อีซูซุ ปรับโฉม MU-X ใหม่ เพิ่มรหัส RS ออปชั่นเต็ม พวงมาลัยไฟฟ้า-5 ระบบใหม่ ADAS

การปรับโฉมอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ (MU-X) ครั้งนี้ สวยหรือไม่สวยก็อยู่ที่ความชอบของแต่ละคน แต่ที่แน่ๆ คือ เป็นการปรับที่เห็นว่าปรับชัดเจน และส่วนตัวผมว่าดูดีขึ้น ลงตัวมากขึ้นครับ โดย MU-X มาพร้อมกับคำที่ใช้ในการสื่อสารใหม่ นั่นคือ

“THE NEXT PEAK” จุดสูงสุดใหม่...กับชีวิตที่เหนือกว่า ซึ่งจะเป็นจุดสูงสุดใหม่หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าจากนี้ไปแล้วแล้วหละครับ

การรับโฉมครั้งนี้ยังมีสีใหม่ให้เลือกคือ สีเทา ไอเกอร์ โอเพค (EIGER GRAY Opaque) ซึ่งน่าจะมาจากชื่อของภูเขาไอเกอร์ ในเทือกเขาแอลป์ ที่รัฐแบร์น สวิตเซอร์แลนด์ มีความสูง 3,967 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

มาดูกันที่รุ่นย่อยใหม่ RS ซึ่งปกติ เมื่อพูดถึงรหัสนี้ หลายคนจะนึกถึงเรื่องของความสปอร์ตและสีแดง แต่อีซูซุเลือกใช้สีเขียว Lime Green พร้อมกับเหตุผลว่ายุคนี้จะสปอร์ตก็ต้องรักษ์โลกด้วย ดังนั้นจึงสื่อความหมายด้วยสีนี้แทน 

และหากจะโยงเรื่องของสิ่งแวดล้อมก็คือ เครื่องยนต์ของรุ่นปรับโฉมเป็นเครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 5 เรียบร้อยแล้ว จากการปรับจูนในหลายๆ ส่วน 

มาดูกันว่า ISUZU MU-X RS (มิว-เอ็กซ์ อาร์เอส) มีอะไรน่าสนใจบ้าง 

เริ่มจากด้านหน้า กระจังหน้าแบบ BLACK DIAMOND GRILLE  ที่ออกแบบให้มีมุมมองที่เปลี่ยนไปมาเมื่อมีแสงตกตกระทบเหมือนกับเพชร พร้อมติดตั้งสัญลักษณ์ RS ด้วยวัสดุ Black Chrome ซึ่งกระจังหน้า RS แตกต่างจากรุ่นย่อยอื่นทั้ง Ultimate, Elegant และ Active ในหลายๆ ส่วน

ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่แบบ  Dynamic Blade เรียวขึ้น สปอร์ตขึ้น  และชุดไฟท้ายมีเส้น Embrace Line เชื่อมต่อ 2 ฝั่งซ้ายขวาเข้าด้วยกัน 

ล้ออัลลอยใหม่ RS Design ขนาด 20 นิ้ว เพิ่มความสปอร์ตด้วยโป่งล้อสีดำ ซึ่งรุ่นอื่นไม่มี 

กันชนหน้าใหม่! แบบ Fighter Jet ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบ อย่าง F22 และ F35เพิ่มความดุดัน และมี  Air Curtain เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์

ภายในห้องโดยสาร RS จะต่างจากรุ่นอื่นคือ เน้นสีดำเป็นหลักรวมถึงผ้าบุหลังคา และตกแต่งด้วย Matte Silver Garnish ในหลายๆ ส่วน เช่นที่คอนโซลหน้า 

เบาะนั่งเน้นให้มีอารมณ์สปอร์ต รายละเอียดแพทเทิร์นของเบาะเพิ่มขึ้น และคงสัญลักษณ์ RS ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรที่พนักพิงศีรษะ หรือ การใช้สี Lime Green ในหลายๆ ส่วนเช่น ด้ายเย็บเบาะ หรือ คอนโซลหน้า แผงประตู 

