มาสด้า CX-5 '2.5 Turbo' แรงเหลือ จัดจ้าน ขับง่าย

มาสด้า “ซีเอ็กซ์-5” เป็นรถที่มีจุดขายหลักคือ การเป็นรถ คอมแพคท์ เอสยูวี ที่ให้อารมณ์สปอร์ต ทั้งเรื่องของการออกแบบรูปทรง และการขับขี่

ปัจจุบันรถในตลาดนี้ มีให้เลือกมากขึ้น แต่ซีเอ็กซ์-5 ซึ่งเดินหน้าทำตลาดมาเรื่อยๆ ก็ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญ และรุ่นปัจจุบันที่จำหน่าย เป็นเจเนอเรชั่น 2 ซึ่งก็มีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล มีทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

ความเคลื่อนไหวล่าสุดคือ การเพิ่มตัวแรงเข้าสู่ตลาด นั่นคือ เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ด้วยค่าตัว 1.85 ล้านบาท

อย่างที่บอกว่า จริงๆ แล้ว ซีเอ็กซ์-5 ที่มีอยู่แต่เดิมก็เป็นรถที่ขับสนุก และเครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะตัวดีเซล แต่เมื่อเห็นสเปคของ 2.5 เทอร์โบ ก็ทำให้ความกระหายอยากจะลองกับมันสักตั้งเกิดขึ้นจนได้

แต่ก่อนอื่นไปดูกันก่อนว่ารุ่นอื่นๆ ที่ทำตลาดมาก่อนหน้านี้ของ ซีเอ็กซ์-5 มีอะไรบ้าง

เริ่มจากรุ่นเครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตร ห้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร

การมาของ ซีเอ็กซ์-5 2.5 เทอร์โบ ไม่ใช่เครื่องยนต์ใหม่เท่านั้น แต่ว่าไปดึงเอาจุดเด่นในตัวเดิมมาเติมเต็มยิ่งขึ้น นั่นคือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ที่มีอยู่ในรุ่นดีเซล และโหมดขับขี่แบบสปอร์ตในรุ่นเบนซิน

พูดง่ายๆ ก็คือ แต่เดิม รุ่นดีเซล มีเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ  แต่ไม่มีโหมดสปอร์ต ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน มีโหมดสปอร์ต แต่มีเฉพาะระบบขับเคลื่อน 2 ล้อเท่านั้น

ทีนี้มาดูกันว่า 2.5 เบนซิน เทอร์โบ เมื่อลองขับแล้วเป็นอย่างไร ซึ่งผมลองขับทั้งเส้นทางในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และก่อนที่จะไปคุยกันในรายละเอียด ผมสรุปรวบยอดให้ก่อนเลยว่า มันเหมือนกับให้นักเพาะกายกล้ามโตๆยกของที่หนัก 1 กก.

หมายถึงว่ามันทำอะไรก็ดูง่ายไปหมด ทั้งเรื่องของอัตราเร่ง เรื่องของการทำความเร็ว ในทุกๆ ความเร็ว

ผมชอบอารมณ์ในการตอบสนองของเครื่องยนต์ ซึ่งไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องตะบี้ตะบันขับครับ แต่การขับขี่ในเมืองที่รถหนาแน่น หรือขับขี่บนถนนแบบไปเรื่อยๆ หรือ การขับขี่กินลมชมวิว เพราะการตอบสนองที่รวดเร็วของเครื่องยนต์ทำให้รู้สึกดี เพราะรู้ว่ามันพร้อมที่จะพุ่งไปข้างหน้าทุกครั้งที่ต้องการ เช่น ช่วงการเปลี่ยนช่องทาง หรือ ช่วงที่ต้องเติมความเร็วในเส้นทางเล็กๆ ต่างจังหวัดที่มีรถหรือสิ่งของเกะกะกินเข้ามาในช่องทาง ทำให้ต้องเร่งเครื่องเพื่อพ้นปัญหาโดยเร็ว ก่อนจะกลับสู่ความเร็วแบบกินลมชมวิวกันต่อ

ยืนยันอีกครั้งว่าเครื่องยนต์แรงๆ ไม่จำเป็นจะต้องใช้ในการขับขี่ที่รุนแรง รวดเร็วเสมอไป

แต่ถ้าจะลองแรงๆ ลองความเร็วสูงๆ ก็ได้ ซึ่งเครื่องยนต์ตอบสนองได้ดี เรียกกำลังมาได้ในทุกย่านความเร็ว แทบไม่มีจังหวะหน่วงให้รู้สึก และก็รู้สึกได้ว่าเครื่องยนต์ไม่ได้ทำงานหนักอะไร ไม่ต้องเค้น รอบเครื่องก็ไม่เหวี่ยงขึ้นสูง

นี่เป็นการขับในโหมดธรรมดาครับ ส่วนโหมดสปอร์ตที่ให้มา คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ แต่เอาละ ถ้าใครอยากจะได้ความจี๊ดจ๊าดมากขึ้นไปอีก การตอบสนองคันเร่งรวดเร็วขึ้น จะใช้ก็ไม่ว่ากัน

ทางด้านระบบช่วงล่างนั้น ก็ต้องบอกว่าไปกันได้กับสมรรถนะเครื่องยนต์ การขับขี่ในเส้นทางต่างๆ ตัวรถนิ่ง การควบคุมทำได้อย่างรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ต้องเกร็ง กังวล และเมื่อบวกกับการที่รถมีทัศนวิสัยที่ค่อนข้างดีจากความสูงของตัวถัง ก็ช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินในการเดินทางมากยิ่งขึ้น เพราะเห็นเส้นทาง เห็นสิ่งแวดล้อมได้ไกลขึ้น กว้างขึ้น

