เคลียร์ชัดๆ ‘เนต้า’ ล้างหนี้อย่างไร ก่อนเปิดเกมรุก ดันยอด 5 หมื่น

เนต้า ออโต้ (NETA Auto) ผู้ผลิตรถพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) ของจีน เกิดขึ้นจากกลุ่มสตาร์ตอัป แต่เมื่อการแข่งขันรุนแรง เกิดสงครามราคา ทำให้ เนต้า มีปัญหาไม่น้อย
ไม่แน่ชัดว่าหนี้ของ เนต้า ออโต้ (NETA Auto) ประเทศจีน มีมูลค่าเท่าไร แต่ก็คงไม่น้อย และส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ การเพิ่มศักยภาพการตลาด และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา เนต้า ฝ่าวิกฤติมาได้หลายครั้งจากการสนับสนุนขององค์กรต่างๆ รวมถึงล่าสุดรัฐบาลหนานหนิง
เมื่อมองเข้ามายังตลาดไทย คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์ของบริษัทแม่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการบริการหลังการขาย ที่เห็นความเคลื่อนไหวทางโลกออนไลน์ เช่น การไม่มีอะไหล่ หรือ ใช้เวลารอนาน รวมถึงค่าใช้จ่ายของตัวแทนจำหน่าย
และข่าวคราวของเนต้า ประเทศไทย ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับธุรกิจของเนต้า รวมถึงผู้บริโภค เมื่อมีการประชุมตัวแทนจำหน่าย และการลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ เอ็มโอยู (MOU) กับ 4 พันธมิตร คือ
- บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี (BGAC)
- นิสสัน ลีสซิ่ง
- Hong Kong Sola Technology Co., Ltd
- Kintai Automotive Industry Development Co.,Ltd.
อ่านรายละเอียด MOU ได้ที่ https://www.bangkokbiznews.com/auto/1172293
ล่าสุด มีโอกาสได้พูดคุยกับ “ซูน เป่าหลง” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) ในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ซึ่งซูนอธิบายสถานการณ์ของบริษัทแม่ ประเทศจีน และ เนต้า ประเทศไทย ค่อนข้างชัดเจนทีเดียว
ที่จีน
เนต้า เคลียร์หนี้ โดยใช้ปฏิบัติการ “แปลงหนี้เป็นหุ้น” โดยเนต้า เจรจากับซัพพลายเออร์ และพันธมิตรต่างๆ ที่มีสถานะเป็นเจ้าหนี้ โดยสามารถเคลียร์หนี้ในส่วนนี้ได้ 70%
แล้วที่เหลือ 30% เป็นอย่างไร
เนต้าระบุว่า ส่วนที่เหลือ ทางเนต้า ออโต้ จะทยอยจ่ายคืนให้ภายในระยะเวลา 15 เดือน
มีข้อสงสัยว่า การแปลงหนี้เป็นหุ้น ทำไมทำได้แค่ 70% เป็นเพราะมูลค่าหุ้นไม่ครอบคลุม 100% หรือว่าซัพพลายเออร์ 30% ไม่สนใจแผนการนี้
ซูน ระบุว่า ไม่ได้เป็นเช่นกัน ซัพพลายเออร์ เห็นชอบกับแผนการนี้ และพร้อมที่จะแปลงหนี้เป็นหุ้น 100% แต่เนต้า ไม่ต้องการแบบนั้น เพราะต้องการให้ซัพพลายเออร์มีสภาพคล่องทางการเงินจากหนี้ 30% ที่เหลือ ที่เนต้า จะทยอยจ่ายคืนให้
เมื่อจัดการลดหนี้ได้เรียบร้อยทำให้มีเงินทุนเข้ามา และทำให้เนต้ากลับมาดำเนินการได้ตามปกติ และจะมีเงินที่จะทยอยจ่ายในส่วนที่เหลือภายใน 15 เดือนดังกล่าว
สำหรับเงินทุนหลักๆ เป็นการสนับสนุนของภาครัฐจีน ที่เหลือเป็นองค์กรอื่นๆ
ทั้งนี้แนวทางการดำเนินการของเนต้าน่าสนใจ เพราะเป็นการลดหนี้โดยไม่ต้องหาเงินมาจ่าย และในเวลาเดียวกันก็ดึงซัพพลายเออร์เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งระยะยาวจะทำให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะซัพพลายเออร์ไม่ใช่แค่ลูกค้าอีกต่อไป แต่เป็นหนึ่งในเจ้าของร่วม
ประเทศไทย
ซูนระบุว่าหนี้ที่มีถือว่ามีสัดส่วนน้อยมาก และจะเริ่มต้นจ่ายในเดือนเมษายน เป็นก้อนแรก ก้อนที่ 2 จะตามมาในเดือนพฤษภาคม และเคลียร์หมดในเดือนมิถุนายน ซึ่งจะทำให้การดำเนินธุรกิจกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ซูน กล่าวว่า จริง ๆ ภาพรวมของเนต้าในไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่ดี มีผู้บริโภคอยากได้รถเนต้า แต่การมีข่าวคราวเชิงลบออกมาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ก็ส่งผลกระทบไม่น้อยเช่นกัน แต่เมื่อเคลียร์ทุกอย่างได้ในเดือนมิถุนายน ก็เชื่อว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้น
รวมถึงการ เอ็มโอยู ซึ่งครอบคลุมทั้งด้ายสินเชื่อดีลเลอร์ สินเชื่อลูกค้า วงเงิน 10,000 ล้านบาท ด้านการผลิต ด้านอะไหล่ และการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ ก็จะยิ่งทำให้อนาคตของเนต้า แข็งแกร่งขึ้น
โดยเนต้า คาดหวังว่าแนวทางการดำเนินการต่างๆ การฟื้นความเชื่อมั่นจะทำให้ปีนี้เนต้ามียอดจำหน่าย 10,000 คัน ครองอันดับ 2 ตลาดรถพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV)
และภายในปี 2571 จะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 คัน
โดยในปีดังกล่าวเนต้าจะมีรถจำหน่ายรวม 6 รุ่น คือ
- เนต้า วี ทู ที่จะปรับเปลี่ยนใหม่ มีขนาดใหญ่ขึ้น
- เนต้า เอ็กซ์ ที่อัปเกรดขึ้นใหม่
- เนต้า เอส
- เนต้า แอล
- รถที่อยู่ระหว่าง D กับ E Segment
- รถในกลุ่ม B Segment
ก็ต้องติดตาม การปรับตัวของเนต้าทั้งในประเทศจีน และไทยว่าจะมีผลเชิงบวกมากน้อยแค่ไหน ท่ามกลางความท้าทายของการแข่งขันกับกลุ่มทุนทั้งรายเล็กรายใหญ่ และสงครามราคาที่ยังไม่มีใครรู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์