เอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเกิมรุก ดันธุรกิจโต 10% ยอดขายรถเพิ่ม 10%

เอ็มจีซี-เอเชีย (MGC-ASIA) เผยรายได้รวมปี 67 ทะลุ 2 หมื่นล้าน เดินหน้าสร้างการเติบโตต่อเนื่อง เร่งขยายเครือข่ายจำหน่าย บริการ เสริมตลาดใหม่
สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ รถมืองสอง รถเช่า ศูนย์บริการ ประกันภัย สินเชื่อ เรือยอชท์ เรือแม่น้ำ ศูนย์ฝึกอบรม ฯลฯ เปิดเผยว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัท มีรายได้รวม 20,334 ล้านบาท กำไรสุทธิ 145.60 ล้านบาท และ EBITDA ที่ระดับ 1,631 ล้านบาท
“ทั้งนี้ปีที่ผ่านมานับว่ามีความท้าทาย โดยหากอ้างอิงจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ลดลงประมาณ 26% เทียบกับปีก่อนหน้า”
อย่างไรกตาม MGC-ASIA สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้น่าพอใจ โดยมียอดลดลง 10% เป็นผลมาจากการที่บริษัทเปิดธุรกิจรถพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งแบรนด์ XPENG (เอ็กซ์เผิง) ที่บริษัทเป็นผู้นำเข้าและจำหน่าย (Distrubutor) และ ZEEKR (ซีเกอร์) ซึ่งบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย (dealer) ที่ได้การตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี มียอดส่งมอบรถมากกว่า 1,000 คัน
นอกจากนี้ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทมีสินค้ารอส่งมอบ (Backlog) แบ่งเป็น, XPENG 767 คัน, ZEEKR 230 คัน, Rolls-Royce 8 คัน, BMW 42 คัน, MINI Cooper 78 คัน, HONDA 337 คัน, Harley-Davidson 50 คัน และ BMW Motorrad 41 คัน
โดยช่วงไตรมาสแรกปีนี้บริษัทเตรียมส่งมอบ XPENG X9 ให้กับลูกค้าอีกด้วย
ด้านเครือข่ายการจำหน่ายและบริการปีที่ผ่านมา บริษัทแต่งตั้งตัวแทน XPENG 12 แห่งทั่วประเทศ และ ZEEKR by Z Mobility Plus อีก 2 สาขา คือ ศรีนครินทร์ และวิภาวดี
ด้านธุรกิจบริการหลังการขาย และศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง Tesla Approved Body Shop (TAB) ซึ่งบริษัทเป็นผู้ให้บริการให้กับ TESLA ก็ขยายตัว และมีกำไรต่อเนื่อง จากการเพิ่มจำนวนของรถยนต์ที่เข้ารับบริการ 19%
“ช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทยังขยายงานหลาอย่าง ทั้งการมีพันธมิตรใหม่คือ คอนติเนนทอล ไทรส์ และการขยายธุรกิจสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม ที่เราได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ CITY AUTO GROUP ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ เพื่อศึกษาโอกาสธุรกิจร่วมกัน ทั้งบริการ รถใหม่ รถมือสอง รถเช่า บริการทางการเงิน และประกันภัย”
ด้านธุรกิจบริการการเงิน Alpha X ที่ร่วมทุนกับ เอสซีบี เอกซ์ ให้บริการกลุ่มลูกค้ากลุ่มพรีเมียมทั้รถยนต์ เรือยอชท์ เครื่องบิน และอสังหาริมทรัพย์ มีพอร์ตการให้สินเชื่อเติบโตกว่า 45%
ส่วน ธุรกิจบริการประกันภัย ที่บริหารงานโดย บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (Howden Maxi) ช่วงปีงบประมาณระหว่างเดือนตุลาคม 2566 ถึง กันยายน 2567 บริษัทฯ ทำรายได้แตะระดับ 337 ล้านบาท เติบโต 2% และ กำไรสุทธิ 99 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับปี 2568 MGC-ASIA ก้าวสู่ปีที่ 25 โดยบริษัทมีแผนที่จะสร้างการเติบโต ในหลายกลุ่มธุรกิจ
โดยกลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail) จะรักษาส่วนแบ่งตลาดรถพรีเมียม และจะเสริมตลาดรถยนต์รุ่นใหม่ที่หลากหลาย
กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขาย (Aftersales Service) เตรียมขยายสาขา MMS Car Service & Tire เพิ่มอีก 6 สาขา จากเดิม 22 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ขยายการให้บริการซ่อมสีและตัวถังยานยนต์ไฟฟ้า Tesla Approved Body Shop (TAB)
กลุ่มธุรกิจให้บริการรถเช่าและพนักงานขับ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว (Car Rental and Driver Services) วางแผนในการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมการเดินทางให้ครบวงจรทุกมิติ ตามการเติบโตของการท่องเที่ยว และจะเพิ่มสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มที่ให้บริการลูกค้าองค์กรมากขึ้น
กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other Services) สำหรับธุรกิจบริการทางการเงินอย่างครบวงจร บริษัท อัลฟา เอกซ์ จะเน้นการเติบโตจากการให้สินเชื่อ Wealth Lending ในอัตราที่เพิ่มขึ้น พร้อมปรับปรุงกระบวนการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
และควบคุมผลขาดทุนด้านเครดิต โดยการนำเสนอการแก้ปัญหาในการชำระหนี้ที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า เพื่อสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนบริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด จะขยายฐานลูกค้า ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการ รักษาการเป็นโบรกเกอร์ระดับชั้นนำ