กระจกบังลมหน้า

เมื่อพูดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกระจกหรือเรียกกันอย่างเต็มยศว่า 'กระจกบังลมหน้า' ทำให้เจ้าของรถยนต์หลายคนเกิดความสงสัยขึ้นมาต่างกัน
วันนี้คือวันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2557 เป็นวันที่คนไทยทั้งประเทศกำลังตั้งตารอดูว่า จะมีเหตุการณ์ทางการเมืองอะไรเกิดขึ้นในประเทศหรือไม่ เพราะคณะบุคคลผู้ประท้วงรัฐบาลซึ่งมีชื่อย่อว่า กปปส. ประกาศระดมคนให้ออกมาชุมนุมตามทางแยกทางร่วมสำคัญๆในกรุงเทพให้มากที่สุด
ไม่มีใครสามารถรู้ผลที่แท้จริงได้ว่าการประท้วงครั้งนี้จะไปจบลงที่ไหนและเมื่อไร เพราะฝ่ายรัฐบาลไม่มีทีท่าตอบรับข้อเสนอทุกอย่าง และยังมีรัฐมนตรีรักษาการดาหน้าออกมาต่อว่ากล่าวหาผู้ชุมนุมต่างๆนานา โดยแกล้งลืมไปว่าเพียงแค่ 3 ปีที่ผ่านมาฝ่ายของตนเองก็กระทำการที่ไม่ต่าง หรือเลวร้ายกว่าการชุมนุมครั้งนี้ด้วย
ล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวแทนของสมาคมประกันวินาศภัยเพิ่งจะออกมาแจ้งว่า หากมีรถยนต์เสียหายในการชุมนุมประท้วง และบริษัทประกันเห็นว่าเป็นลักษณะของการก่อการจลาจล บริษัทประกันก็จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายนั้นๆ และยังมีคำแนะนำตามมาอีกด้วยว่าหากใครจะไปร่วมชุมนุม ก็ไม่ควรนำรถยนต์ส่วนตัวไปในพื้นที่ดังกล่าว แต่ผมว่าคำแนะนำนี้น่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมที่ไปประท้วงรับฟังน้อยมาก ด้วยว่าเมื่อถึงเวลาจริงอารมณ์ที่คุกรุ่นจะทำให้ลืมนึกถึงความเสียหายอื่นใดทั้งสิ้น
เมื่อพูดถึงความเสียหายของรถยนต์จากการชุมนุมประท้วง ก็อดนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่มีชายแต่งกายคล้ายตำรวจ ซึ่งต่อมาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่าเป็นตำรวจจริง กระทำการทุบรถยนต์ของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อครั้งมีการชุมนุมประท้วงที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดงไม่ได้ว่า กรณีอย่างนี้บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบความเสียหายหรือไม่ และจะไปฟ้องไล่เบี้ยเอากับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ซึ่งมีภาพถ่ายว่า เป็นผู้ที่ได้ร่วมกระทำการอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆหรือไม่
รถยนต์ที่เสียหายจากการประท้วงส่วนมากมักจะเสียหายที่ตัวถัง ส่วนเครื่องยนต์และระบบช่วงล่างมักจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก ดังนั้นค่าซ่อมบำรุงจึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้จ่ายเงินค่าซ่อม ว่าต้องการซ่อมบำรุงให้ฟื้นกลับคืนมาถึงระดับใด ตามความต้องการและตามกำลังทุนของผู้จ่ายเงิน
