เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวเอส เอสยูวี (EQS SUV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เป็นรุ่นที่ 2 ที่จะประกอบในประเทศ (CKD) ที่โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ สมุทรปราการ รถรุ่นนี้น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ขับขี่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง ต้องไปลองกันครับ

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นอีกแบรนด์รถพรีเมียมที่สนใจทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี ในประเทศไทย และยังเป็นแบรนด์เดียวในกลุ่มนี้ที่ประกอบ อีวี ในประเทศ หรือ CKD ซึ่งก็คือรุ่นแรกที่เปิดตัว นั่นคือ EQS ซึ่งเป็นรถที่เรียกได้ว่าเป็น “แฟลกชิป โมเดล” ของฝั่ง อีวี 

อาจจะเป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่า ขนาดตัวท็อปสุด เมืองไทยยังประกอบได้ ดังนั้นรุ่นอื่นๆ หากจะประกอบบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร รอแต่เพียงความเหมาะสมของตลาดและเวลาเท่านั้น 

หลังจากเปิดตัว EQS เป็นรุ่นแรกในไทย ก่อนจะเปิดสายประกอบในประเทศ (CKD) หลังจากนั้น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ก็เสริมตลาดรุ่นอื่นๆ ตามมา คือ EQB จากนั้นตามด้วยอีก 2 รุ่น คือ EQE SUV และ EQE ซาลูน แต่เป็นตัวแรงคือ เอเอ็มจี 

ล่าสุด วันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เปิดตัวอีก 2 รุ่น คือ  EQE 00และ EQS SUV 

EQS SUV เปิดตัวในรุ่น  “EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic” รถอีวี เอสยูวีแบบ 7 ที่นั่ง คันเดียวในตลาด และเป็นการประกอบในประเทศเช่นเดียวกับ EQS 

ขนาดตัวถังดูไม่ใหญ่มากนัก คล้ายกับตอนเปิดตัว EQS ใหม่ๆ ที่เทียบกับ S Class ก็เล็กกว่า แต่ที่น่าสนใจคือ แม้ตัวถังภายนอกของ EQS SUV จะเล็กกว่า GLE เล็กน้อยด้วยซ้ำไป แต่ด้วยความที่เป็นอีวี การออกแบบแพลทฟอร์มที่ยืดล้อทั้ง 4 ออกไปได้มาก ทำให้ระยะฐานล้อหรือ wheel base มันไม่ใช่แค่ยาวกว่า GLE แต่ยาวกว่า GLS ถึง 10.2 ซม. ทำให้มันมีห้องโดยสารที่กว้างขวางทีเดียว 

EQS SUV มาพร้อมมอเตอร์ 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ และยังมีโหมด ออฟโรดมาให้ด้วย ทั้งระบบการทำงานต่างๆ รวมถึงหน้าจอที่แสดงข้อมูลที่เอื้อต่อการใช้งาน เช่น ความเอียง ความชัน หรือว่าระบบจำลองภาพใต้ท้องรถที่เรียกว่า transparent bonnet เป็นต้น 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic เป็นรถแบบ 7 ที่นั่ง เบาะนั่งคู่หน้า แถวกลาง นั่งสบาย กว้างขวางมีพื้นที่วางเท้า พื้นที่เข่าเหลือๆ เบาะแถวที่ 3 นั่งได้ ความกว้างของเบาะถือว่าดี นั่งสบาย แต่เข่าก็ยังชันๆ อยู่บ้าง เดินทางไกลๆ คงต้องแวะยืดแข้งยืดขา หรือสลับที่กันบ้าง 

ส่วนการเข้าออกไม่ยากนัก แม้ต้องมุดเล็กน้อย โดยการปรับเลื่อนเบาะแถว 2 ที่ปรับด้วยไฟฟ้า และมีปุ่มควบคุมที่เบาะแถว 2 ทำให้ผู้นั่งแถว 3 สามารถปรับได้ด้วยตัวเอง

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

และเบาะแถว 3 สามารถพับเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้ โดยที่ด้านท้ายรถมีปุ่มควบคุมให้กดเพื่อพับเบาะด้วยไฟฟ้า แต่ถ้าจะยกตั้งขึ้นเพื่อนั่ง ใช้วิธีการปรับด้วยมือครับ 

กลับมาที่เบาะคู่หน้า มีฟังก์ชั่นนวดหลายระบบให้เลือก ทั้งนวดด้วยคลื่่น นวดกล้ามเนื้อเชิงลึก ไปจนถึงการประคบร้อน 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

