ลุยกวางโจว ลอง ‘XPENG G6’ ก่อนขายไทย พิสูจน์ ‘XNGP’ ขับอัตโนมัติ ไว้ใจได้
เอ็กซ์เผิง (XPENG) เปิดรับจองสิทธิ์รถรุ่นแรกในไทยไปแล้ว แต่ก่อนจะเปิดตัว เราบุกถึงบ้านเกิด กวางโจว ลองขับ ลองใช้งาน XNGP ADAS ใน “G6” ระบบขับขี่อัตโนมัติว่ามีความแม่นยำแค่ไหน และใช้งานได้จริงหรือไม่
เอ็กซ์เผิง (XPENG) แบรนด์รถยนต์จากจีนเข้ามาทำตลาดเมืองไทย โดยแต่งตั้ง ให้ เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทั้งการนำเข้า และการทำตลาด บริการหลังการขาย โดยเอ็กซ์เผิงไม่ได้เข้ามาลงทุนโดยตรง
และในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา เอ็กซ์เผิงเริ่มต้นการตลาดด้วยการนำรถมาร่วมแสดงหลายรุ่น รวมถึง X2 ยานพาหนะบินได้ หรือ VTOLพร้อมกับการเปิดรับจองสิทธิรถรุ่นแรกที่จะเปิดตลาดในไทย คือ “XPENG G6” รถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ อีวี (EV) ในรูปแบบ คูเป้ เอสยูวี
และก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสตัวจริงของ G6 ที่กวางโจว ประเทศจีน บ้านเกิดเอ็กซ์เผิง
จี 6 พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มแบบ Cell to Body หรือที่ เอ็กซ์เผิงเรียกว่า battery-body integration คือการใช้แบตเตอรีให้เป็นส่วนหนึ่งของแพลทฟอร์ม เพิ่มความแข็งแกร่ง และรบกวนพื้นที่ใช้สอยให้น้อยที่สุด โดยมี 3 รุ่นย่อยให้เลือกคือ
- 580 Long Range
- 755 Ultra long Range
- 700 AWD
ส่วนรุ่นที่ผมลองขับ เป็นตัว 580 Long Range
การออกแบบโดยรวม ดูดี ร่วมสมัย ภายในโปร่งโล่ง สบายตา เสริมด้วยซันรูฟขนาดใหญ่ พื้นที่มากกว่า 2 ตร.ม.
เบาะนั่งด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบบจดจำตำแหน่ง และ เวลคัม ซีท ที่ขยับเบาะเพิ่มพื้นที่ในจังหวะขึ้น-ลง รถ
ตัวเบาะนั่งได้สบายและกระชับลำตัว คอนโซลกลางมีขนาดใหญ่ เป็นที่พักแขนได้สะดวก รวมถึงมีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายให้ 2 ตำแหน่ง ไม่ต้องแย่งกันระหว่างผู้ขับกับผู้โดยสารด้านหน้า และที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง รวมถึงกล่องเก็บของขนาดใหญ่
เบาะนั่งด้านหลังน่าจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ถูกใจผู้โดยสาร เพราะกว้างขวางชัดเจน นั่งได้สบาย พื้นที่เหลือเฟือ ยิ่งถ้านั่ง 2 คน ดึงที่พักแขนที่วางแก้วลงมาเพิ่มความสะดวกมากขึ้น
ด้านความสะดวกในการใช้งานของ อีวี คันนี้ จุดเด่นอย่างหนึ่งคือ แบตตอรีแบบ 800 โวลต์ ทำให้ชาร์จได้เร็ว โดย จี 6 รองรับการชาร์จ DC 280 kW หากชาร์จ 10 นาที สามารถเดินทางได้ 300 กม. ส่วนการชาร์จจาก 10-80% ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ส่วนการชาร์จ AC อยู่ที่ 6.6 kW
