BYD DENZA D9 เอาจริง ตลาด MPV เริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้าน
เรเว่ ยังรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เปิดตัวซับแบรนด์รุ่นแรก BYD DENZA D9 พร้อมกับการแข่งขัน ตลาดเอ็มพีวี ขนาดใหญ่ ที่เริ่มร้อนแรงยิ่งขึ้น เคาะราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้าน
ตลาดรถเอ็มพีวี (MPV) ขนาดใหญ่ หรือจริงๆ จะเรียกว่ารถตู้ก็คงไม่ผิด เริ่มมีการแข่งขันที่ร้อนแรงมากขึ้น และกระแสการตอบรับของลูกค้าก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ที่ผ่านมาตลาดนี้ หากเป็นกลุ่มพรีเมียม มีแบรนด์เดียวที่ทำตลาดอย่างแข็งขัน และได้รับความนิยมสูงคือ โตโยต้า อัลฟาร์ด และ เวลล์ไฟร์
แต่เมื่อ อีวี เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ก็เริ่มมีรถเข้าสู่ตลาดและเตรียมเปิดตัว ไม่ว่าจะเป็น เอ็มจี แม็กซัส 9 (MG MAXUS9), ซีเกอร์ 009 (ZEEKR 009) , เอ็กซ์เผิง เอ็กซ์ 9 (XPENG X 9) และ บีวายดี เดนซ่า ดี 9 (BYD DENZA D9)
น่าสังเกตว่ารถจากจีนเลือกใช้เลข 9 อยู่ในชื่อรุ่นทุกแบรนด์ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงขนาดรถที่ใหญ่ที่สุดในลิสต์ของตนเอง
สำหรับจุดขายที่โดดเด่นของ เอ็มพีวี อีวี จากจีน ก็คือ ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง จากคุณสมบัติที่โดดเด่นของ แพลทฟอร์ม อีวี ที่ไม่มีเครื่องยนต์ เกียร์ มารบกวนพื้นที่ห้องโดยสารมากนัก
โดย DENZA D9 มีขนาดความยาวตัวถัง 5,250 มม. กว้าง 1,960 สูง 1,920 มม. ระยะฐานล้อ 3,110 มม. โดยยาวกว่า อัลฟาร์ด 15 ซม. ยาวกว่า ซีเกอร์ 009 อยู่ท่ 4.3 ซม. สั้นกว่า เอ็กซ์เผิง เอ็กซ์ 9 ที่ 4.3 ซม. และสั้นกว่า เอ็มจี แม็กซัส 9 ที่ 2 ซม.
และยิ่งเป็น อีวี จากจีน ที่เน้นเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ เทคโนโลยี ดิจิทัล หรือลูกเล่นต่างๆ เข้าไปอย่างมาก ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในยุคปัจจุบัน
โดยออปชั่นหลักๆ ของ D9 เบาะนั่งหนังแนปปา คู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งคู่กลางปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง และสามารถปรับหมอนรองศรีษะให้เข้ากับสรีระได้อีกด้วย และยังมีระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ
ระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับและผู้โดยสารแถวที่สอง ที่มาพร้อมฟังก์ชัน Welcome Seat และปุ่ม reset ตั้งค่าเบาะ ทำให้สะดวกสบายในการขึ้น-ลงรถ
หลังคา Panoramic Glass Roof ขนาด 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า
หน้าจอมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 15.6 นิ้ว ระบบเครื่องเสียง Dynaudio Hi-Fi Class ลำโพง 14 ดอก ที่พักแขนเบาะนั่งโดยสารแถวที่สอง พร้อมหน้าจอ LCD แบบมัลติฟังก์ชัน ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ได้แก่
ห้องโดยสารตอนหน้า 1 ตำแหน่ง ห้องโดยสารแถวที่สองอีก 2 ตำแหน่ง ทั้งยังมีระบบตู้เย็นภายในรถยนต์ที่สามารถปรับแต่งองศาตั้งแต่ -6 จนถึง 50 และสัญญาณอินเตอร์เน็ต 4G ในตัว
ห้องโดยสารด้วยกระจกกันเสียง 2 ชั้นรอบคัน
ส่วนระบบความปลอดภัย ใส่มาไม่น้อย โดยรุ่นท็อปจะมีครบทั้ง กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา เซนเซอร์ 8 ตำแหน่ง, ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (HUD) ขนาด 12 นิ้ว
และมีถึงเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ เช่น
- ระบบช่วยเตือนอันตรายจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ (DMS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ICC)
- ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (AEB)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTB)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
- ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
- ระบบช่วยควบคุมและช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
- ระบบควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH)
- ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
- ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ระบบช่วยควบคุมและช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
my
มี 2 ตัวเลือกขับเคลื่อน คือ
- รุ่น Ptemium มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 335 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี่ที่เป็นจุดขายของบีวายดี อย่าง Blade Battery Lithium-ion LFP ความจุ 103.36 kWh รองรับการขับขี่สูงสุด 600 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
- รุ่น Performance ขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์คู่ ให้กำลังสูงสุด 368 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Blade Battery Lithium-ion LFP คววมจุดเท่ากัน ที่ 103.36 kWh ระยะทางการขับขี่สูงสุด 580 กม. ตามมาตรฐาน NEDC เช่นเดียวกัน
ด้านการชาร์จ
- ชาร์จปกติ (AC) สูงสุด 11 kW
- ชาร์จเร็ว (DC) สูงสุด 166 kW ชาร์จ จาก 10-80% ใช้เวลาประมาณ 38 นาที
ทั้งนี้ DENZA ถือเป็นอีกแบรนด์หนึ่งในกลุ่ม บีวายดี โดยวางให้เป็นแบรนด์ พรีเมียม
เริ่มต้นด้วยการร่วมทุนกับเดมเลอร์ เอจี จากเยอรมนี ปี 2553 ในสัดส่วน 50:50
ด้านราคาจำหน่าย BYD DENZA D9 ประกอบด้วย
- Premium 1,999,900 บาท
- Performance 2,699,900 บาท
ทั้งนี้ เรเว่ ระบุว่าเป็นราคาพิเศษสำหรับผู้ที่จอง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567
ราคาของ D9 น่าสนใจทีเดียว เชื่อว่าตัวเริ่มต้น แม้จะมีออปชั่นน้อยกว่า แต่เรเว่ น่าจะมองไปที่กลุ่ม PPV ที่ไม่ได้เน้นใช้งานหนัก งานลุย ด้วยเช่นกัน
ส่วนผู้ที่จองรถ DENZA D9 Performance AWD ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 และรับรถภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 จะได้รับโฮมชาร์จเจอร์ ABB พร้อมติดตั้ง
สำหรับบีวายดี ทั้งบีวายดี และกลุ่มธุรกิจเรเว่ ผู้แทนจำหน่าย ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจในไทย เปิดเกมรุกมาโดยตลอด โดยด้านผลิตภัณ์สำหรับลูกค้าทั่วไป ปัจจุบันมีรถหลากหลายเซ็กเมนต์ เริ่มจาก แอทโต 3 (ATTO3) ตามมาด้วย ดอลฟิน (Dolphin) ซีล (SEAL) ซีไลอ้อน 6 ดีเอ็ม-ไอ (SEALION 6 DM-i) เอ็ม 6 (M6)
และก็ยังที่ทำตลาดเชิงพาณิชย์ เช่น รถแท็กซี่ อี6 (E6) และมีแผนการทำตลาดรถบรรทุก และรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า
ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารเรเว่ฯ ระบุว่า การทำตลาดในประเทศไทย ไม่ได้มุ่งตลาดรถยนต์ส่วนบุคคลอย่างเดียว แต่ต้องการรุกตลาด อีวี ไทยเต็มรูปแบบ รวมถึงรถเพื่อการพาณิชย์
สำหรับตลาดเชิงพาณิชย์ ที่ผ่านมาเรเว่ ลงนามขอรับการส่งเสริมกับกรมสรรพสามิตสำหรับตลาดแท็กซี่ E6
ล่าสุดก็ปรับโครงสร้างบริการองค์กรใหม่ เพื่อให้มีความชัดเจนในการบริหารงาน และรองรับเป้าหมายขยายธุรกิจในอนาคต โดยแต่งตั้งวิศิษฎ์ พิทยะวิริยากุล เป็นประธานบริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ดูแลการจัดจําหน่าย การให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)
แต่งตั้ง กฤษณะ เศรษฐธรางกูร ขึ้นตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท เรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ จำกัด และบริษัท เรเว่ บัสแอนด์ทรัค จำกัด ดูแลธุรกิจการประกอบและการจัดจำหน่ายรถบรรทุกและรถขนส่งโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์
แต่งตั้งพรีย์ภร รูปแก้ววิรัตน์ ขึ้นนั่งรองประธานบริหารอาวุโส ฝ่ายบริหารองค์กร กลุ่มธุรกิจเรเว่ ดูแลการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจและงานบริหารจัดการทั่วไปในองค์กร