รถมีทั้งหมด 7 จอ เริ่มจาก HUD ที่แสดงข้อมูลต่างๆ ที่กระจกบังลมหน้า จอไฮเปอร์สกรีน แบบ zero-layer ยาวต่อเนื่อง 141 ซม.ที่คอนโซลหน้าซึ่งฝังหน้าจอ OLED  3 จอ คือฝั่งผู้ขับขี่ จอกลาง และจอฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า 

ซีโร่ เลเยอร์ คือฟังก์ชั่นบางอย่างที่จำเป็นและใช้งานบ่อย ไม่ได้ถูกฝังอยู่ในจอแบบจะใช้แต่ละครั้งต้องกดๆ จิ้มๆ เข้าไปหลายขั้นตอน

อีก 2 จอสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 โดยติดตั้งไว้ด้านหลังเบาะคู่หน้า พร้อมกับหูฟังแบบไร้สาย

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

 

ส่วนออปชั่นเด่นๆ ที่ให้มาเช่น AMG Bodystyling ไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT ปรับไฟสูงอัตโนมัติ ส่องไกล 650 เมตร ล้ออัลลอย AMG multi-spoke lightalloy wheels aerodynamically ขนาด 22 นิ้ว 

ระบบฟอกอากาศแบบENERGIZING AIR CONTROL Plus แอร์อัตโนมัติ THERMOTRONIC 4 โซน กล้องรอบคัน 360 องศา ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester 3D surround sound system มาพร้อมลำโพง 15 ดอก และเทคโนโลยี Dolby Atmos ที่ถ่ายทอดเสียงได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา และดูเป็นธรรมชาติ 

ด้านระบบความปลอดภัยเช่น ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร ระบบช่วยจำกัดความเร็วแบบแอ็คทีฟ

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

และมีระบบล้อหลังช่วยเลี้ยว 4.5 องศา เพื่อเพิ่มความคล่องตัวที่ความเร็วช้า และการยึดเกาะถนนที่ความเร็วสูง และมีออปชั่นให้เพิ่มองศาการเลี้ยวได้อีกด้วยครับ

สำหรับการลองขับครั้งนี้ เป็นการขับบนทางเรียบทั่วไป แต่อาจจะมีบางบางจุดที่ออกไปนอกถนนในช่วงฝนชุกที่ล้อต้องลุยโคลนบ้างเล็กน้อย 

ส่วนโหมดการขับอีก 4  โหมดประกอบด้วย ECO, COMFORT, SPORT และ INDIVIDUAL

และการลองขับครั้งนี้ผมลองอีกรุ่นหนึ่ง คือ รหัส 500 ซึ่งเชิงเทคนิคต่างกันบางส่วน เช่น อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่่ต่างกันเล็กน้อยคือ 5.2 กับ 6.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 210 กม. เท่ากัน รวมถึงขนาดแบตเตอรี และระยะทางใช้งานสูงสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่ทำได้เท่ากัน 

จุดเด่นในการลองขับเส้นทาง กรุงเทพฯ-กรุงเก่า คือ ความคล่องแคล่วของรถคันใหญ่ครับ จะด้วยการเซ็ท หรือ การตอบสนองของมอเตอร์ก็แล้วแต่ ทำให้มันไม่รู้สึกว่าอุ้ยอ้าย สามารถขับขี่โดยให้อารมณ์สปอร์ตได้ดี โดยเฉพาะจังหวะการเร่งแซง หรือ การไล่ความเร็ว 

การจัดการกับโค้งก็ทำได้ดีเช่นกัน แม้จะเริ่มรู้สึกถึงน้ำหนักตัวรถเมื่อเข้าไปในโค้งแบบค่อนข้างเร็วแบบผู้ขับหรือผู้โดยสารรับรู้ได้ถึงแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง แต่อย่างไรก็ตามช่วงล่าง และระบบต่างๆ ก็ยังจัดการได้ดี รถยังอยู่ในร่องในรอย ไม่มีปัญหาในการขับขี่แต่อย่างใด

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

เช่นเดียวกับจังหวะเปลี่ยนช่องทางไปมา เมื่อต้องแซงรถคันอื่นๆ ที่กระจายอยู่ทุกเลน ก็ทำได้แบบมั่นใจเช่นกัน 

เป็นเอสยูวี คันใหญ่ที่จัดการกับทางเรียบได้ดี ซึ่งเรื่องพวกนี้บางทีก็มองไม่เห็นด้วยตา ต้องอาศัยความรู้สึก โดยเฉพาะความรู้สึกเมื่อขับขี่แทน

