ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง เพิ่มลงทุน โรงงานสีฝุ่น- รถ EVดันรายได้ 1.1 หมื่นล้าน
ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง ประกาศแผนลงทุนเพิ่ม 650 ล้าน ทั้งกลุ่มธุรกิจ "สีและชิ้นส่วนยานต์" และ "ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ หันเน้นตลาด พรีเมียม อีวี รองรับกระแสความต้องการผู้บริโภค
ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน กลุ่มบริษัทในเครือ ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง (TOAVH Group) กล่าวว่า ปี 2567 กลุ่มบริษัทขยายการลงทุนในธุรกิจสีเขียวของกลุ่มบริษัทในเครือ ด้วยงบประมาณ 650 ล้านบาท ประกอบด้วย
กลุ่มธุรกิจสีอุตสาหกรรมและชิ้นส่วนยานยนต์ ขยายการลงทุนในส่วนของ ทีโอเอ เพอฟอร์มมานซ์ โค๊ทติ้ง คอร์ปอเรชั่น (TOAPC) โดยเปิดโรงงานผลิตสีฝุ่น (Powder Coating) แห่งใหม่ ที่นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย (สุวรรณภูมิ) พื้นที่ 10 ไร่ รวมมูลค่าการลงทุน 300 ล้านบาท
โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มต้นการผลิตได้อย่างเป็นทางการภายในปี 2569 โดยมีกำลังการผลิตเบื้องต้น 3,000 ตัน/ปี
นอกจากนี้ยังเพิ่มการลงทุนอีก 130 ล้านบาทในโรงงานปัจจุบันที่สมุทรปราการ โดยติดตั้งเครื่องจักรใหม่เทคโนโลยีใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสีฝุ่น ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ตัน/ปี
การลงทุนทั้ง 2 ส่วนจะส่งผลให้มีกำลังผลิตรวม 9,000 ตัน/ปี นับเป็นผู้ผลิตสีฝุ่นที่มีกำลังผลิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย
“ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซี่งสีฝุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยลดสารระเหย และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์สีน้ำมัน และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย ทำให้ความต้องการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ปีละ 10% คิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านบาท หรือประมาณ 30,000 ตัน/ปี”
กลุ่มธุรกิจผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลัก จะเน้นขยายธุรกิจสู่ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) มากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับแบรนด์ อีวี ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยขณะนี้ TOAVH เป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์อีวีจีน 5 แบรนด์ ได้แก่ ZEEKR, DEEPAL, MG, OMODA&JAECOO, AION ซึ่งการขยายธุรกิจในครั้งนี้ จะสร้างความแข็งแกร่งและมั่นคงอย่างยั่งยืนให้แก่ธุรกิจในกลุ่มผู้แทนจำหน่ายรถยนต์
โดยได้เพิ่มการลงทุน 220 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างโชว์รูม-ศูนย์บริการแห่งใหม่ของ ZEEKR บนถนนราชพฤกษ์ และปรับโฉมโชว์รูม-ศูนย์บริการ จำนวน 6 แห่ง รวมทั้งโชว์รูม MG Evolution เพื่อรองรับการขยายธุรกิจสู่แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้คาดการณ์ว่า ปีนี้ ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ จะมียอดขายสะสมโดยรวมเพิ่มขึ้น 10% รายได้เติบโต 7%
ทั้งนี้ปัจจุบันตลาด อีวี ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมามียอดจดทะเบียนรวม 69,047 คัน เติบโต 17.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ขณะที่ยอดจดทะเบียนสะสมโดยรวม ถึงเดือน ส.ค. อยู่ที่ 200,109 คัน
"ตัวเลขดังกล่าว สะท้อนถึงความสนใจของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีนวัตกรรม เทคโนโลยี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ตระหนักและมีความรับผิดชอบสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น”
ณัฏฐวุฒิ กล่าวว่า การขยายการลงทุนธุรกิจสีเขียวในครั้งนี้ จะส่งผลทำให้ธุรกิจในเครือ TOAVH มีผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับรองรับความต้องการของตลาดโดยรวมมากขึ้น และจะสร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิอย่างมาก โดยปีนี้ ตั้งเป้ารายได้ 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2566
โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นของกลุ่มธุรกิจสีอุตสาหกรรมและชิ้นส่วนยานยนต์ 40% คิดเป็นมูลค่า 4,400 ล้านบาท, กลุ่มธุรกิจผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 50% เป็นมูลค่า 5,500 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ 10% มูลค่า 1,100 ล้านบาท