เมื่อพูดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกระจกหรือเรียกกันอย่างเต็มยศว่า "กระจกบังลมหน้า" ทำให้เจ้าของรถยนต์หลายคนเกิดความสงสัยขึ้นมาต่างกัน เช่น เจ้าของรถยนต์บางท่านถามผมว่า "กระจกหน้ารถถูกหินดีดขึ้นมาโดนเป็นรอยแตกเล็กๆ มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งบานหรือไม่" ผมก็จะตอบไปว่า
"หากใช้คำว่าจำเป็นคงไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีที่สามารถซ่อมรอยแตกร้าวที่เกิดขึ้นที่กระจกได้ บางกรณีถึงขั้นที่ซ่อมแล้วจะไม่สามารถเห็นรอยแตกร้าวหรือรอยชำรุดเดิมที่เกิดขึ้นเลย แต่ต้องไม่ลืมว่ารถยนต์คือทรัพย์สินเคลื่อนที่ได้ และประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนอุณหภูมิสูงมาก"
เมื่อต้องนำรถไปจอดตากแดดกลางแจ้งนานๆ อุณหภูมิภายในรถจะสูงกว่าอุณหภูมิภายนอกทั่วไปมาก เมื่อเจ้าของรถกลับมาที่รถและขับรถออกไป ก็มักจะเปิดเครื่องปรับอากาศให้มีความเย็นจัดหรือมีอุณหภูมิภายในรถยนต์ลดลง ความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิภายนอกและภายในรถยนต์ จะทำให้กระจกบังลมหน้าของรถยนต์ซึ่งเป็นกระจก 2 ชั้น มีการยืดและหดตัวตามอุณหภูมิที่ต่างกันตามหลักการทางวิทยาศาสตร์
เท่ากับว่ากระจกบังลมหน้าชั้นนอกที่มีรอยร้าวเล็กน้อยเกิดขึ้น จะมีพื้นที่ให้ขยายตัวมากขึ้นด้วยอุณหภูมิที่สูงจัด จนเกิดอาการร้าวที่เรียกกันว่า “ลั่น” ไปทั้งบานได้ง่ายกว่ากระจกปรกติที่มีรอยร้าว และโอกาสที่กระจกทั้งบานจะร่วงหลุดออกมาจากกรอบหรือโครงของตัวถังก็มีสูงตามไปด้วย ดังนั้นคำแนะนำของผมคือแม้ว่าจะมีรอยร้าวเพียงเล็กน้อยเกิดขึ้น หากไม่อยากเสี่ยงกับกระจกหน้าแตกขณะขับรถ "ก็ควรที่จะ" เปลี่ยนใหม่เสียทั้งบานดีกว่า
คำถามถัดมาที่ผมมักจะได้รับเกี่ยวกับกระจกหน้าก็คือ "กระจกที่ขายกันตามร้านทั่วไปจะมีคุณภาพเทียบเท่ากับกระจกติดรถออกมาจากโรงงานหรือไม่" ซึ่งผมก็จะตอบกลับไปว่า "มีทั้งที่มีคุณภาพเท่ากันเหมือนกันทุกประการ มีทั้งคุณภาพต่ำกว่ากระจกที่ติดกับรถออกมาจากโรงงาน และมีทั้งชนิดที่มีคุณภาพสูงกว่ากระจกที่ติดออกมาจากโรงงานผลิตรถยนต์ครับ" ขึ้นอยู่กับการเลือกชนิด, แบบ, และประเภทของกระจก โดยต้องรับรู้ว่าแม้จะเป็นกระจกที่มีขนาดเท่ากันใช้ทดแทนกันได้ แต่คุณภาพมีให้เลือกแตกต่างกันออกไปแน่นอน
คำถามยอดนิยมอันดับ 3 ถามเกี่ยวกับกระจกก็คือ "ถ้าเปลี่ยนกระจกแล้วจะต้องเปลี่ยนยางขอบกระจกด้วยหรือไม่" คำตอบที่ได้รับจากผมก็คือ "ควรเปลี่ยนยางขอบกระจกทุกครั้งที่เปลี่ยนกระจกบังลมหน้า มิฉะนั้นอาจจะเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าตามขอบกระจกได้ง่ายกว่าปรกติครับ"
ทั้งหมดนี้คือปัญหายอดนิยมเกี่ยวกับกระจกบังลมหน้าที่ผมมักจะได้รับบ่อยมากครับ