Mercedes ‘AMG E53’ คันเดียว ... ลงตัว
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ไปได้ดีกับตลาดรถสมรรถนะสูง “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” หลังจากตัดสินใจทำตลาดจริงจัง ทั้งการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพื่อดูแลตลาดนี้โดยเฉพาะ และการเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน เราหาเอเอ็มจี ได้ง่ายกว่ารถตลาดทั่วไปบางรุ่นด้วยซ้ำ
และสำหรับ “เอเอ็มจี อี 53 คูเป้ 4เมติก พลัส” ที่อยู่กับผมตอนนี้ ผมว่าเป็นหนึ่งในรถที่มีความลงตัวมาก ทั้งด้านรูปโฉม สมรรถนะ และการใช้งาน
เป็นรถที่ได้ทั้งหรู ได้ทั้งแรง ได้ทั้งสปอร์ต และความสะดวกสบาย เรียกว่าสามารถใช้งานได้ทั้งในชีวิตประจำวัน และการเดินทางท่องเที่ยว หรือพักผ่อนในวันหยุดได้ เพราะแม้จะเป็นรถที่ความแรง แต่การเซ็ทส่วนอื่นๆ ทำให้เป็นรถที่นั่งสบาย นุ่มนวล ไม่กระด้าง สั่นสะท้าน แต่ก็พร้อมรับม้าฝูงใหญ่ใต้ฝากระโปรง
พูดอีกอย่าง มันเป็นรถแรงที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน โดยไม่เคอะเขิน
แม้จะเป็นรถคูเป้ ที่มีข้อจำกัดของเบาะนั่งแถวหลัง คือ การมีประตูแค่ 2 บาน ทำห้ต้องเข้า-ออก ผ่านเบาะหน้ามา และหลังคาที่ลาดลง ทำให้ดูเหมือนว่าจะอึดอัด เนื่องจากพื้นที่ว่างเหนือศีรษะลดลง
แต่เอาเข้าจริงการใช้งานในห้องโดยสาร ไม่เสียหายอะไรมากมาย ทั้งจากการออกแบบบานประตูที่ความยาวเป็นพิเศษ และเปิดได้องศาที่กว้างมาก ดังนั้นเมื่อจะเข้าออกเบาะแถว 2 ก็แค่ดึงสวิทช์ที่หลังเบาะหน้า ครั้งเดียว ระบบไฟฟ้าก็จะทำงาน ด้วยการเอนเบาะไปด้านหน้า พร้อมกับเลื่อนไปข้างหน้า เปิดพื้นที่กว้างพอให้ขึ้นลง จากนั้นก็ดันเบาะกลับมา ระบบก็จะเอน และเลื่อนเบาะหน้ากลับไปสู่ตำแหน่งเดิม ไม่ต้องมาปรับมาตั้งกันใหม่แต่อย่างใด
ประตูที่กว้างทำให้เบาะนั่งคู่หน้ากับเสา บี อยู่ห่างกันพอควรครับ แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะเอื้อมไปดึงเข็มขัดนิรภัยสีแดงเร้าใจไม่ถึง เพราะจะมีก้านดันมาให้ด้านหน้า เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
และเมื่อเข้าไปนั่งเบาะหลัง แม้พื้นที่โดยรวมไม่กว้างนัก แต่พื้นที่ในส่วนผู้ที่นั่งต้องบอกว่านั่งได้สบาย ทั้งขนาด และรูปทรงการออกแบบ โดยตัวเบาะรองก้น เหมือนกับเป็นหลุมลงไปสักหน่อยช่วยให้นั่งแล้วผ่อนคลาย เบาะกระชับลำตัว ดึงที่พักแขนตรงกลางลงมา ก็ทำให้เพิ่มความสบายขึ้นไปอีก
พื้นที่วางขามี พื้นที่ช่วงเข่าเหลือ และพื้นที่เหนือศีรษะ ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดครับ
เรียกได้ว่า เป็นสปอร์ตตัวแรงที่ให้ความสบายในการเดินทางกับคน 4 คนครับ
ทั้งนี้หากไปดูขนาดตัวถังโดยรวมของรถ ถือว่าไม่เล็กครับ ความยาว 4,826 มม. ความกว้าง 1,860 มม. และสูง 1,430 มม.
เอเอ็มจี อี 53 ใช้เครื่องยนต์ เบนซิน 6 สูบเรียง เทอร์โบคู่ 3.0 ให้กำลังสูงสุด 435 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-5,800 รอบ/นาที และมีอีคิว บูสต์ แอสซิสต์ ให้กำลัง 22 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร มาช่วยเติมความแรงของอัตราเร่งอีกทาง
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด หรือ 9จี โทรนิค ไปขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์
การตอบสนองของเครื่องยนต์เร็วแรง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.จากข้อมูลบริษัทอยู่ที่ 4.5 วินาที แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ การขับขี่สามารถเรียกกำลังมาได้อย่างรวดเร็วในทุกย่านความเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ความเร็วต่ำ หรือสูงมากแค่ไหนก็ตาม ทำให้มันเป็นรถที่มีความกระฉับกระเฉงคล่องตัวมาก
แต่ว่าอย่าเพลินมากก็แล้วกันครับ กับสภาพจรจร และสภาพการขับขี่รถของคนในบ้านเราหลายคน อาจจะทำให้ต้องเหยียบเบรกกันแรงๆ จากรถที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่เบรกก็ทำงานได้ดีครับ รถนิ่ง และหยุดในระยะที่น่าพอใจมาก
ช่วงล่างแบบถุงลม ไปได้กับความแรงของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะขับอยู่ในโหมดไหนก็ตาม จะ คอมฟอร์ท สปอร์ต หรือ สปอร์ต พลัส ซึ่งก็เลือกได้ง่ายๆ จากปุ่มควบคุมที่อยู่บริเวณคอนโซลเกียร์
ทั้งช่วงล่าง และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาให้ผู้ขับรู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจน อันนี้ถือเป็นอีกจุดเด่นหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อพามันลุยไปตามเส้นทางคดโค้ง รถนิ่งมาก และรักษาตัวถังให้ขนานกับพื้นถนนตลอดเวลา อาการโยน หรือให้ตัวไม่มีให้รู้สึกเลย พวงมาลัยมีน้ำหนักพอควรและมีแรงขืน ซึ่งผมชอบ และทั้งหมดนี้มันทำให้ขับแล้วรู้สึกมั่นใจมาก
ส่วนโหมดการขับ ใช้แค่คอมฟอร์ท ก็ไปได้ทุกที่ทั่วไทย จะขึ้นเหนือล่องใต้ ขึ้นเขาลงห้วยก็ตาม แต่ถ้าสปอร์ต ก็จะเพิ่มร้อนแรง การตอบสนองเร็วขึ้น
และก็อย่างที่บอกตอนต้นครับว่า ไม่ใช่ความสนุกเท่านั้น แต่ยังเป็นรถที่ขับแล้วให้รู้สึกสบาย ไม่เครียด ไม่อึดอัด ขับได้เพลินๆ แม้ขณะนั้นรถจะพุ่งแหวกลม ลัดเลาะไปตามเส้นทางที่คดโค้งอยู่ก็ตามอย่างเร็วแรงก็ตาม
*****