ส่วนการขับขี่ในเส้นทางที่ต้องลัดเลาะไปตามโค้งต่างๆ  2.5 เทอร์โบ ก็ไม่ทำให้เสียชื่อชั้นมาสด้า การควบคุมรถทำได้ดี แม่นยำ และเกาะโค้งได้ค่อนข้างคมชนิดที่รถเก๋งบางคันยังอาย

การโยนตัวของตัวถังมีน้อย พวงมาลัยมีน้ำหนักพอควรในโค้ง และต้านมือแบบรู้สึกได้ บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่ผมว่าแบบนี้ดี เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และมันจะช่วยให้การควบคุมรถมั่นคงขึ้น แม่นยำ ดีกว่าพวงมาลัยเบาหวิวที่อาจจะทำให้ขาดเกินได้ในโค้งครับ

นั่นเป็นการช่วยให้การขับในเส้นทางที่ต้องเลาะโค้งไปมาเรื่อยๆ เป็นสิ่งที่ทำได้สนุก ยิ่งดึงกำลังของเครื่องยนต์มาใช้ในช่วงออกจากโค้งได้เร็ว ยิ่งทำให้สนุกมากขึ้นไปอีก

ซีเอ็กซ์-5 2.5 เทอร์โบ มีครูสคอนโทรล แบบรักษาระยะห่างจากคันหน้ามาให้ด้วย ซึ่งก็ช่วยลดความเมื่อยล้าในการยขับขี่ได้ แต่ในสภาพที่การจราจรหนาแน่นเกินไป เช่น ถนนพระราม 2 ที่บางช่วงรถเคลื่อนตัวช้า สลับหยุดนิ่ง อาจไม่สะดวกในการใช้งานนัก เพราะเมื่อความเร็วลดลงมาต่ำกว่าระบบจะตัดการทำงานอัตโนมัติ

รูปทรงของ ซีเอ็กซ์-5 ก็เป็นสิ่งที่คุ้นเคยกันดี สวยงาม และเน้นอารมณ์สปอร์ต ทั้งรายละเอียดส่วนประกอบต่างๆ และเส้นสายของตัวถังและแน่นอน ก็ยังเป็นจุดอ่อนสำหรับผู้ที่ต้องการห้องโดยสารที่ดูโปร่งโล่ง โดยเฉพาะเบาะนั่งด้านหลัง เมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่าง ฮอนด้า ซีอาร์-วี

แต่จริงๆ แล้ว มันก็แบ่งตลาดมาชัดเจนก่อนหน้านี้แล้ว และแบ่งลูกค้าชัดเจน ว่าใครชอบในรูปแบบไหน

แต่จะว่าไปเบาะนั่งด้านหลังก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร นั่งได้สบาย ที่วางเท้า หรือพื้นที่ช่วงเข่า ก็กว้างขวาง เ-พียงแต่ความรู้สึกโปร่งโล่งเหนือศีรษะจะน้อยกว่าคู่แข่งเท่านั้นเอง แต่ก็มีซันรูฟให้ช่วยเพิ่มความปลอดโปร่งได้ส่วนหนึ่ง

ขณะที่เบาะคู่หน้า นั่งได้สบาย เบาะผู้ขับขี่กระชับลำตัว ปรับตำแหน่งที่ถนัดได้ง่าย ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งด้วยเมือและเท้าได้ง่าย

ห้องโดยสารเก็บเสียงได้น่าพอใจ เครื่องเสียงของโบส พร้อมลำโพง 10 ดอก ให้คุณภาพเสียงดี ดูเป็นธรรมขาติ ไม่โหดหูเกินไป

ด้านออปชั่นต่างๆ ใส่เข้ามามากทีเดียว เช่น ด้านความปลอดภัย ติดตั้งถุงลม 6 ตำหน่ง ระบบเตือนการชนด้านหน้าระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ และระบบช่วยเบรกขณะถอยเมื่อพบว่ามีรถเข้ามาในพื้นที่เสี่ยง ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทาง ระบบควบคุมเสถียรภาพ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน กล้องแสดงภาพรอบคัน 360 องศา เป็นต้น

ไฟหน้าแอลอีดี ส่องไกล กว้าง เห็นชัดเจน ปรับสูงต่ำอัตโนมัติ ไฟท้ายเป็นแบบแอลอีดีมองเห็นชัดเจน เบาะนั่งหุ้มหนัง ปรับไฟฟ้า พร้อมระบบความจำตำแหน่งด้านผู้ขับ กระจกมองหลังตัดแสง รบการรบกวนจากแสงไฟรถคันอื่น

สรุปโดยรวมอีกครั้งสำหรับ 2.5 เทอร์โบ เรื่องของออปชั่นก็ให้มาเพียวพอ ขณะที่อารมณ์ของรถเป็นสิ่งที่ผมชอบ ทั้งช่วงล่างที่นิ่ง สนุกได้ในโค้ง เบรกก็มีประสิทธิภาพดี และอาการของรถขณะเบรกก็นิ่ง

เครื่องยนต์ช่วยให้ขับสนุก โดยไม่จำเป็นต้องขับเร็ว ขับช้าก็สนุกได้ แต่สิ่งเดียวที่อาจจะทำให้ผู้ซื้อต้องหยุดคิดสักนิดคือ อัตราสิ้นเปลือง ซึ่งที่ผมขับมีทั้งเร็ว ช้า และติดหนักๆ บนถนนพระราม 2 อัตราสิ้นเปลืองที่แสดงผ่านคอมพิวเตอร์ ออนบอร์ด อยู่ที่ 8.9 กม./ชม.

แต่จะว่าไปก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงความสนุกที่จะได้มาครับ

*****