มาสด้า 'ซีเอ็กซ์-8' ...จบในคันเดียว

       ทั้งนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะรูปร่างหน้าตาที่ใกล้เคียงกับ “ซีเอ็กซ์-5” แม้จะมีความยาวของตัวถังมากกว่า  350 มม. หรือมากกว่า 1 ฟุต แต่ก็ยังมีบุคลิกของอารมณ์สปอร์ต อารมณ์ของเอสยูวี ขับไปไหนมาไหนไม่เคอะเขินเหมือนกับขับรถเอ็มพีวี

       และขณะเดียวกัน ความสามารถในการใช้งานภายในห้องโดยสาร อาจจะไม่ถึงขั้นเอ็มพีวีแท้ๆ แต่ก็รองรับการเดินทางของคนได้ 6 คน และ 7 คนได้จริง

       ทั้งนี้ ซีเอ็กซ์-8 มีห้องโดยสาร 2 แบบ คือ 7 ที่นั่ง ซึ่งมี 3 รุ่นย่อย คือ เครื่องยนต์เบนซิน 2 รุ่น คือ 2.5 S ราคา 1.599 ล้านบาท 2.5 SP 1.699 ล้านบาท และดีเซล 1 รุ่น คือ XDL 1.899 ล้านบาท โดยทั้งหมดขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ส่วนแบบ 6 ที่นั่ง ที่เรียกว่า กัปตัน ซีท มีอยู่ในรุ่นท็อป เครื่องยนต์ดีเซล ขับเคลื่อน 4 ล้อ XDL EXCLUSIVE 2.069 ล้านบาท

       ซีเอ็กซ์-8 ตัวถังมีความยาว 4,900 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,730 มม. ระยะฐานล้อ 2,930 มม. ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,595/1,600 มม.

       และนอกจากความยาวตัวถังที่มากกว่า ซีเอ็กซ์-5 แล้ว ระยะฐานล้อของ ซีเอ็กซ์-8 ก็ยาวกว่า 230 มม. หรือ 23 ซม. นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวรถรองรับเบาะนั่งแบบ 3 แถวได้ดีพอ 

       ส่วนความกว้างเท่ากัน ความสูง ซีเอ็กซ์-8 สูงกว่าเล็กน้อย 50 มม.

       และอย่างที่บอกว่าเบาะนั่งแถวที่ 3 ของซีเอ็กซ์-8 ใช้งานได้จริง นั่งได้สบายทีเดียว ทั้งความกว้างและพื้นที่วางขา พื้นที่ช่วงเข่า และพื้นที่เหนือศีรษะ

       ส่วนเบาะนั่งตำแหน่งอื่นๆ เบาะคู่หน้านั่งสบาย กระชับลำตัวเหมาะกับบุคลิกรถที่ให้อารมณ์สปอร์ต เพราะตัวผู้นั่งไม่เลื่อนไหล แม้ขับในเส้นทางคดโค้งที่มีแรงเหวี่ยงไปมา 

       ขณะที่เบาะนั่งแถวกลาง ซึ่งรุ่นที่ผมลองเป็นตัวท็อป มี 2 ที่นั่ง ขนาดเบาะเล็กกว่าเบาะคู่หน้าเล็กน้อย เหตุผลก็คือ การออกแบบให้พับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระเมือจำเป็น โดยจะต้องพับได้ราบเรียบมากที่สุด 

       เบาะคู่กลางนั่งสบายสู้คู่หน้าไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความนั่งไม่สบายนะครับ แค่บอกว่าสบายสู้คู่หน้าไม่ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมว่าไม่เกี่ยวกับความกว้าง หรือความหนาของตัวเบาะ เพราะถือว่ากว้างขวางพอควร แต่การออกแบบให้ดูกว้างนั้นไปลดการกระชับลำตัวเหมือนคู่หน้า ทำให้รู้สึกว่านั่งไปนานๆ แล้วตัวเราไม่อยู่ที่เดิม ทำให้ต้องขยับกันใหม่นั่นเองครับ 

       และที่เบาะหลังมีม่านบังแดดติดตั้งมาให้ด้วย รวมถึงช่องแอร์

     

 สำหรับเบาะนั่งของรุ่นนี้หุ้มหนัง Nappa สีแดง Deep Red กับสีดำ และเจาะรูขนาดเล็กเอาไว้ เพราะมันมีระบบอุ่นเบาะมาให้ด้วย ซึ่งในบ้านเราคงไม่ค่อยได้ใช้