แต่การลองขับครั้งนี้ อาจจะไม่ได้ลองเรื่องของสมรรถนะมากนัก เพราะเอ็กซ์เผิง ต้องการนำเสนอเทคโนโลยีเด่นของค่ายอย่าง XNGP ADAS
ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า ประธาน เอ็กซ์เผิง คือ “เหอ เสี่ยวเผิง” นั้น เริ่มต้นและประสบความสำเร็จกับธุรกิจด้านซอฟท์แวร์มาก่อน เมื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์เมื่อปี 2557 ก็นำจุดแข็งที่มีมาใช้กับรถยนต์
โดยปัจจุบันเรืื่องของเทคโนโลยี ระบบปฏิบัติการต่างๆ นั้นผู้บริหารเอ็กซ์เผิงมั่นใจว่าไม่น้อยหน้าใคร และเชื่อว่าอยู่ในกลุ่มท็อปทรีร่วมกับ เทสล่า และ เสี่ยวหมี
XNGP หรือ XPENG Navigation Guided Pilot ซึ่งเอ็กซ์เผิงเริ่มใช้งานได้จริงทั้ง City NGP และ Highway NGP โดยเริ่มต้นที่กวางโจวเป็นแห่งแรก ก่อนที่จะขยายยังเมืืองอื่นๆ และจากนั้นก็จะตามติดไปกับรถที่ออกไปทำตลาดยังประเทศต่างๆ น่าจะเริ่มจากยุโรปก่อน
ส่วนในไทยที่เตรียมทำตลาดเร็วๆนี้ ผู้บริหารเอ็กซ์เผิงบอกว่ากำลังศึกษาเตรียมความพร้อม และคาดว่าจะสามารถใช้ได้เต็มระบบไม่เกินปี 2569
การใช้งานไม่ยากอะไรครับ เริ่มจากเลือกเส้นทางท่ี่ต้องการจะไปผ่านการพูดคุยกับ เอไอ ตัวใหม่ของเอ็กซ์เผิงที่ชื่อว่า เสี่ยว พี (Xiao P.) ด้วยระบบเสียง ซึ่งคุยได้หลายภาษา แต่ภาษาไทยอยู่ในช่วงการพัฒนา ดังนั้นการลองครั้งนี้จึงต้องยืมมือทีมงานเอ็กซ์เผิงมาช่วยเจรจากับเจ้าเสี่ยวพีให้
จากนั้นก็เริ่มต้นการเดินทาง และเมื่อหน้าจอระบุว่าระบบพร้อมทำงาน ก็กดก้านสวิทช์ด้านขวาของรถลง 2 ครั้ง ระบบก็พร้อมที่จะควบคุมารถด้วยตัวเอง ส่วนความเร็วเราสามารถเลือกได้ด้วยการเลื่อนปุ่มด้านซ้ายบนพวงมาลัยขึ้นลง เลือกระดับความเร็วสูงสุดได้เอง
ซึ่งในเขตเมืองของที่นี่ จำกัดความเร็ว หรือ สปีด ลิมิต อยู่ที่ 100 กม./ชม. ซึ่งสูงทีเดียว สำหรับพื้นที่เป็นเขตเมือง
จากนั้นเราสามารถปล่อยการควบคุมทุกอย่างได้ ทั้งมือจากพวงมาลัย เท้าจากแป้นเหยียบต่างๆ ปล่อยให้รถขับไปด้วยตัวของมันเอง แต่ระบบนี้ก็ป้องกันการผิดพลาด คือ กำหนดให้ผู้ขับจะต้องมีสมาธิกับเส้นทาง ต้องมองทางเหมือนขับรถเอง แต่ก็สามารถหันซ้ายหันขวา ได้บ้างแบบชั่วครั้งชั่วครู่ เหมือนเราขับรถปกติทั่วไป
เพราะรถนั้นมีกล้องติดที่อยู่เสา A เพื่อตรวจจับใบหน้าและตาผู้ขับขี่ หากพบว่าคนขับไม่สนใจเส้นทางเลย ระบบจะยกเลิก แต่ก็จะเตือนให้ผู้ขับรู้ตัวก่อนล่วงหน้า เพื่อเตรียมตัวเข้าควบคุมรถด้วยตัวเอง
รวมถึงบางช่วงที่ระบบไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งระบบจะรู้ล่วงหน้า ก็จะเตือนผู้ขับล่วงหน้าให้เตรียมพร้อม
ซึ่งภาพรวมของการลองใช้งาน ระบบนี้มีความแม่นยำสูง และทำงานได้ราบรื่นหรือจะเรียกสั้นๆ ว่าเนียนครับ
รถสามารถควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางได้แม่นยำ รักษาระยะห่างจากคันหน้าได้ดี รวมถึงจัดการกับสิ่งกีดขวางอื่นๆ อย่างเช่น ช่วงที่ผมขับก็มีจักรยานอยู่ด้านหน้า แม้จะอยู่ชิดขอบทาง รถก็ชะลอความเร็วให้
และเมื่อต้องการเปลี่ยนช่องทาง ก็แค่เปิดไฟเลี้ยว ระบบจะตรวจสอบเลนที่ต้องการจะไป ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังว่ามีรถหรืออะไรที่กำลังเคลื่อนที่มาจากด้านหลังหรือไม่ ความเร็วเท่าไร ถ้าทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยก็จะเปลี่ยนเลนให้ทันที
เช่นเดียวกับการแซง แค่เปิดไฟเลี้ยว ระบบจะตรวจสอบทุกอย่าง ถ้าปลอดภัย ก็จะแซงให้ทันที
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างที่ถือเป็นการละเอียดของเอ็กซ์เผิงคือ การแซงแบบคร่อมเส้นแบ่งถนน เหมือนกับการขับของคนเรายังไงยังงั้น คือ รถออกไปรอจังหวะก่อน ในขณะที่อาจจะม่ีบางอย่างไม่พร้อมก็คร่อมๆ ไว้ชั่วครู่ จากนั้นเมื่อพร้อมก็ค่อยออกแบบเต็มคัน
อีกสิ่งหนึ่งคือ ในช่วงทางโค้ง ถ้าถนนว่าง รถก็จะไปด้วยความเร็วที่ตั้งไว้ แต่ถ้าจังหวะนั้นมีรถอยู่อีกเลนหนึ่ง ระบบจะชะความเร็วลง ประมาณว่าเผื่อเอาไว้หากรถคันนั้นจะกินเลนเข้ามา เรียกว่า เอ็กซ์เผิงนั้นนำข้อมูลการตัดสินใจของคนเข้าไปพัฒนาระบบไม่น้อยทีเดียว
ส่วนที่ผมบอกว่าเนียน ก็คือ การควบคุมรถ เช่น การคุมอยู่ให้อยู่ระหว่างกลางของเส้นทางแบ่งจราจร จังหวะเลี้ยว หรือว่า จังหวะเบรก ที่ทำได้นุ่มนวลเหมือนกับขับด้วยคนที่ขับรถดีๆ ไม่มีจังหวะเลี้ยวแบบกระตุกๆ เหมือนคนเหม่อหรือไม่ได้มองทางก่อน พอเงยหน้ามาเจอโค้งก็จะหักพวงมาลัยแบบกระตุกหรือกระชากกระชาก
รวมถึงการเบรกที่ไม่มีอาการเบรกแบบเงอะๆ งะๆ หรืออาการเติมคันเร่งแบบไม่เกรงใจผู้โดยสารก็ไม่มีเช่นกัน
โดยรวมสำหรับ XNGP ถือว่าสอบผ่านครับ ระบบทำงานได้แม่นยำ เนียน ลื่นไหล และตลอดเส้นทางของการลอง ผมว่าเกือบๆ 90% รถขับด้วยตัวเอง โดยที่ผมเข้าควบคุมด้วยตัวเองแค่เล็กน้อยเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม ต่อให้ระบบดีแค่ไหน และสภาพแวดล้อมจะเพียบพร้อมแค่ไหน แต่ต้องเข้าใจว่านั่นเป็นตัวช่วยที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน แต่อยู่ภายในการควบคุมของเราครับ
แม้จะไม่ได้ลองขับเพื่อดูสมรรถนะมากนัก แต่ก็พอมีบางจังหวะที่พอให้ได้รับรู้อารมณ์ เช่น จังหวะเติมคันเร่ง เพิ่มความเร็ว รับรู้ได้ถึงความกระฉับกระเฉงคร้ับ ไม่ต้องกดแรงนัก แค่เพิ่มน้ำหนักเบาๆ เท่านั้น รถก็พุ่งไปข้างหน้าได้รวดเร็ว
ช่วงล่างก็ดูดีครับ การทรงตัวของรถดี รวมถึงจังหวะในโค้งที่รถสู้กับแรงหนีศุนย์ ยังทรงตัวได้ดี แต่น้ำหนักพวงมาลัยดูจะเบาไปหน่อย แม้จะเลือกแบบสปอร์ตแล้ว และมีระยะฟรีเล็กน้อย
แต่เอาเป็นว่าเรื่องพวกนี้ เดี๋ยวรอการขับยาวๆ หลังจากเปิดตัวในไทยเรียบร้อยแล้วอีกทีครับ