เพิ่มบรรยากาศภายในด้วย Ambient Light แต่ไม่ใช่สีเขียว เป็นสีแดงทั้งที่แผงประตูละคอนโซลหน้า ขณะที่รุ่นอื่นจะมีเฉพาะแผงประตูเท่านั้น 

ทีนี้มาดูกันว่า RS มีออปชั่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง แบ่งเป็นของใหม่ กับสิ่งที่มีอยู่แล้วใน MU-X

ออปชั่นใหม่ 

• กล้องรอบคัน 360 องศา Surround View Camera และมุมมองใต้ท้องรถ ซึ่งมีเฉพาะ รุ่น RS ซึ่งจะมีประโยชน์มากสำหรับการขับขี่นอกถนน หรือ ออฟโรด โดยเป็นการจำลองภาพ ไม่มีกล้องใต้ท้องรถแต่อย่างใด หลักการทำงานก็คือ เมื่อกล้องจับภาพวัตถุได้แล้ว จากกนั้นก็ประมวลผลความเร็วรถ ทิศทางของรถแล้วแสดงออกมาเป็นภาพให้ผู้ขับเห็นว่าในเวลานั้นๆ วัตถุที่ว่าอยู่ในตำแหน่งใดใต้รถ 
• พวงมาลัย ที่คราวนี้  MU-X พร้อมแล้วสำหรับพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการลดแรงสะเทือนจากพื้นถนน หรือ ปรับน้ำหนักตามความเร็วของรถ และที่สำคัญคือ สามารถเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานให้กับ ADAS ได้มากขึ้น จากที่เดิมพวงมาลัยไฮดรอลิคไม่สามารถรองรับการทำงานได้
• Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับการเชื่อมต่อไร้สายได้ทั้ง Android Auto  และ Apple CarPlay พร้อม Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับ Integrated MID แสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance System) การแสดงสถานะของระบบขับเคลื่อน ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ฯลฯ

ทีนี้มาดูกันที่ ADAS ซึ่งทำงานโดยอาศัยข้อมูลจาก กล้องหน้าแบบคู่ เรดาร์ 2 จุด และ เซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน

โดยระบบที่เพิ่มเข้ามาอีก 5 ระบบ ประกอบด้วย 

• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System)
• ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist)
• ELK ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency Lane Keeping) เช่น เมื่อจะเปลี่ยนช่องทางแล้วมีรถคันอื่นมาเลนที่ต้องการจะไป 
• ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระแบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อม LDW (Lane Departure Warning)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) พร้อม ระบบช่วยเตือนขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

ส่วนระบบที่มีอยู่แล้ว ก็คือ 

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and GO ACC
• ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน AEB (Autonomous Emergency Braking)
• ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitoring)
• ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอด (Parking Aid System)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking)
• ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam)
• ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation)
• ระบบเบรกอัตโนมัติหลังเกิดอุบัติเหตุ MCB (Multi-Collision Brake)
• ระบบช่วยตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)

ส่วนฟังก์ชั่นเกี่ยวกับความปลอดภัยอื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว เช่น 

• ระบบ เบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS (Brake Override System)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว (TCS)
• ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) 
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
• ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย (TSC) 

ส่วนเบาะนั่ง วัสดุ Cool Max ลดการสะสมความร้อน  เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะนั่งตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของ เข้าออกที่นั่งตอน 3 แบบ One Touch ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection

ทีนี้มาดูรายละอียดของรุ่นย่อยอื่นๆ ของ MU-X ว่ามีจุดเด่นอะไรบ้าง 

รุ่น ULTIMATE

กระจังหน้าใหม่ Dynamic Grille วัสดุสีดำ Titanium Carbide ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่! DYNAMIC BLADE พร้อม EMBRACE LINE

