อีซูซุ 'มิว-เอ็กซ์' เปิดตัวใหม่ อัดออปชั่น ฟื้นตลาด พีพีวี
ส่ง 4 รุ่นย่อย 2 เครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ลิตร เคาะราคาแนะนำ 1,109,000 – 1,591,000 บาท ก่อนปรับขึ้นปี 64
รถพีพีวี หรือรถที่ต่อยอดมาจากปิกอัพ เป็นตลาดที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เนื่อจากความเอนกประสงค์ในการใช้งาน และทนทาน ปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดนี้หลายยี่ห้อ
แต่ปีนี้ ช่วงเดือนมกราคม-กันยานยน ตลาดพีพีวี ไม่ดีนัก มียอดขายทุกยี่ห้อ 27,619 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 41.1% ซึ่งเป็นการติดลบที่มากกว่าค่าเฉลี่ยตลาดรถยนต์ที่ติดลบ 29.8%
อย่างไรก็ตาม “อีซูซุ” เชื่อว่าทิศทางตลาดที่เริ่มดีขึ้น จะทำให้ช่วงปลายปีมีโอกาสขยับตัวดีขึ้น และเชื่อว่าการเปิดตัว “มิว-เอ็กซ์” ใหม่ ลุยตลาด จะทำให้สถานการณ์ของอีซูซุดีขึ้น
ทั้งนี้ มิว-เอ็กซ์ ปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ ทั้งภายในภายนอก และอัดออปชั่นเต็มที่ เสริมจุดขาย เช่น ระบบระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง “ADAS” (Advanced Driver Assistance Systems) ทำงานโดยมี กล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ซึ่งทำให้ตรวจจับวัตถุต่าง ๆ ด้วยการสแกนภาพ 3 มิติ แบบเรียลไทม์ แม่นยำกว่าแบบกล้องเดียว กล้องจะทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุด รอบคัน
ทั้งนี้ ADAS ประกอบไปด้วย
- ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
- FCW (Forward Collision Warning) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า
- AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน
- AHB (Automatic High Beam) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมติ
- PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด
- MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง
- BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
- RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์
- Parking Aid System ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์
- MCB (Multi-Collision Brake) ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
ส่วนระบบความปลอดภัยพื้นฐานก็ใส่มาครบ ทั้งระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบช่วยเหลือการทรงตัว ระบบป้องการลื่นไถล ระบบข่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบช่วยลงทางลาดชัน เป็นต้น
มิว-เอ็กซ์ มาพร้อมไฟหน้า ไบ-แอลอีดี ไฟท้าย แอลอีดี ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ ไดนามิคดีไซน์ ขนาด 20 นิ้ว ในรุ่น Ultimate ขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น Elegant และ Luxury และขนาด 17” ในรุ่น Active
ภายในห้องโดยสาร ออกแบบคอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง เบรกมือไฟฟ้า ระบบ Auto Brake Hold
เบาะนั่งสี Saddle Brown ที่ใช้เทคโนโลยี COOLMAX ซึ่งจะช่วยลดการสะสมความร้อนลง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมซีเควนเชียล แพดเดิล ชิฟท์ ให้เปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตนเองง่ายๆ และยังมีแอมเบียนท์ ไลท์ กับ โดมไลท์ เอาไว้ช่วยสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ขณะทีประตูท้าย คราวนี้ใส่ระบบไฟฟ้าในการเปิด-ปิด ช่วยผ่อนแรงลงได้เยอะ และมีระบบแจม โปรเทคชั่น ป้องกันอันตรายและความเสียหายกรณีคนหรือสิ่งของไปขวางการปิด
ส่วนรายละเอียดภายในห้องโดยสารอื่นๆ เช่น
- เบาะนั่งสามแถว ออกแบบให้นั่งสบายทั้ง 7 ที่นั่ง พร้อมปรับพับได้หลากหลายรูปแบบตามการใช้งาน
- เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง
- ระบบความบันเทิง ISUZU Ultimate Entertainment หน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto (เฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับการใช้งาน) พร้อมลำโพง 8 จุด ให้มิติเสียงรอบทิศทาง
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5
- Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย ทั้ง USB Fast Charger ช่องต่อ AC Power Socket 220V และช่องต่อ DC 12V
- กุญแจ ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start และใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า
ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone ออกแบบจุดยึดปีกนกด้านบนใหม่ พร้อมคอยล์สปริง โช้คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension
เครื่องยนต์มีทั้งดีเซล 3.0 Ddi Blue Power และ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 เกียร์ มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนที่มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ
ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มีRough Terrain Mode โดยทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ
สำหรับราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 1,109,000 – 1,591,000บาท โดยเป็นราคาช่วงแนะนำ ถึงสิ้นปี 2563 จากนั้นจะพิจารณาปรับขึ้นในปี 2564 เป็นต้นไป