เปิดโผ 17 ดีลเลอร์ แรก 'เกรท วอลล์'

คืบหน้าไปอีกขั้นสำหรับ “เกรท วอลล์” ยักษ์ใหญ่จากจีน น้องใหม่ในตลาดประเทศไทย หลังเข้าซื้อโรงานผลิตที่ระยองจากเจเนอรัล มอเตอร์ส  หรือว่า จีเอ็ม ที่ถอนทัพออกจากไทย

โดยขณะนี้ เกรทวอลล์ ส่งทัพยนต์หลายรุ่น ทั้งรถต้นแบบ “คอนเซ็ปท์ เอช” รถเอสยูวี “ฮาวาล เอช 6” รถพลังงานไฟฟ้า “โอร่า แบล็คแคท” และ “โอร่า กู๊ด แคท” รวมถึงรถปิกอัพ พลังงาน ไฟฟ้า  “POER EV” เข้าแสดงในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ แต่ยังไม่มีการเปิดรับจอง หรือว่ากำหนดราคาจำหน่ายแต่อย่างใด โดยเกรทวอลล์ ระบุว่า เป็นการสร้างการรับรู้กับตลาดก่อน  รวมถึงใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมอื่นๆ ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 2 

การเตรียมความพร้อม รวมถึงการสร้างเครือข่ายการจำหน่ายและบริการ โดยเบื้องต้นกำหนดเปิดให้บริการให้ได้ 30 แห่ง ภายในปีนี้ 

ล่าสุด เกรทวอลล์ ลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ กลุ่มแรก เพื่อเปิด “Partner Store” ซึ่งเกรทวอลล์ จะใช้คำนี้ ไม่ใช่ ดีลเลอร์ โดย พาร์ทเนอร์ สโตร์ จะมีทั้งโชว์รูมและศูนย์บริการ รวม 17 แห่ง แบ่งเป็น

• กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 แห่ง
• ชลบุรี 3 แห่ง
• ระยอง 1แห่ง
• เชียงใหม่ 1 แห่ง
• ขอนแก่น 1 แห่ง
• นครราชสีมา 1 แห่ง
• สงขลา 1 แห่ง
• ภูเก็ต 1 แห่ง

"ณรงค์ สีตลายน" กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากจัดงาน “GWM Partner Forum” ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มนักลงทุน และนักธุรกิจทั้งในและนอกอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มาฟังกลยุทธ์และนโยบายการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ของบริษัท มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เพื่อนำมาออกแบบและปรับแผนการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ 

ล่าสุดเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้คัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มแรกที่มีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในทิศทางเดียวกัน ร่วมลงนามความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน เพื่อนำร่องเปิด Partner Store กลุ่มแรก

“นอกจากการสำรวจ ความคิดเห็น เก็บข้อมูลความต้องการของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเปิดใจรับฟัง ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ นักลงทุน และนักธุรกิจ ทั้งในและนอกอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อออกแบบประสบการณ์ใหม่ หรือ New User Experience เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล การเปรียบเทียบรุ่นรถ การทดสอบรถ การเลือกซื้อรถ การขอสินเชื่อ การส่งมอบรถและการบริการหลังการขาย ผ่านรูปแบบ O2O (Online-To-Offline)"

ทั้งนี้ไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่จะนำ New User Experience เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผู้บริโภค

*****