ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 Max … ลิตเติ้ล แร็พเตอร์
ฟอร์ด ขยับตัวตลาดปิกอัพ ส่งรุ่นย่อยใหม่ เรนเจอร์ FX4 Max เจากลุ่มออฟโรด ใช้แรงบันดาลใจจากรุ่นพี่อย่าง “แร็พเตอร์” เคาะราคา 1,189,000บาท
ฟอร์ด ปิดปี 2563 ไม่ดีนัก ด้วยยอดขายรถปิกอัพ 24,508 คัน ลดลง 43.6% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ภาพรวมตลาดรถปกอัพติดลบ 15.5%
อย่าไงรก็ตาม เริ่มต้นปี 2564 ฟอร์ด ทำได้ค่อนข้างดี โดยเดือน มกราคม มียอดขาย 1,952 คัน เพิ่มขึ้น 15.1% ขณะที่ภาพรวมตลาดปิกอัพ ติดลบ 14.2%
เมื่อเข้าเดือนสู่เดือน 3 ก่อนที่จะถึงเทศกาลงานขายต้นปี อย่างงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ฟอร์ด ขยับตัวอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว FX4 Max ทีออกแบบมาสำหรับกลุ่มผู้ใช้รถออฟโรด โดยฟอร์ดระบุว่าแนวคิดการพัฒนารถรุ่นนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากปิกอัพออฟโรดสมรรถนะสูง “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” ที่ได้รับการชื่นชมจากคอออฟโรด หรือครอส คันทรี อย่างมาก
สิ่งที่มีกลิ่นอายของแร็พเตอร์ เช่น การปรับช่วงล่างใหม่ ใช้ช็อคแอบซอร์เบอร์ของ FOX Shock ซึ่่งได้รับการพัฒนามาเป็นพิเศษ เป็นช็อคแอบซอร์เบอร์แบบโมโนทิวบ์ขนาด 2 นิ้ว ทั้งด้านหน้าและหลัง โดยโช้คหลังมาพร้อมกับ Sub-Tank ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับแรงกระแทกและเพิ่มความทนทานในการใช้งานแบบออฟโรด
ด้านหน้าทำงานคู่กับคอยล์สปริงที่ปรับจูนใหม่และการควบคุมความสะเทือน ด้านหลังช็อคแอบซอร์เบอร์ไไขว้เพื่อรองรับการบรรทุกสัมภาระ แน่นอนทำงานคู่กับแหนบ ไม่ใช่คอยล์สปริงเหมือนแร็พเตอร์ เพราะเป็นข้อกำหนดของปิกอัพ หากยังต้องการเสียภาษีรถปิกอัพไม่ใช่รถยนต์นั่งที่สูงกว่าแบบแร็พเตอร์ แต่ฟอร์ดระบุว่าเป็นแหนบที่ออกแบบมาใหม่ให้เหมาะกับแนวคิดของตัวรถ
ทั้งนี้ ช่วงล่างหากเทียบกับ FX4 ก็ปรับจูนใหม่ให้เหมาะกับการขับขี่แบบออฟโรด รวมถึงการใช้ยางออลเทอร์เรน KO2 จาก BF Goodrich เช่นเดียวกับ แร็พเตอร์ ด้วยยางขนาด 265/70 R17 ติดตั้งบนล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 17 x 8 นิ้ว ทั้งด้านหน้าและหลัง ออฟเซ็ท +42 มม. ทำให้ฐานล้อกว้างขึ้น 26 มม. ขณะที่ล้ออะไหล่เป็นล้ออัลลอยพร้อมยางออลเทอร์เรนเช่นกัน
ทั้งนี้ล้ออัลลอยใช้สีเทาเข้ม ล้อไปกับกระจังหน้า และรายละเอียดภายนอกอื่นๆ ที่สีเดียวกัน ติดตั้งคิ้วล้อดีไซน์ใหม่เพื่อเน้นความโดดเด่นของฐานล้อที่กว้างขึ้น
ทั้งนี้การปรับแต่งช่วงล่างและแชสซีส์เป็นผลงานของวิศวกร ฟอร์ดในประเทศออสเตรเลีย ดินแดนที่นิยมใช้ปิกอัพเช่นเดียวกับไทย และมีชื่อเสียงเรื่องออฟโรด ซึ่งมีผลงานพัฒนา แร็พเตอร์ และฟอร์ด เรนเจอร์รุ่นอื่นๆ มาแล้ว
ช่วงล่างของฟอร์ด เรนเจอร์ FX4 Max โดยรวม ยกสูงขึ้น 20 มม. เมื่อบวกกับการใช้ยางออลเทอร์เรน ทำให้ฟอร์ดเรนเจอร์ FX4 Max มีระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground clearance) 256 มม. ซึ่งสูงกว่ารุ่น XLT และยังมีมุมเงยและมุมจากที่ถูกยกระดับขึ้นจากรุ่น XLT เพื่อตอบสนองการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อได้อย่างเต็มที่
