'Wuling Binguo' เสริมทัพ ลุยตลาด EV ไซส์เล็ก โอกาสที่เปิดกว้าง

ท่ามกลางกระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) ที่เติบโตร้อนแรงพร้อมกับการแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะการเกิดสงครามราค ที่สาดกระสุนใส่กันหลายรอบ มีทั้งโดนตรงๆ และลูกหลงที่ไปตกอยู่กับรถที่ใช้เครื่องยนต์อีกไม่น้อย 

แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่ามีอีวีบางรุ่นที่ไม่ได้ขยับตัวในด้านราคากับเขาเลย นั่นคือ วู่หลิง ที่มีรถทำตลาด 1 รุ่น คือ แอร์ อีวี (Wuling AIR EV) รถสัญชาติจีนที่มีฐานการผลิตในอินโดนีเซีย เข้ามาทำตลาดบ้านเราปี 2566 ที่ผ่านมา โดยมีเวลาในการทำตลาดจริงจังประมาณครึ่งปี และมียอดขายประมาณ 1,000 คัน 

แน่นอนเป็นตลาดที่ยังเล็ก แต่ก็มีทิศทางที่น่าสนใจ และความเป็นตลาดเล็กอาจเป็นเรื่องน่าสนใจว่า การที่ไม่ต้องถูกชักนำลงไปเล่นในเกมสงครามราคา อาจะเป็นเพราะการเป็นรถที่มีตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือ ตลาดที่มีคู่แข่งไม่มากก็เป็นได้เช่นกัน 

แต่หากไปดูในแง่ของตัวสินค้า ก็ต้องยอมรับว่า แอร์ อีวี เป็นรถที่ค่อนข้างแตกต่าง เป็นเหมือนรถแฟชั่นที่ราคาไ่ม่แรง  และที่น่าสนใจคือ จากข้อมูลของผู้ทำตลาด คือ “อีวี ไพรมัส” พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อเป็นรถคันแรก ทั้งที่ราคาของรถคือ 4.25-4.95 แสนบาท ก็เหมาะกับการจะเป็นรถคันแรกของหลายๆ คน 

แต่กลายเป็นว่าผู้ที่ซื้อ อีวี เป็นรถคันแรกของตัวเอง ส่วนใหญ่จะไปเลือก “เนต้า วี” (NETA V) และนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ปี 2565 ที่ผ่านมา เนต้า วี เป็นโมเดลที่มียอดขายอันดับที่ 2 ในไทย รองจาก บีวายดี แอทโต 3 เท่านั้น 

ซึ่งหากดูรูปแบบของรถก็อาจจะได้ให้คำตอบได้บางส่วน เนต้า วี นั้นมีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า ระยะทางใช้งานที่ไกลกว่า ซึ่งลูกค้าที่ซื้อรถคันแรก หรือมีคันเดียว ก็คงต้องการรถที่ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายมากกว่า 

ขณะที่ แอร์ อีวี เป็นรถออกแนวแฟชั่น และเหมาะกับการใช้งานไม่ไกลนักหรือในเมือง ทำให้คนที่ม่ีีรถอยู่แล้วต้องการเอาไปใช้งานในรูปแบบดังกล่าว โดยที่ได้เรื่องของความประหยัดพลังงาน และความคล่องตัว 

ส่วนปีนี้ แอร์ อีวี  จะมีการเปลี่ยนแปลง คือ มันจะถูกผลิตขึ้นในโรงงานประเทศไทย ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมอยู่ในขณะนี้เป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการเข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการใช้งานอีวีระยะเร่งด่วนของภาครัฐที่กำหนดให้มีการผลิตในประเทศชดเชยการนำเข้ามาจำหน่ายก่อนหน้านี้ 

และไม่เพียงแต่ แอร์ อีวี เท่านั้น แต่ความเคลื่อนไหวของอีวี ไพรมัส ในปีนี้ จะเพิ่มความหลากหลายให้กับวู่หลิง โดยเตรียมเปิดตัวรถ 2 รุ่น คือ บิงโก (Binguo) และ คลาวด์ (Cloud) 

โดยบิงโก จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนนี้ และเริ่มต้นส่งมอบได้ช่วงเดือนพฤษภาคม โดยความแตกต่างในรูปแบบการทำตลาดคือ บิงโก จะเป็นรุ่นประกอบในประเทศ หรือ CKD ทันที ไม่ได้นำเข้ามาจำหน่ายก่อนแต่อย่างใด

ส่วนคลาวด์ จะตามมาในช่วงปลายปี 

ลำดับของรถทั้ง 3 รุ่น เป็นไปตามตัวอักษรตัวแรกของแต่ละรุ่น คือ A, B และ C นั่นหมายถึง บิงโก จะเป็นตัวกลาง ส่วน คลาวด์คือ ตัวท็อปในกลุ่มสินค้า 3 รุ่นแรกในไทย 

และเมื่อเปิดตัว บิงโก อีวี ไพรมัส เชื่อว่ามันจะกลายเป็นตัวสร้างยอดขายหลักในปีนี้ โดยตั้งเป้า 2,000 คัน ขณะที่ แอร์ อีวี 1,000 คัน ส่วนคลาวด์จะยังไม่มียอดมากนักในปีนี้

สิ่งที่ทำให้เชื่อว่าบิงโก จะได้รับการตอบรับมากกว่า เพราะเป็นรถที่ใช้งานได้หลากหลายมากกว่า ทั้งตัวถังแบบ 5 ประตู มีขนาดแบตเตอรี ระยะทางการใช้งานที่ไกลกว่า และที่สำคัญคือจะมีรุ่นย่อยที่มีระบบชาร์จเร็ว หรือ DC Charge มาให้เป็นตัวเลือก ขณะที่ แอร์ อีวี มีเฉพาะการชาร์จปกติ (AC Charge) เท่านั้น

“ที่ผ่านมาลูกค้าหลายคนอยากได้ แอร์ อีวี แต่ติดที่ไม่มีระบบชาร์จเร็ว ทำให้ลูกค้าบางกลุ่ม เช่น ผู้อยู่อาศัยในคอนโดมีเนียม ไม่สะดวกชาร์จ เอซี แต่ต้องการรถที่ชาร์จดีซีได้ เพราะออกไปชาร์จข้างนอก 1 ครั้ง แล้วใช้รถได้หลายวัน” พิทยา ธนาดำรงค์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว

นอกจากนี้การที่อีวี ไพรมัส เชื่อว่าตลาดจะได้รับการตอบรับที่ดี เพราะปัจจุบันตลาดรถเล็กของไทยได้รับความนิยมสูง ไม่ว่าจะเป็น อีโค คาร์ หรือ บี-เซ็กเมนต์ และลูกค้ากลุ่มนี้มีจำนวนไม่น้อยที่สนใจหันมาเล่นตลาด อีวี แทนที่ตลาดรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์นั่นเอง 

สำหรับบิงโก คู่แข่งในตลาดอีวีหลักๆ ปัจจุบัน ก็จะเป็น เนต้า วี-ทู (NETA V-II) และน้องใหม่อีกรายที่เพิ่งเปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ คือ ลูมิน (LUMIN) ของฉางอัน