'ไพรม์มัส' เสริมแกร่ง เล็งเพิ่มแบรนด์ใหม่ EV ล่าสุดส่ง Deepal บุกชลบุรี
ไพรม์มัส กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกรยนต์ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบรนด์หรูจากเยอรมนี และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) จากจีนอีกหลายยี่ห้อ ล่าสุด
ไพรม์มัส กรุ๊ป (Primus Group) เริ่มต้นธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในปี 2563 ในนามเบนซ์ ไพรม์มัส ที่มีโชว์รูมและสำนักงานใหญ่ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม
แต่จริงๆ แล้ว ไพรม์มัส ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจของ ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง (TOAVH Group) ที่มีธุรกิจที่หลากหลายสาขา อยู่ในแวดวงธุรกิจยานยนต์มายาวนานตั้งแต่ปี 2553 และตั้งบริษัท เบส ออโต้เซลส์ จำกัด ในปี 2557 โดยปัจจุบัน เบส ออโต้เซลส์ เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี และซูซูกิ
และเมื่อ TOAVH ก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์พรีเมียมด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงตั้งไพรม์มัสขึ้นมาดูแล ก่อนที่จะปัจจุบันจะใช้ไพรม์มัสในการขยายตลาดรถยนต์แบรนด์ใหม่ๆ โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี ไม่ว่าจะเป็น ดีพอล (Deepal) ซีเกอร์ (Zeekr) ไอออน (Aion) และ โอโมดา แอนด์ เจคู (OMODA&JAECOO)
ทำให้ปัจจุบัน ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง มีธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รวม 7 แบรนด์ มีเครือข่ายรวม 15 สาขา
ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธานกลุ่มบริษัท ไพรม์มัส กรุ๊ป และกลุ่มบริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง กล่าวว่า ปัจจุบันเครือข่ายธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของประเทศ และชลบุรี ตลาดรถยนต์อันดับ 2 ของประเทศ และมีที่เชียงใหม่อีก 1 แห่ง
ส่วนแนวทางในอนาคต กลุ่มจะยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่จะยังคงเน้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และชลบุรี แต่อาจจะมีพื้นที่อื่นบ้างหากเห็นว่ามีศักยภาพที่ดี
และยังมีแผนที่จะเพิ่มแบรนด์ใหม่มากขึ้น โดยจะยังคงเน้นรถยนต์พลังงานใหม่ โดยเฉพาะ อีวี เพราะเป็นกระแสที่เชื่อว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในอนาคต
“ช่วงนี้มีหลายแบรนด์ที่คุยกับเรา เป็นแบรนด์ที่เข้ามาลงทุนแล้วและที่กำลังจะมาลงทุน ซึ่งเราอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล ความเป็นไปได้”
ทั้งนี้การเลือกทำธุรกิจแบรนด์ใด บริษัทจะดูหลายอย่าง ทั้งควมแข็งแกร่ง แผนธุรกิจ และแผนการทำธุรกิจในไทยที่มั่นคง มีการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศ พัฒนาบุคลากร ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นได้ว่าแบรนด์ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายมีแผนการที่จริงจังทั้งการสร้างโรงงาน หรือบางราย เช่น ฉางอาน ที่มีแผนตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา
จิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส โมบิลิตี้ จำกัด กล่าวว่า หนึ่งในแนวทางสำคัญของกลุ่มในการดำเนินธุรกิจคือ การไม่เน้นสร้างผลกำไรที่รวดเร็ว แต่เน้นการหาแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีความน่าเชื่อถือ แล้วสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของธุรกิจ สร้างความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งท้ายที่สุดก็จะทำให้ยอดขายตามมา
“ข้อดีอย่างหนึ่งของธุรกิจเราคือผู้บริหารมองความคุ้มค่าในการลงทุนระยะยาว ไม่ได้มองระยะสั้น เช่น 3 ปี ต้องคืนทุน ทำให้สามารถวางแผนดำเนินงานได้คล่องตัว”
พร้อมยกตัวอย่างการลงทุนแต่ละสาขาที่เป็นสาขาหลัก จะต้องเป็นแบบ 3S (Sale, Service, Spare Part) ที่ในยุคปัจจุบันบางคนอาจจะมองว่าบางอย่างไม่มีความจำเป็น แต่กลุ่มยังเห็นว่าสำคัญ เพราะเป็นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในระยะยาว
สำหรับการขยายงานล่าสุด บริษัทเปิด “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี” โดยใช้งบลงทุนในการปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการเดิม 50 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่าย ดีพอล จาก อีเทอร์นิตี้แอทวัน (Eternity At One) โดยสาขาชลบุรีเป็นสาขาที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้เปิดสาขาแรกที่ถนนรามคำแหง
การเปิดสาขาชลบุรีนอกจากการเป็นตลาดใหญ่ที่มียอดจดทะเบียนรถยนต์เป็นอันดับ 2 ของประเทศแล้ว ยังเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ทำให้มีการลงทุนเมกะโปรเจ็คจากทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวนมาก ทำให้ให้เศรษฐกิจโดยรวมมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดรถยนต์โดยรวมของชลบุรีที่มีการขยายตัวมากขึ้น
รวมถึงการที่ไพรม์มัส กรุ๊ป มีความชำนาญและประสบการณ์การทำตลาดรถยนต์ในเขตพื้นที่ชลบุรีอยู่แล้ว จึงมองว่าเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตของกลุ่มในอนาคต
สำหรับ ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท-อ่างศิลา มีพื้นที่รวมทั้งหมด 6,290 ตร.ม. เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการดีพอลขนาดใหญ่ที่สุดในไทย
โชว์รูมแห่งนี้สามารถจัดแสดงรถยนต์ได้ 10 คัน และมีโซนรับรองลูกค้า ขณะที่ศูนย์บริการมีพื้นที่ประมาณ 1,000 ตร.ม. มีช่องซ่อม 8 ช่องซ่อม รองรับรถยนต์เข้ารับบริการได้ 500 คัน/เดือน และยังมีศูนย์ซ่อมสีและตัวถังที่สามารถให้บริการได้เดือนละ 200 คัน