“FX4 Maxใหม่สะท้อนแรงบันดาลใจจากฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ทั้งด้านรูปลักษณ์และสมรรถนะตอบโจทย์ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตแบบพร้อมลุยด้วยระบบช่วงล่าง แชสซี เป็นรถที่แต่งเสร็จมาจากโรงงาน โดยพัฒนาต่อยอดจากเรนเจอร์ FX4 รุ่นก่อนหน้า รวมถึงการเพิ่มความโดดเด่นที่แตกต่างด้วยอุปกรณ์พิเศษ ที่ไม่เหมือนใคร” วิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
สิ่งที่ เรนเจอร์ FX4 Max ได้รับแรงบันดาลใจมาจากฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมีอีก เช่น
- กระจังหน้าที่มาพร้อมชื่อฟอร์ด ด้วยด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ F-O-R-D ซึ่งเป็นรูปแบบที่ ฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ใช้
- อุปกรณ์ตกแต่งภายนอกสีเทาเข้มตั้งแต่ฝาครอบกระจกมองข้าง มือจับประตู ซุ้มล้อ กันชนท้าย
- ด้านหลังตกแต่งด้วยโรลบาร์สีดำยาวตลอดกระบะท้าย
- บันไดข้างออกแบบใหม่ให้ดูดุดัน พร้อมพื้นผิวกันลื่นสำหรับการใช้งานออฟโรด
ด้านระบบส่งกำลัง ฟอร์ดเรนเจอร์ FX4 Max ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด500 นิวตันเมตรสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 981 กก. และลากจูงได้สูงสุด 3,500 กก.
เข้ามาดูภายในห้องโดยสาร FX4 Max มีสิ่งที่แตกต่างไปเช่น
- ผ้ายางปูพื้นที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานแบบออฟโรดโดยเฉพาะ
- เบาะนั่งพิเศษเฉพาะฟอร์ดเรนเจอร์ FX4 Max ใช้วัสดุหนังแท้ หนัง Alcantara และหนังสังเคราะห์ใหม่ที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ รวมถึงการปักสัญลักษณ์ FX4 Max บนเบาะคู่หน้า
- แป้นเหยียบคันเร่งสไตล์สปอร์ตแบบเดียวกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
- พวงมาลัยหุ้มด้วยหนังสีดำ สีเดียวกับลวดลายตกแต่งแผงคอนโซลและขอบประตู
นอกจากนี้ยังมีระบบหรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น
- ระบบ Keyless Entry/Push Start
- หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
- ระบบนำทาง
- ะระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay
- ช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด Upfitter Switch พร้อมช่องต่อ AUX 6 ตำแหน่งเพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อและควบคุมการใช้งานอุปกรณ์เสริมต่างๆ อาทิ ชุดไฟ วินซ์ และไฟสปอตไลท์ พร้อมติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 250 แอมป์เพื่อรองรับการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เสริมลดการพึ่งพาแบตเตอรีภายในรถ
ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 5 สี ประกอบด้วย
- สีน้ำเงินไลท์นิ่งบลู
- สีแดง ทรูเรด
- สีขาว อาร์กติกไวท์
- สีดำ แอบโซลูทแบล็ค
- สีเทา คองเคอร์ เกรย์ (สีเดียวกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์) แต่ถ้าใครอยากได้สีนี้ ต้องรอเดือน มิ.ย.