       ส่วนภาพรวมในห้องโดยสาร โปร่ง โล่ง ออกแบบดูเรียบๆ ไม่รกตา จอมอนิเตอร์แบบลอยตัว บางคนบอกว่าเล็กเกินไป แต่ผมว่าแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว

       จอแสดงผลการขับขี่ ทีเอฟที แอลอีดี ขนาด 4.6 นิ้ว เห็นข้อมูลได้ชัดเจน

       ส่วนระบบและอุปกรณ์มาตรฐานสำคัญๆที่ติดตั้งมา เช่น มาสด้า คอนเนคท์ รองรับการใช้งานระบบต่างๆ รวมถึง แอ๊ปเปิ้ล คาร์เพลย์ ไฟหน้า อแดปทีฟ แอลอีดี ระบบแสดงภาพ 360 องศา ระบบเตือนจุดอับสายตา ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง 

       ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ รักษาระยะห่างจากคันหน้า ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบช่วยรถหยุออัตโนมัติขณะถอยหลัง เป็นต้น 

       สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ เป็นเครื่องยนต์ตัวเดิม ที่ปรับปรุงใหม่ กำลังสูงสุดขยับขึ้นจาก 175 แรงม้า เป็น 190 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดเพิ่มจาก 420 นิวตันเมตร เป็น 450 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที และเพิ่มกำลังอัดจาก 14:1 เป็น 14.4:1 ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 

       ช่วงล่างด้านหน้า อิสระแมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า ติดตั้งยางขนาด 225/55 R19

       ผมลองขับซีเอ็กซ์-8 เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย ผ่านเส้นทางที่หลากหลาย คือทั้งไฮเวย์ เส้นทางผ่านชนบท หมู่บ้าน และเส้นทางป่าเขา มีผู้ร่วมเดินทาง 4 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระขนาดย่อมๆ คนละใบ

       มาสด้ายังทำได้ดี กับจุดขายหลักก็คือ อารมณ์สปอร์ตในการขับขี่ และแม้จะเป็นเป็นที่มีขนาดใหญ่ แต่ยังมีความสามารถในการยึดเกาะถนนได้ดี เกาะโค้งได้แม่นยำช่วยให้ขับสนุก และเดินทางได้เร็ว พวงมาลัยแม่นยำสูง แม้จะดูว่ามีน้ำหนักเบาไปสักหน่อย ซึ่งคงตั้งมาให้เข้ากับภาพรวมของรถที่เน้นตอบสนองครอบครัวมากขึ้น 

       ส่วนระบบจี เวคเทอริง คอนโทรล ซึ่งรุ่นนี้ไม่ใช่พลัส เหมือนที่ใส่มาในมาสด้า 3 ใหม่ แต่ทำงานได้ดีพอ จากการขับขี่ในเส้นทางโค้งลดเลาะไปตามเขา แรงเหวี่ยงที่ชวนปวดหัวมีน้อย และการโยนตัวของตัวถังก็มีน้อย แม้ว่าจะเป็นรถในรูปแบบเอสยูวีที่มีความสูงใต้ท้องรถมากกว่ารถยนต์นั่งก็ตาม ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งได้สบายยิ่งขึ้น 

       ส่วนเครื่องยนต์ ตอบสนองการเดินทางครั้งนี้ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นทางราบหรือขึ้นเขา-ลงเนินก็ตาม อัตราเร่ง การเรียกกำลังตอบสนองได้ดี แม้จะไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าจี๊ดจ๊าด แต่ก็ไม่เอื่อยให้รำคาญ เรียกว่าทำให้ขับสนุกได้ และการเร่งแซง ไว้ใจได้ 

       การเก็บเสียงก็ทำได้ดี ไม่ถึงกับเงียบกริบ ที่ความเร็วเดินทางประมาณ 100-120 กม./ชม. ได้ยินเสียงยางเข้ามาบ้าง แต่ทั้งนี้ก็ขัึ้นอยู่กับสภาพถนนในช่วงนั้นๆ ด้วยเช่นกัน แต่ไม่ถึงกับก่อให้เกิดความรำคาญ และยิ่งหาเพลงเพราะเปิดผ่านระบบเสียงของ โบส ซาวด์ ในตัวท็อปตัวนี้ ก็ฟังเพลินๆ แหละครับ 

       โดยรวมจัดว่า ซีเอ็กซ์-8 เป็นรถที่ดีอีกคันหนึ่ง ขับแล้วประทับใจ ก็อย่างที่บอกครับว่ามันใช้งานได้ทั้งส่วนตัวก็ได้ที่ขับสนุก หรือจะใช้เป็นรถเอนกประสงค์ไปไหนมาไหนเป็นหมู่คณะก็ได้ครับ

***