ลองขับ AION V ก่อนเปิดตัว มอเตอร์เอ็กซ์โป ค่าตัว 1.099 ล้าน
AION V รถเอสยูวี พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดของ GAC AION เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ และเป็น Global Model รุ่นแรก เตรียมเปิดตัว มหกรรมยานยนต์ มั่นใจออปชั่น แบตฯ วิ่งไกล 602 กม. (NEDC) แข่งได้
GAC AION (จีเอซี ไอออน) เข้ามาเปิดตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) ในไทยด้วย AION Y PLUS หลังจากนั้นมีรถตามมาอีก 3 รุ่น คือ ES และแบรนด์ พรีเมียม ฮิปเทค (HYPTEC) 2 รุ่น คือ SSR และ HP แต่ก็เป็นรุ่นที่ทำตลาดเฉพาะกลุ่ม (niche market) รวมถึง ES ที่เริ่มแรกเน้นตลาดแท็กซี่ ตลาดฟลีท ก่อนจะขยายไปยังตลาดประชาชนทั่วไป
แต่ช่วงงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป หรือ มหกรรมยานยนต์ 2567 ที่จะเริ่มต้นปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ AION เตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ “AION V”
GAC AION เคยนำ AION V มาเผยโฉมในไทยตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาในพิธีเปิดโรงงานประกอบที่ระยอง เพื่อสร้างการรับรู้ ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือนนี้
AION V ถือเป็น global model รุ่นแรก และก่อนหน้านี้ เปิดตัวที่ปารีส ฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าไม่น้อย
AION V มีขนาดตัวถังที่ยาวใหญ่กว่า AION Y PLUS เล็กน้อย 7 ซม. แต่แคบกว่า 1.6 ซม. ทำให้รถดูเพรียว ดูสปอร์ตกว่า ส่วนความสูง V สูงกว่า 1 ซม. และระยะฐานล้อยาวกว่า 2.5 ซม.
แต่ถ้าเทียบกับ อีวี ที่ทำตลาด อีวี ที่ใกล้เคียงกันมากคือ KIA EV5 ที่ยาวกว่า AION V แค่ 1 ซม.
โดยมิติตัวถังของ AION V
- ความยาว 4,605 มม.
- ความกว้าง 1,876 มม.
- ความสูง 1,686 มม.
- ความกว้างฐานล้อหน้า - หลัง 1,600 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,775 มม.
- น้ำหนักรถ 1,860 กิโลกรัม
- ล้ออัลลอย 19 นิ้ว
มอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร ขับเคลื่อนล้อหน้า
- กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS)
- แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 7.9 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
ผมได้ลองขับเบื้องต้น ระยะทางไม่ไกลนัก แต่ก็พอรับรู้ถึงอารมณ์ของรถได้ อัตราเร่งในการใช้งานจริงใช้ได้ครับ รถเพิ่มความเร็วได้รวดเร็ว เพียงพอกับการใช้งาน ทั้งการเปลี่ยนความเร็ว การเร่งแซงทำได้ดี และการไล่ความเร็วทำได้ต่อเนื่อง ใช้เวลาไม่นานขึ้นไปที่ความเร็วระดับสูงได้
มี 3 โหมดขับขี่ คือ ประหยัด, คอมฟอร์ท และสปอร์ต ซึ่งให้อารมณ์ต่างกันแบบรู้สึกได้ ผมชอบสปอร์ต ที่การตอบสนองทำได้เร็ว
โดยปกติส่วนใหญ่เวลาขับรถผมจะชอบแบบ ปกติ มากกว่า เพราะมันตอบสนองการใช้งานได้เพียงพอ สบาย และสนุกได้ ส่วนโหมดสปอร์ตนั้นบางทีการตอบสนองเร็วเกินไปจนขาดความสมูทในการขับขี่ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้เดินทางคนเดียว แต่สำหรับ AION V เขาไม่ได้เซ็ทโหมดนี้มาให้การตอบสนองของคันเร่งดุดันจนเกินไป เป็นความแรงแบบนุ่มนวล
ช่วงล่าง ด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลังแบบกึ่งอิสระ ทอร์ชั่นบีม น่าสนใจ เซ็ทมาได้ดีครับ ลองเข้าโค้งหนักๆ รถเกาะติดกับโค้งใช้ได้เลย ไม่มีอาการดื้อหรือท้ายออกให้รู้สึก ซึ่งน้ำหนักรถที่ไม่มากนักสำหรับความเป็นอีวีคงจะช่วยได้ระดับหนึ่ง
ส่วนการขับขี่บนถนนทั่วไป ลองใช้ความเร็วสูงๆ รถนิ่ง พวงมาลัยก็นิ่งมีความแม่ยำ แบบนี้เดินทางนานๆ ไม่เหนื่อยครับ
ซึ่งพวงมาลัยปรับน้ำหนักได้ 2 ระดับ คือ คอมฟอร์ท กับ สปอร์ต ใช้คอมฟอร์ทก็ได้ แต่ผมชอบ สปอร์ตมากกว่า
ส่วนเส้นทางขรุขระหรือเนิน เช่น คอสะพานที่มีมากมายในบ้านเราด้วยเวลาและระยะทางที่ลองขับเบื้องต้นไม่มากนักจึงยังไม่ผ่านเส้นทางแบบนี้ แต่มีผ่านเนินลูกระนาดแบบพลาสติกขวางถนนหลายจุด ทำได้ดีเลย มีความนุ่มนวล แรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้ามาในห้องโดยสารไม่มาก
การเบรกทำได้ดี จังหวะเบรกหนักๆ รถยังทรงตัวได้ดี และอาการหน้ายุบไม่มากนัก โดยระบบเบรกมีให้เลือกได้ 2 ระดับ คือ ปกติ กับ สปอร์ต ถ้าปกติ จะมีระยะกดที่ลึกหน่อย ส่วนแบบสปอร์ตการตอบสนองเร็ว
หลายคนก็ชอบแบบมีระยะกด ก่อนที่เบรกเริ่มจับเพราะการตอบสนองเร็วอาจะทำให้ขับไม่สมูท แต่ผมชอบแบบสปอร์ตครับ เบรกจับเร็วก็จริงแต่ก็เรียนรู้ให้เบรกแบบไม่ให้หัวทิ่มไม่ยากอะไร
ขณะที่การชาร์จคืนพลังงาน มี 2 ระดับ 3 ทางเลือก คือ ไม่หน่วงเลย กับหน่วงน้อยๆ และปานกลาง ไม่มีแบบหน่วงหนัก ซึ่งผมเลือกใช้แบบต่ำ
ห้องโดยสารก็นั่งได้สบาย เบาะกระชับ ตำแหน่งพวงมาลัยแป้นเหยีบบ จอ ระบบควบคุมต่างๆ ถนัดมือ และจุดที่สัมผัสบ่อยๆ เลือกใช้วัสดุบุนุ่ม 100%
ลูกเล่น ฟังก์ชั่น ต่างๆ มีให้ใช้งานเยอะ ซึ่งเป็นอีกจุดที่ ไออ้อน เชื่อว่าจะเป็นจุดขายสำคัญกับระดับราคาที่ตั้งไว้ แต่การลองขับเบื้องต้นยังไม่มีเวลาลองใช้งานมากนัก เอาไว้ขับยาวๆ ค่อยมาว่ากันอีกทีครับ
ราคา AION V เบื้องต้น GAC AION ระบุว่าไม่เกิน 1,099,000 บาท แต่ก็ยังมีเวลาให้ลุ้นกว่าก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จะขยับหรือไม่ ในยุคที่สงครามราคาอีวีดุเดือดเหลือเกิน
ทีนี้มาดูด้านการดีไซน์กันบ้าง AION ระบุว่า AION V ออกแบบในรูปแบบที่เรียกว่า Cyber Design เน้นให้รถดูมีพละกำลัง และล้ำสมัยไฟหน้าออกแนวเครื่องจักร
องค์ประกอบอื่นๆ ด้านหน้า เชื่อมต่อด้วยรูปทรงเรขาคณิต โดยส่วนตัวผมว่ามุมมองด้านหน้าดูแปลกตา ทันสมัย และมีเอกลักษณ์ดี แต่ชิ้นส่วนที่แปะยี่ห้อ AION เอาไว้ ชิ้นใหญ่ไปนิด
AION V มีสีให้ลูกค้าเลือกประกอบด้วย
- สีขาว Alpine White
- สีดำ Onyx Black
- สีน้ำตาล Sahara Sand
- สีเงิน Aurora Silver
- สีเทา Iceland Grey
- สีส้ม Volcano Orange
- สีส้ม หลังคาขาว Volcano Orange + White Roof
สีภายในห้องโดยสาร
- สีดำ Midnight Black
- สีน้ำตาล Olympus Brown
ออปชั่นที่ใส่เข้ามามีไม่น้อย และเป็นสิ่งที่ GAC AION เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า รวมถึงใครที่ชอบระบบนวด AION V มีมาให้ในเบาะคู่หน้า เป็นการนวด 8 จุด ปรับระดับความแรงได้ 3 ระดับ และมีโหมดให้เลือก 5 โหมด
ตู้เย็น ตู้ร้อน น่าจะเป็นอีกสิ่งที่ลูกค้าชอบ เป็นออปชั่นมาตรฐานที่มาพร้อมกับรถ ปรับอุณภูมิได้ ตั้งแต่ -15- 50°C
และมีโต๊ะขนาดเล็กหุ้มหนังให้นุ่มเอาไว้ให้ใช้งานสำหรับผู้นั่งเบาะหลัง โดยพับเก็บได้ที่ด้านหลังของเบาะหน้า และมีช่องแอร์ที่เสา B สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง โดยระบุว่าเป็นการกระจายแอร์แบบนุ่มนวล ไม่เป่าหัวเข่าหากติดตั้งไว้ที่คอนโซลกลาง
การออกแบบภายในดูโปร่งโล่ง เสริมด้วยหลังคากระจกพาโนรามาขนาดใหญ่ 2.14 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดด
ระบบเสียง ลำโพงพรีเมียมจากเบลเยียม พร้อมซับวูฟเฟอร์ 8 นิ้ว ให้เสียงดูเป็นธรรมชาติใช้ได้
ด้านหน้าและกระจกหน้าต่างคู่หน้าเป็นแบบกันเสียง บวกกับการซีลในจุดต่างๆ ทำให้เงียบใช้ได้ครับจากการลองขับครั้งนี้
จุดขายอย่างหนึ่งที่ใช้มาตั้งแต่ AION Y PLUS คือการทำให้เป็นรถที่สามารถแคมปิ้ง หรือ แปลงสภาพเป็นห้องนอนได้ ด้วยอุปกรณ์เสริมอย่างเบาะนอน ซึ่งนั่นหมายถึงเบาะนั่งแถวหลังต้องปรับเอนได้ ซึ่งคันนี้ปรับได้ 137 องศา และปรับพนักพิงได้ 20 องศา
การปรับเบาะสามารถสั่งการได้ด้วยเสียง โดยระบบจะเลื่อนเบาะคู่หน้าไปข้างหน้าสุด เพื่อให้พื้นที่ด้านหลังกว้างขึ้น
พื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านท้ายออกแบบเป็น 3 ชั้น
แบตเตอรี 400V Magazine Battery Lithium-ion (LFP) ความจุ 75 kWh รองรับการขับขี่ 602 กิโลเมตร (NEDC)
ส่วนการชาร์จใช้เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 3C ใช้เวลาชาร์จ 15 นาที รองรับการใช้งาน 300 กิโลเมตร ส่วนการจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก (V2L) 3.3 kW
สำหรับระบบสั่งการด้วยเสียงเป็นแบบ 4 โซน รองรับได้ทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง สามารถสั่งการได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
รองรับระบบ Apple CarPlay แต่ยังไม่ใช่แบบไร้สาย และ Spotify ซึ่งจะเริ่มใช้ได้ในเดือนธันวาคม
ระบบเปิด-ปิด ฝาท้าย อัตโนมัติ แค่มีกุญแจและยืนด้านหลังประตูท้าย 5 วินาที
ชิปประมวลผล Qualcomm SA8155P ระบบช่วยเหลือการขับขี่ระดับ L2 มีฟังก์ชั่นสำคัญๆ เช่น
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICA)
- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน (ELKA)
- ระบบนำทางพัฒนาบนพื้นฐานข้อมูลแผนที่ของ Here พร้อมด้วยฟังก์ชันแผนที่ 3 มิติ
ระบบความปลอดภัยเช่น
- เบรก ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
- ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC)
- ระบบควบคุมการทรงตัว (ESP)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HHC)
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- กล้องมองภาพ HD แบบพาโนรามา 540°
- เซนเซอร์กะระยะ หน้า 4 จุด หลัง 4 จุด
- ระบบ AUTOHOLD
- เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DMS)
- ระบบเตือนมุมอับสายตา (BSD)
- ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้ (RAW)