ล้ออัลลอยใหม่ Dynamic Turbine ขนาด 20 นิ้ว สี Magnetite II ก้านล้อแบบ 3D

ภายในโทนสี Truffle Brown - Black  เบาะ 7 ที่นั่ง ใหม่ สี Truffle Brown วัสดุ Cool Max

คอนโซลใหม่ สี Truffle Brown และ วัสดุ Piano Black - Satin Silver เสริมบรรยากาศด้วย Ambient Light สีขาว 

พวงมาลัยไฟฟ้า Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับการเชื่อมต่อไร้สายได้ทั้งAndroid Auto และApple CarPlay พร้อม Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับ Integrated MID

Wireless Android Auto & Wireless Apple CarPlay พร้อม Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับ Integrated MID แสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชัน เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ

Smart Tailgate with Step Sensor ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection

ที่นั่งโดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง เบาะนั่งตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับราบ เข้าออกที่นั่งตอน 3 แบบ One Touch

ระบบความปลอดภัย ADAS และระบบความปลอดภัยอื่นๆ เหมือนกับ RS
 

รุ่น ELEGANT

กระจังหน้าดีไซน์ใหม่! Dynamic Grille วัสดุสีดำ Titanium Carbide ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่! DYNAMIC BLADE พร้อมเส้น EMBRACE LINE ล้ออัลลอยใหม่ ขนาด 18 นิ้ว

ภายใน ใช้ทนสี Truffle Brown - Black เบาะ 7 ที่นั่ง ใหม่สี Truffle Brown วัสดุ Cool Max

คอนโซลใหม่ สี Truffle Brown พร้อม วัสดุ Piano Black - Satin Silver

Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย

ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection

เบาะปรับไฟฟ้าฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะนั่งตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับได้ราบเข้าออกที่นั่งตอน 3 แบบ One Touch

รุ่น ACTIVE

กระจังหน้า Dynamic Grill วัสดุ Dark Gray ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่  DYNAMIC BLADE พร้อมเส้น EMBRACE LINE ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารหน้าจอสัมผัสใหม่ แต่ขนาดเล็กกว่ารุ่นอื่นคือ  8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay เบาะผ้าสีดำ 7 ที่นั่ง

สำหรับช่วงล่างทุกรุ่นย่อย ด้านหน้าแเป็นแบบ อิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone ด้านหลัง 5-Link Suspension ส่วนการวางเครื่องยนต์วางให้เยื้องหลังเพลาหน้าแบบ Semi-Midship เพื่อกระจายน้ำหนักให้สมดุลยิ่งขึ้น 

ส่วนเครื่องยนต์ เป็นตัวเดิมซึ่งปรับปรุงให้ผ่านมาตรฐานยูโร 5 (Euro 5) ไปแล้วก่อนหน้านี้ มีให้เลือก 2 ขนาดเช่นเดิมคือ 

• เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร 
• เครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power กำลังสูงสุด 150 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร 

โดย RS ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ AWD มีเครื่องยนต์เฉพาะ 3.0 เท่านั้น 

Ultimate และ Elegant มีให้เลือกทั้ง 3.0 และ 1.9

Active มีเฉพาะเครื่องยนต์ 1.9

ทุกรุ่นมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ส่วนใครที่อยากได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มี RS ให้คบหาเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น 

โดยราคาจำหน่ายของแต่ละรุ่นย่อย ประกอบด้วย 

• 4x2 1.9 Active A/T  1,184,000 บาท 
• 4x2 1.9 Elegant A/T  1,419,000 บาท
• 4x2 3.0 Elegant A/T  1,464,000 บาท
• 4x2 1.9 Ultimate A/T  1,544,000 บาท
• 4x2 3.0 Ultimate A/T 1,589,000 บาท
• 4x2 3.0 RS A/T 1,659,000 บาท
• 4x4 3.0 RS A/T  1,759,000 บาท