บัส อีวี ชาร์จผ่านแหนบ เร็ว 10 นาที โครงการร่วมมือ โตชิบา-ริงโกะ บัส
ที่ญี่ปุ่น โตชิบา กำลังร่วมมือกับพันธมิตร อีก 2 ราย คือ ริงโกะ บัส และไดรฟ์ อิเล็กโทร เดินหน้าผลักดันโครงการสาธิตรถบัสพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) โดยมีจุดเด่นคือการชาร์จเร็วพิเศษภายใน 10 นาที
โครงการความร่วมมือระหว่าง บริษัท โตชิบา คอร์ปอเรชั่น บริษัท คาวาซากิ สึรุมิ ริงโกะ บัส จำกัด (หรือ ริงโกะ บัส) และบริษัท ไดรฟ์ อิเล็กโทร เทคโนโลยี จำกัด (หรือ ไดรฟ์ อิเล็กโทร เทคโนโลยี) มีเป้าหมายเพื่อปฏิวัติวงการชาร์จ อีวี
ความร่วมมือของทั้ง 3 องค์กร จะศึกษาโครงการสาธิตนำร่อง เพื่อยืนยันประสิทธิภาพแบตเตอรี่ชนิดชาร์จเร็วพิเศษด้วย “แหนบรับไฟฟ้าหรือแพนโทกราฟ”
คาดว่าโครงการจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนพฤศจิกายน 2568 ภายหลังปรับปรุงรถบัสและติดตั้งระบบชาร์จด้วยแหนบรับไฟฟ้าในอู่จอดรถเสร็จสิ้น
ทั้งนี้รถบัสรุ่นดังกล่าวจะให้บริการวิ่งตามเส้นทางปกติบนถนนสาธารณะในเมืองคาวาซากิ ทางใต้ของกรุงโตเกียว
โครงการถือว่าเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นที่นำรถออกทดลองบนท้องถนนสาธารณะ โดยโครงการนี้จะช่วยสาธิตว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเดินรถบัสไฟฟ้าที่ชาร์จด้วยระบบแหนบรับไฟฟ้าเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ริงโกะ บัส จะเป็นผู้ให้บริการเดินรถ ส่วนไดรฟ์ อิเล็กโทร เทคโนโลยี จะเป็นผู้ผลิตระบบชาร์จด้วยแหนบรับไฟฟ้า และดัดแปลงรถบัสดีเซลให้เป็นรถไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ SCiB ชนิดชาร์จเร็วพิเศษของโตชิบา
โครงการนี้ยังเน้นทดสอบด้วยว่าแบตเตอรี่ SCiB ที่ใช้แล้วสามารถนำมาใช้ซ้ำได้หรือไม่ โดยจะนำแบตเตอรี่ใช้งานแล้วมาติดตั้งในระบบชาร์จด้วยแหนบรับไฟฟ้าและชาร์จไฟเพื่อลดการใช้พลังงานในช่วงที่มีความต้องการสูงสุด แล้วนำมาใช้จ่ายไฟให้กับแบตเตอรี่บนรถผ่านระบบแหนบรับไฟฟ้า
สำหรับสถานากรณ์ตลาดรถบัส อีวี แม้ว่ารัฐบาลจีนและกลุ่มยุโรปจะสนับสนุนรถบัสไฟฟ้าเพราะมองว่าเป็นการลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่ยอดขายทั่วโลกในปี 2566 กลับพบว่ามีขายเพียง 50,000 คัน ซึ่งคิดเป็นแค่ 3% ของยอดขายรถบัสทั้งหมดเท่านั้น
ทั้งนี้ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของรถบัส อีวี ได้แก่ ระยะเวลาการชาร์จที่ยาวนานและจำนวนสถานีชาร์จที่มีจำกัด
ส่วนอุปสรรคสำคัญ ได้แก่ การที่จะต้องจัดหาพื้นที่ชาร์จรถบัสขนาดใหญ่ และติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จจำนวนมาก ความท้าทายเหล่านี้มีความสำคัญยิ่งกรณีที่จะนำรถบัสไฟฟ้ามาใช้ในเขตเมืองที่มีประชากรหนาแน่นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีพื้นที่จำกัด
ดังนั้นโตชิบาจึงร่วมมือกับ ริงโกะ บัส และ ไดรฟ์ อิเล็กโทร เทคโนโลยี เพื่อนำขีดความสามารถของแต่ละบริษัทออกมาใช้ให้ประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมผลักดันโครงการสาธิตนี้ให้เป็นโครงการริเริ่มที่ล้ำสมัย และก้าวขึ้นเป็นผู้บุกเบิกในการนำระบบนี้มาใช้ในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งขับเคลื่อนความเป็นกลางทางคาร์บอนและการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคมโดยรวม