มาสด้า CX-5 ปรับโฉม เพิ่มออปชั่น หั่นราคา เซ็ทช่วงล่างใหม่
มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 เป็นหนึ่งในรถซีรีส์ ซีเอ็กซ์ ที่ได้รับความนิยมสูงในอดีต แม้ว่ายอดขายหลักๆ ของรถในกลุ่ม ซี-เซ็กเมนต์นี้คือ ฮอนด้า ซีอาร์-วี แต่ซีเอ็กซ์-5 ก็มีจุดขายเฉพาะตัว มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบการขับขี่
แต่ระยะหลังด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ตลาดรถยนต์หดตัวลงอย่างรุนแรงชัดเจน ชนิดที่หวั่นกันว่าปีนี้ตลาดรวม 6 แสนคัน ยังเป็นเรื่องยาก และคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มรถพลังงานไฟฟ้าหรือ อีวี บวกกับฮอนด้าเองที่ไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ทำให้ยอดขายที่หายไปไม่น้อย
แต่ล่าสุด มาสด้า ขยับตัวในตลาดนี้อีกครั้ง ด้วยการปรับโฉม ปรับออปชั่น ให้กับ ซีเอ็กซ์-5 (Mazda CX-5) และที่สำคัญ คือ ปรับราคา เพื่อสร้างแรงดึงดูดใจมากขึ้น
นอกจากนั้นมาสด้าครั้งนี้ มาสด้า ยังตัดรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 เทอร์โบออกไป เหลือแต่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และ เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร
ซึ่งแน่นอนในยุคปัจจุบัน 2.5 เทอร์โบ อาจจะเป็นรถที่ทำตลาดได้ยากขึ้น เพราะโครงสร้างราคาที่สูงทึ่สุดของ ซีเอ็กซ์-5 ซึ่งมีค่าตัว 1,859,000 บาท
ส่วนรุ่นอื่นประกอบด้วย
- 2.0 S ราคา 1,349,000 บาท
- 2.0 SP ราคา 1,499,000 บาท
- 2.2 XDL ราคา 1,799,000 บาท
แต่ว่าค่าตัวของรุ่นปรับโฉมที่เตรียมเปิดราคาอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่จะเริ่มต้นขึ้นวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 จะเป็นราคาที่น่าสนใจยิ่งขึ้น เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพราะถูกลงจากเดิมไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยราคาคาดการณ์ประกอบด้วย
- 2.0 S ราคา 1,150,000-1,250,000 บาท
- 2.0 SP ราคา 1,250,000-1,350,000 บาท
- 2.2 XDL ราคา 1,600,000-1,700,000 บาท
เท่ากับว่าราคาใหม่ รุ่น 2.0 S มีโอกาสที่จะจะถูกลงประมาณ 99,000-199,000 บาท
2.0 SP ถูกลงประมาณ 149,000-249,000 บาท
2.2 XDL ถูกลงประมาณ 99,000-190,000 บาท
โดยรุ่น 2.0 S และ 2.0 SP ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร รองรับเชื้อเพลิง E85 เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 13.9 กม./ลิตร
รุ่น 2.2 XDL ใช้เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 15.9 กม./ลิตร ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 5
ส่วนการปรับเปลี่ยนทั้งภายนอก และภายใน รวมถึงออปชั่นใหม่ มีทั้ง 3 รุ่นย่อย
โดยสิ่งที่มีในทุกรุ่นย่อย ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นคือ
- ไฟหน้าและไฟท้าย แบบ LED Signature ใหม่
- กระจังหน้าและ Signature Wing ดีไซน์ใหม่
- ล้ออัลลอย ดีไซน์ใหม่ โดยรุ่น 2.0 S ขนาด 17 นิ้ว ที่เหลือ 19 นิ้ว
- แอ๊ปเปิ้ล คาร์เพลย์ แบบไร้สาย
- เพิ่ม paddle shift หรือ การเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองที่พวงมาลัย ทุกรุ่นย่อย
- ระบบเปิด-ปิด ฝาท้ายด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบเปิด-ปิด แบบแฮนด์ฟรี
- ปรับช่วงล่างใหม่ ลดแรงสั่นสะเทือนที่จะเข้าสู่ห้องโดยสาร
ขณะที่สิ่งที่มีรุ่น 2.0 SP กับ 2.2 XDL ประกอบด้วย
- ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
- ระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่งและออกตัวใหม่
และสิ่งที่มีเฉพาะในรุ่น 2.2 XDL
- กันชนหน้า และกันชนหลังดีไซน์ใหม่ ด้านล่างสีเดียวกับตัวรถ
- ขอบซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถ
- คิ้วขอบประตูสีเดียวกับตัวรถ
- ท่อไอเสียขนาดใหญ่
- เบาะหนัง Nappa สี Deep Red
- ระบบขับขี่แบบ Off Road พร้อมสวิตช์ Mi-Drive
ส่วนสีตัวถังของ Mazda CX-5 ม่ีรวม 7 สี โดย 2 สี เป็นสีใหม่ ประกอบด้วย
- สีขาว สโนว์แฟลก ไวท์ เพิร์ล
- สีดำ เจ็ท แบล็ค
- สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู
- สีแดง โซล เรด คริสตัล
ส่วนสีใหม่ ซึ่งเคยใช้กับรุ่นอื่นมาก่อน หน้านี้ แต่ยังไม่มีใน CX-5 คือ
- สีเทา โพลี เมทัล เกรย์
- สีบรอนซ์ แพลตทินัม ควอทช์
และก่อนจะเปิดตัว เปิดราคาอย่างเป็นทางการปลายเดือนนี้ มาสด้า เปิดให้ลูกค้าจองสิทธิถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน โดยจะได้รับส่วนลด 20,000 บาท ร่วมกับข้อเสนออื่นๆ เช่น ดอกเบี้ย 1.99% ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี โปรแคมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพรถ 5 ปี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี (ฟรีค่าแรง อะไหล่และของเหลว) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. 5 ปี และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้ามาสด้า ด้วยบัตรเติมน้ำมัน 30,000 บาท