และสิ่งที่ทำงานได้ดีไม่แพ้กัน คือ ระบบความปลอดภัย เพราะเมื่อจำเป็นต้องขับแบบนี้ หาจังหวะแซงซ้ายทีขวาที (ไม่ใช้ไหล่ทางนะครับ) หลายครั้งที่ระบบพรีเซฟต้องออกโรงเตรียมการด้วยการดึงเข็มขัดนิรภัยให้กระชับเอาไว้ก่อน

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

ช่วงล่างถุงลม (AIRMATIC) ให้ความนุ่มนวล แต่แน่นอนถ้าขับคนเดียวแบบนี้ อาจจะนุ่มเกินไปในบางช่วงบางพื้นที่ เช่น คอสะพาน หรือจังหวะเข้าออกโค้งด้วยความเร็วค่อนข้างสูงที่รถมีอาการโยนตัว แต่ผมจินตนาการว่าถ้ามีคนนั่งหลายๆ คน อาการเหล่านี้จะลดลงและสิ่งที่ตามมาคือความนุ่มสบาย เพราะแม้แต่ขับคนเดียวในเส้นทางอย่างถนนหมายเลข 9 ที่หลายช่วงยังอยู่ในช่วงการสร้าง ซ่อม ทาง หรือบางช่วงที่ขรุขระโดยธรรมชาติ รถรูดผ่านได้สบาย นั่งสบายๆ 

ส่วนถ้าช่วงไหนอยากขับแบบสปอร์ต หรือ เส้นทางที่มีโค้งมากๆ ก็เข้าไปเลือกปรับระบบช่วงเป็น Sport ก็จะช่วยได้ครับ จังหวะขึ้นลงสะพานหรือการใช้ความเร็วในทางโค้ง ลดการโยนตัวลงไป 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

ซึ่งช่วงล่างถุงลม ทำให้สามารถเลือกปรับเพิ่มความสูงต่ำได้ โดยปกติความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 178 ซม.สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ 25 ซม. เช่น เมื่อขับขี่ออฟโรด และเตี้ยลง 10 ซม. เมื่อขับขี่ที่ความเร็วระดับ 100 กม./ชม. ขึ้นไป เพื่อให้ได้หลักอากาศพลศาสตร์ที่ดี 

และเมื่อการปรับความสูงขึ้น 25 ซม. ถ้าหากขับไปที่ความเร็วสูงกว่า 70 ซม. ระดับความสูงจะกลับลงมาที่ระดับปกติ และเมื่อความเร็วลงต่ำกว่า 50 กม./ชม. ก็จะกลับมาที่ความสูงเพิ่มขึ้น 25 ซม. โดยอัตโนมัติ 

พวงมาลัยตามสไตล์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ แม่นยำ น้ำหนักดี ช่วยได้มากในการควบคุมรถ จะขับช้าๆ หรือว่าช่วงความเร็วสูงก็คุมได้สบายๆ ผ่อนคลาย และก็สามารถเลือกปรับได้ด้วยตัวเอง อยากได้น้ำหนักเพิ่มขึ้นก็ปรับไปที่รูปแบบ Sport

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

การชาร์จคืนพลังงานก็ปรับได้ 3 ระดับ โดยแป้นควบคุมหลังพวงมาลัย จะเอาแบบไม่หน่วงเลย ถอนคันเร่งรถก็ไหลไปตามแรงเฉื่อย หรือแบบกลาง ถอนคันเร่งแล้วมีแรงหน่วงเหมือนกับ เอนจิ้นเบรกของรถที่ใช้เครื่องยนต์ ซึ่งระดับนี้ผมว่าเซ็ทมาได้เป็นธรรมชาติดี และใครที่ขับรถเครื่องยนต์ก็จะรู้สึกกลมกลืน ไม่ต้องปรับตัวอะไร

เมอร์เซเดส-เบนซ์ EQS SUV นุ่มนิด แต่สปอร์ตได้ ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

ส่วนระบบหน่วงแรงสุด ก็แรงจริงขับแทบจะขับเหมือนกับเป็น one paddle ได้เลย ซึ่งผมว่าแบบนี้ได้ไปขับในเส้นทางภูเขาน่าจะสนุกไม่น้อยครับ ส่วนการขับขี่ทั่วไป อย่างที่ผมลองครั้งนี้ เป็นรถที่ขับได้สบายๆ ไม่เหนื่อย และสนุกกับสมรรถนะของรถครับ