'เอ็มจี เอชเอส' ...เร่งติดเท้า
เอ็มจี เอชเอส ขึ้นแท่น เบอร์ 1 รถคอมแพคท์ เอสยูวี ในการขาย 6 เดือนล่าสุด มาดูกันครับว่า อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้รถคันนี้ได้รับความนิยมสูง
เอ็มจี ออกมาประกาศล่าสุดว่า รถรหัสใหม่ล่าสุดของพวกเขา “เอชเอส” ที่เปิดตัวในเดือนกันยานยนปีที่แล้วประสบความสำเร็จอย่างสูง โดย พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือน หลังการเปิดตัว ระหว่างเดือนตุลาคม 2562 ถึงเดือนมีนาคม 2563 มียอดทั้งสิ้น 3,776 คัน ส่วนแบ่งตลาด 27% เป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม คอมแพคท์ เอสยูวี
อะไรคือสิ่งที่ทำให้เอชเอสได้รับการตอบรับดี ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากอุปกรณ์มาตรฐานที่ใส่มาให้จำนวนมาก และอีกสิ่งที่ได้เปรียบคู่แข่ง คือ ระดับราคาที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายกว่าคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าที่ต้องการรถเอสยูวี แต่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายหันมาเลือกเพิ่มขึ้น โดยเอชเอสมีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย ราคา 9.19 แสนบาท 1.019 ล้านบาท และรุ่นท็อป 1.119 ล้านบาท นอกจากนี้ในช่วงเปิดตัวยังมีแคมเปญส่วนลด 3.4 หมื่นบาท สำหรับลูกค้า 1,000 คันแรกอีกด้วย
ขณะที่คู่แข่งในตลาด เช่น มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 มีให้เลือก 3 เครื่องยนต์ เริ่มจากเบนซิน 2.0 ลิตร 165 แรงม้า 3 รุ่นย่อย ราคา 1.3-1.56 ล้านบาท เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 190 แรงม้า 2 รุ่นย่อย 1.57-1.79 ล้านบาท และ เบนซิน 2.5 ลิตร 231 แรงม้า ราคา 1.85 ล้านบาท
ฮอนด้า ซีอาร์-วี มีเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร 173 แรงม้า 4 รุ่นย่อย ราคา 1.359-1.549 ล้านบาท และเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร 160 แรงม้า 2 รุ่นย่อย ราคา 1.599-1.699 ล้านบาท หรือว่า นิสสัน เอ็กซ์เทรล มีเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 171 แรงม้า 2 รุ่นย่อย ราคา 1.35-1.666 ล้านบาท และ 2.0 ลิตร ไฮบริด 144 แรงม้า 2 รุ่นย่อย ราคา 1.617-1.537 ล้านบาท
ออปชั่นดี ราคาโดน การใช้งาน การขับขี่เป็นอย่างไร มาลองดูกันสักหน่อยครับ
ราคาเป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่ง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ด้านการออกแบบ เอชเอส ก็ทำได้ดี มีความสวยงาม สมส่วน ให้อารมณ์ทั้งหรูหรา และดูบึกบึน กระจังหน้า เอ็มจีบอกว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ออกแบบด้วยแนวคิด "Stella Magnetic Field" เป็นการได้แรงบันดาลใจมาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่ดึงดูดเข้าหากัน โคมไฟหน้าเน้นอารมณ์สปอร์ต เป็นไฟ แอลอีดี โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน เข้ากันได้ดี แต่ว่าไฟตัดหมอกผมว่าดูใหญ่ไปนิด อาจเป็นเพราะการออกแบบกรอบและตัวกันชนที่ยุบลงไปเป็นเบ้า มีขนาดค่อนข้างใหญ่
เส้นสายด้านข้างเรียบง่าย ดูดี ตัวถังดูมีมัดกล้าม ล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/50 R18 (รุ่น X) รูปทรงด้านท้ายโดยรวมดูดี หรูหรา แต่ถ้าปรับรูปทรงโคมไฟเพิ่มอารมณ์สปอร์ตอีกหน่อยน่าจะดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
เอชเอส มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะหลังนั่งสบายจากทั้งความกว้าง วัสดุ และการออกแบบเบาะเอง และหากนั่งแค่ 2 คน ก็ดึงเบาะกลางเป็นที่วางแขนได้ และยังพับได้แบบ 60:40 ซึ่งพับได้เรียบดี ทำให้ขนสัมภาระขึ้นลงได้ง่าย
หลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ ช่วยให้รู้สึกโปร่งโล่งยิ่งขึ้นเมื่อเปิดม่านกันแดดยามแดดร่มลมตก หรือค่ำคืน วัสดุภายในใช้วัสดุซอฟท์ทัชในหลายส่วน ช่วยให้สัมผัสสบาย และเพิ่มความสุนทรีย์ด้วยไฟในห้องโดยสารแบบ Interactive Ambient Light ที่มีแสงต้อนรับทันทีที่เปิดประตู และสามารถปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้ 64 เฉดสี และเปลี่ยนแบบอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่
