ศูนย์บริการ เชฟโรเลต พร้อมเปิดบริการ 88 แห่ง
เชฟโรเลต ประกาศพร้อมศูนยฺ์บริการหลังการขาย ลูกค้า เชฟโรเลต และรถยนต์ยี่ห้ออื่น ทั่วประเทศ
เจเนอรัล มอเตอร์ส์ หรือ จีเอ็ม ประกาศถอนตัวจากเมืองไทย ทั้งการผลิตและจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลต มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา พร้อมกับการขายโรงงานผลิต 2 โรง ที่จังหวัดระยอง ให้กับผู้เล่นหน้าใหม่ รายใหญ่จากจีน “เกรทวอลล์”
อย่างไรก็ตาม ช่วงของการประกาศเลิกทำตลาดในไทย เชฟโรเลต ยืนยันว่าลูกค้าเชฟโรเลต จะยังคงได้รับการดูแลต่อไป ทั้งการรับประกันสินค้า หรือว่าการซ่อมบำรุง ด้วยหน่วยธุรกิจบริการหลังการขายรูปแบบใหม่
ล่าสุด “วันชนะ อูนากูล” ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายบริการหลังการขายและส่งออก บริษัท เชฟโรเลตเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ ศูนย์บริการมาตรฐานรูปแบบใหม่ของเชฟโรเลต 88 แห่งทั่วประเทศ พร้อมให้บริการกับลูกค้าแล้ว โดยจะใช้อะไหล่แท้ของเชฟโรเลต และ “เอซีเดลโก้”
“เรายังคงรักษาคำมั่นว่าจะยังคงดูแลรถยนต์เชฟโรเลตของลูกค้าทุกท่านอย่างต่อเนื่อง ด้วยบริการจากช่างผู้ชำนาญและอะไหล่แท้ผ่านศูนย์บริการมาตรฐานรูปแบบใหม่ของเชฟโรเลต”
โดยศุนย์บริการรูปแบบใหม่ ประกอบไปด้วย
- ภาคเหนือ 11 สาขา
- ภาคตะวันออกเฉียงหนือ 29 สาขา
- ภาคกลาง 18 สาขา
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล 18 สาขา
- ภาคใต้ 12 สาขา
ก่อนหน้านี้ เชฟโรเลตออกมาระบุว่า ตัวแทนจำหน่ายเดิมที่มีอยู่ทั้งหมด 86 ราย ทั้งแบบ 3 เอส (Sale Service Sparepart) 82 ราย และ 2 เอส (Service Sparepart) ได้เซ็นสัญญาเพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการหลังการขายครบทุกราย โดยเรียกว่า Authorized Service Outlet (ASO)
และนอกจากดีลเลอร์ปัจจุบันทั้ง 86 ราย แล้ว ยังแต่งตั้งรายใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 2 รายที่ลำปาง และร้อยเอ็ด ดังนั้นลูกค้ามั่นใจได้ว่า เราจะมีศูนย์บริการอย่างน้อย 88 แห่งหลังจากนี้” วันชนะกล่าว
เชฟโรเลตยังบอกก่อนหน้านี้อีกว่าในนาคตอาจมี ASO เพิ่มขึ้น เพราะเป็นรูปแบบธุรกิจที่มีโอกาสสร้างรายได้ในอนาคต
เพราะแม้ไม่มีรถใหม่ แต่รถเก่ายังจำเป็นจะต้องใช้บริการดูแลรักษานอกจากนี้ และที่สำคัญก็คือ รูปแบบของ ASO ไม่ได้จำกัดอยู่แค่จำกัดการให้บริการรถยนต์เชฟโรเลตเท่านั้น แต่จะเปิดกว้างกับรถยนต์ทุกยี่ห้อ พูดง่ายๆ ก็คือ เอเอสโอ จะดำเนินธุรกิจคล้ายกับ "ฟาสต์ฟิต" บวกกับ "อู่ซ่อมรถ"
และจุดแข็งอีกสิ่งหนึ่งคือ อะไหล่สำหรับการให้บริการ เป็นอะไหล่เอซี เดลโก้ธุรกิจชิ้นส่วนและอะไหล่ในเครือ จีเอ็ม ที่ปัจจุบันมีสินค้าแพร่หลายรองรับรถยนต์หลายยี่ห้อ ทำให้มีการผลิตจำนวนมากและส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิต
ซึ่ง เอเอสโอ จะใช้ อะไหล่ เอซี เดลโก้ เป็นหลัก โดยบริษัทจะเป็นผู้จัดหาให้แต่หากไม่มีก็สามารถใช้อะไหล่ยี่ห้ออื่น โดยบริษัทจะเป็นจัดหา เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพของอะไหล่ที่ให้บริการด้วย หรือบางรายการที่เฉพาะของรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ที่เข้ามาใช้บริการ แต่ละศูนย์ก็สามารถจัดหาเองได้
ทั้งนี้ปัจจุบัน เชฟโรเลต ประเทศไทย เป็นผู้บริหารอะไหล่ เอซี เดลโก้ ไม่เฉพาะในไทย แต่ยังส่งออกไปอีก 30 ประเทศ โดยคลังอะไหล่อยู่ที่อยุธยา ซึ่งล่าสุดได้ขยายพื้นที่เพิ่มเติมจาก 1.75 หมื่น ตร.ม. เป็น 2.95 ตร.ม. และมีมูลค่าสินค้าเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่า จากปี 2561
สำหรับรูปแบบ เอเอสโอ จะมีทั้งการใช้พื้นที่ศูนย์บริการเดิม และ การสร้างเป็นศูนย์ สแตนด์ อะโลน