ฮอนด้า เปิดจองสิทธิ์ ซีวิค ปรับโฉม คาดราคา 1.03-1.23 ล้าน
ฮอนด้า ปรับโฉม ซีวิค พร้อมเปิดให้ลุกค้าจองสิทธิ์ถึง 22 ส.ค. 2567 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการงาน Big Motor Sale 2024
การเปิดให้ลูกค้าจองสิทธิ์ฮอนด้า ซีวิค ปรับโฉม ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 22 สิงหาคม 2567 ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ฮอนด้ามีข้อเสนอพิเศษคือ คือ บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 (วันประกาศราคา) - 31 ตุลาคม 2567
นอกจากนี้ฮอนด้ายังเตรียมจัดแคมเปญ สำหรับลูกค้าและครอบครัวที่เป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า รวมถึงแคมเปญ “Honda Happy Trade-in” หลังจากนี้อีกด้วย
โดยจะมีจำหน่ายรวม รุ่นย่อย ประกอบด้วย
- e:HEV RS คาดราคาประมาณ 1.23 ล้านบาท
- e:HEV EL+ คาดราคาประมาณ 1.09 ล้านบาท
- EL คาดราคาประมาณ 1,03 ล้านบาท
ทั้งนี้ปัจจุบัน ฮอนด้า ซีวิค มีจำหน่าย 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
- EL ราคา 969,000 บาท
- EL+ ราคา 1,009,900 บาท
- e:HEV EL+ ราคา 1,129,000 บาท
- e:HEV RS ราคา 1,259,000 บาท
ทั้งนี้การปรับโฉม ซีวิค เจเนอเรชั่น 11 ฮอนด้า พิ่มมุมมองให้มีอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น เช่น
- กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต
- ไฟท้าย LED รมดำ
- รุ่น e:HEV RS ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Matte Black ออกแบบใหม่ สไตล์สปอร์ต
- รุ่น EL+ เพิ่มขนาดล้ออัลลอยเป็น 17 นิ้ว
- รุ่น EL+ และ e:HEV EL+ เพิ่มสีใหม่ น้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก)
ส่วนภายในห้องโดยสาร ปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมเช่น
- รุ่น e:HEV RS เบาะที่นั่งลายใหม่ Prime smooth วัสดุเบาะหนังกลับและหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และตกแต่งแผงคอนโซลหน้า แผงประตูด้านข้างสีแดงสไตล์สปอร์ต
- รุ่น EL+ และ e:HEV EL+ วัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ
- ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง ในทุกรุ่นย่อย
- เบาะที่นั่งด้านหลัง แยกพับแบบ 60:40 ในทุกรุ่นย่อย
ด้านเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ และความปลอดภัยมีส่วนที่ปรับเปลี่ยนประกอบด้วย
- เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด ในรุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS
- โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) เพิ่มเติมในรุ่น e:HEV
- ด้านความสะดวกสบาย และระบบความบันเทิง ประกอบด้วย
- ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง ในรุ่น e:HEV RS)
- Google built-in แอปและบริการของ Google ติดตั้งมาในตัว ทุกรุ่นย่อย
- ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ช่อง 2 ช่องด้านหน้า และ 2 ช่องด้านหลัง ในทุกรุ่นย่อย
ส่วนจุดเด่นอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วใน ฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชั่นที่ 11 เช่น ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ในทุกรุ่นย่อย
Honda CONNECT เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ในทุกรุ่นย่อย
(ภาพประกอบทั้งหมดเป็นรุ่น e:HEV RS)
ด้านขุมพลังยังคงมี 2 ทางเลือกเช่นเดิม ทั้ง ฟูลไฮบริด (e:HEV) เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว และรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบ/นาที
ส่วนสีตัวถังรวมสีใหม่ มีให้เลือกรวม 6 สี ได้แก่
- สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น EL+ และ e:HEV EL+
- สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
- สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
- สีดำคริสตัล (มุก)
- สีขาวแพลทินัม (มุก)