผลิต ปิกอัพ ไฮลักซ์ อีวี ช่วงปลายปี 2568 ที่จะถึงนี้
สำหรับความเคลื่อนไหวของโตโยต้า ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์ โชว์ หรือ บางกอก มอเตอร์ โชว์ โตโยต้า จัดแสดงรถแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักคือ
- โซนรถยนต์ไฮบริด ซึ่งเป็นตลาดสำคัญ และฮอนด้าบุกเบิกตลาดไฮบริดเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ด้วยการแนะนำคัมรี่ ไฮบริด ตั้งแต่ปี 2552 ส่งผลให้ปัจจุบันมียอดจำหน่ายรถยนต์ไฮบริดสะสมกว่า 196,000 คัน
โดยงานนี้ โตโยต้านำโตโยต้า โคโรลล่า ครอส ใหม่ รวมด้วย ยาริส ครอส, คัมรี, โคโรลล่า อัลติส และ อินโนวา ซีนิกซ์
- โซนไฮลักซ์ นำไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นปรับปรุงใหม่ 2024 ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต 4x4 กระบะรุ่นเรือธงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งในสนาม ไฮลักซ์ รีโว่ แซด อิดิชั่น ทั้งดับเบิ้ล แค็บ และสมาร์ท แค็บ และ ไฮลักซ์ รีโว่ สมาร์ท แค็บ พรีรันเนอร์ และรุ่นขับเคลื่อน 4x4 ที่มาพร้อมกับมาตรฐานยูโร 5 รวมถึงรถกระบะเชิงพาณิชย์อย่าง Hilux Champ
ส่วนโปรโมชั่น และกิจกรรมส่งเสริมในงาน เช่น
KINTO จากโตโยต้า ลีสซิ่ง สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการซื้อรถ หรือใช้ก่อน ถูกใจค่อยซื้อ เป็นการให้บริการทั้งลูกค้าบุคคล และนิติบุคคล ที่มีค่าใช้จ่ายรายเดือนที่กำหนดตายตัว จากนั้นบริษัทจะเป็นผู้ดูแลการบริการแบบครบวงจร
โดยลูกค้าสามารถสามารถเลือกใช้รถยนต์ระยะสั้น หรือระยะยาวเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี
และงานนี้ ยังเพิ่ม KINTO ONE Hot Deal ให้ลูกค้ารับรถไวกว่าเดิม และเพิ่มด้วยแพ็กเกจสัญญา 1-2 ปี