มาตรวัดทำงานบนจอ Interactive Multi-Function Display ขนาด 7 นิ้ว ทแสดงข้อมูลทั้งการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง ซึ่งเลือกได้จากปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย ส่วนจอหลักกลางคอนโซลหน้าเแทบทัชสกรีน ขนาด 10 นิ้ว แสดงข้อมูลต่างๆ ได้ชัดเจน รวมถึงระบบนำทาง หรือภาพจากกล้องแบบ 360 องศา ซึ่งมีโหมดให้เลือกรูปแบบการแสดงภาพหลายรูปแบบตามใจชอบที่ปุ่มข้างๆ เกียร์
การเปิดรถ-ล็อกรถ สามารถกกปุ่มที่มือจับได้เลย การสตาร์ทเป็นแบบทุช สตาร์ท ส่วนฝากระโปรงท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
แน่นอน เอ็มจี ต้องมี ไอ-สมาร์ทมาให้ ซึ่งทำงานได้หลายอย่าง รวมถึงสมาร์ท คอมมานด์ ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่ควบคุมการโทรออก ควบคุมระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ ระบบเปิด-ปิดหน้าต่างฝั่งคนขับ เปิด-ปิดหลังคาซันรูฟ รวมถึงค้นหาจุดที่น่าสนใจ ผ่าน เนวิเกเตอร์ เป็นต้น
ผมลองเล่นแค่เล็กน้อย สั่งการเรื่องซันรูฟ เรื่องเพลง แต่เหมือนมันฟังผมไม่รู้เรื่อง เลยหันมาสั่งการผ่านทัชสกรีนแทน
เอชเอสใส่ระบบต่างๆเข้ามามากมาย อย่างด้านความปลอดภัยนั้นมีถึง 25 ระบบ เช่น ระบบควบคุม การเบรกขณะเข้าโค้งระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ
พร้อมกับติดตั้งถุงลมมาให้อีก 6 ตำแหน่ง
เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,700 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิงได้ถึง อี 85 ส่งผ่านกำลังผ่านเกียร์ ทีเอสที (Twin Clutch Sportronic Transmission) 7 สปีด สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตัวเองได้ทั้งที่คันเกียร์ และแป้นหลังพวงมาลัย
และในรุุ่น X สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 โหมด คือ โหมด Normal สำหรับการขับขี่แบบทั่วไป Eco เพื่อการประหยัดเชื้อเพลิงน โหมด Sport เพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่ และโหมด Custom ให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบที่ต้องการได้เอง และยังมีปุ่ม Super Sport สีแดงเด่นบนพวงมาลัยเพื่อเรียกกำลัง
เอ็มจี บอกว่า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ไม่ถึง 10 วินาที น่าสนใจทีเดียว หากเป็นไปตามสเปคนี้ ต้องถือว่าเป็นเอสยูวีที่จี๊ดจ๊าดเร้าใจทีเดียว
เมื่อลองขับจริง แม้จะไม่ได้นั่งจับเวลาอย่างจริงจัง แต่ความรู้สึกก็จับได้ว่ามันตอบสนองดีเลยครับ หากจะถามว่าอะไรคือจุดเด่นของ เอชเอส บางคนก็อาจจะพูดถึงออปชั่น หรือ ราคา แต่ผมว่าเครื่องยนต์นี่แหละที่น่าสนใจ
การตอบสนองของเครื่องยนต์รวดเร็ว ออกตัวได้ทันใจ แม้จะเลือกโหมด Normal ซึ่งก็เป็นโหมดหลักๆ ที่ผมใช้ตลอดการขับขี่เกือบๆ 300 กม. ซึ่งจริงๆ แล้วก็อยากลองให้มากกว่านี้ แต่ไม่มีเวลา ก็เลยต้องใช้พื้่นที่ในกรุงเทพฯ เลาะๆ ออกชานเมือง ไปแตะย่านสมุทรสาครเล็กน้อย
แม้จะมีผู้นั่งเต็มทุกที่นั่ง แต่เครื่องยนต์รองรับได้สบาย การเร่งแซงเรียกกำลังได้ตามต้องการ ยิ่งหากใช้โหมดสปอร์ต หรือ ซูเปอร์ สปอร์ต ยิ่งพูดได้ว่า “แรงติดเท้า” ครับ คือกดคันเร่งเมื่อไร กำลังมาเมื่อนั้น ช่วยให้รถขับได้สนุก
ช่วงล่างด้านหน้า แมคเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลัง มัลติลิงค์ เซ็ทออกไปทางนุ่มนวลเล็กน้อย ทำให้นั่งสบาย ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี แต่รถก็ทรงตัวนิ่ง และทางโค้งเกาะถนนได้ดีแต่จะรับรู้ถึงการโยนตัวของตัวถังบ้าง เมื่อใช้ความเร็วพอควร แน่นอนคอสปอร์ตอาจจะอยากได้ช่วงล่างแข็งกว่านี้เล็กน้อย แต่ว่าสายครอครัวน่าจะชอบอารมณ์แบบนี้
พวงมาลัยแม่นยำใช้ได้ น้ำหนักค่อนข้างเบาๆ ขับสบายๆ แต่หากจะเพิ่มน้ำหนักอีกเล็กน้อยที่โหมด Normal โดยไม่ต้องเลือก ซูเปอร์ สปอร์ต ก็น่าจะดี
ตำแหน่งผู้ขับขี่ นั่งสบาย เบาะกระชับลำตัว ทัศนวิสัยชัดเจน ตำแหน่งการควบคุมอุปกรณ์ทั้งมือและเท้าใช้งานง่าย
โดยรวมด้านการขับขี่ ถือว่า เอชเอส ทำได้ดีน่าพอใจ เป็นรถที่ขับง่าย และหาความสนุกได้จากเครื่องยนต์ครับ
*****