ปอร์เช่ รุกอีวี อีกขั้น ผลิต เซลล์แบตเตอรี ประสิทธิภาพสูง

ปอร์เช่ รุกอีวี อีกขั้น ผลิต เซลล์แบตเตอรี ประสิทธิภาพสูง

รองรับตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) ขยายตัว หลังประสบความสำเร็จในการทำตลาด ไทคานน์ (Taycan) เบื้องต้น ผลิตความจุ 100 MWh

หลังจาก ปอร์เช่ หันมาเล่นในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี ด้วยการเปิดตัว อีวี รุ่นแรกของค่ายอย่าง ไทคานน์ (Taycan) 2 รุ่นย่อย คือ ไทคานน์ เทอร์โบ และไทคานน์ เทอร์โบ เอส ที่ได้รับการตอบรับมากมายในตลาดทั่วโลก ผู้ผลิตรถสปอร์ตจากเยอรมนี ก็ก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น ด้วยการออกมาประกาศการลงทุน สร้างโรงงานผลิตเซลล์ แบตเตอรี ประสิทธิภาพสูง

แน่นอนว่า การตอบรับที่มีต่อ ไทคานนต์ อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น 2 รุ่น แรก หรือ รุ่นย่อยอื่นๆ ที่เปิดตัวตามมา ไม่ว่าจะเป็น ไทคานน์ 4 เอส และล่าสุด ที่ใช้ ขื่อสั้นๆ ไทคานน์ ซึ่งเป็นรุ่นราคาเริ่มต้น ขับเคลื่อนล้อหลัง ขณะที่ 3 รุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้านั้น ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็มีผลต่อการขยายการลงทุน

แต่มากไปกว่านั้น เชื่อว่าในอนาคต ปอร์เช่ ก็จะขยายตลาด อีวี อย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามทิศทางของโลก ที่มุ่งไปด้านนี้มากขึ้น

การลงทุนผลิตเซลล์แบตเตอรีครั้งนี้ เป็นไปในรูปแบบการเข้าไปในลงทุนในบริษัทพันธมิตร คือ Cellforce Group GmbH

“เซลล์แบตเตอรี่ คือแหล่งพลังงานแห่งอนาคต ในฐานะหน่วยธุรกิจย่อยของปอร์เช่ Cellforce Group จะรับหน้าที่สำคัญในการผลักดันให้เกิดการค้นคว้าวิจัย การพัฒนา การผลิต และการจัดจำหน่ายเซลล์แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง” โอลิเวอร์ บลูเม ประธานกรรมการบริหาร ปอร์เช่ กล่าว

162510841388

เบื้องต้นมีเป้าหมายผลิตแบตเตอรี่อย่างต่ำ 100 MWh ซึ่งรองรับการใช้งานในรถยนต์ อีวี ประสิทธิภาพสูง1,000 คัน

สำหรับ แบตเตอรี ประสิทธิภาพสูงสนั้น ปอร์เช่ระบุว่า สูตรทางเคมีของเซลล์แบตเตอรี่แบบใหม่ มีพื้นฐานมากจากสารซิลิคอนที่เป็นวัสดุในการผลิตขั้ว anode ด้วยคุณสมบัติของวัสดุดังกล่าว มีความเป็นไปได้ที่จะยกระดับความหนาแน่นของพลังงานให้มากยิ่งขึ้น

เมื่อเปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน เซลล์แบตเตอรี่สามารถเก็บพลังงานได้ในปริมาณเท่าเดิม แต่มีขนาดที่เล็กลง คุณสมบัติทางเคมีแบบใหม่ ช่วยลดความต้านทานไฟฟ้าภายในแบตเตอรี่ลง ซึ่งจะทำให้สามารถกักเก็บพลังงงานได้มากขึ้น เมื่อมีการชาร์จแบบย้อนกลับ หรือ energy recuperation

นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จแบบเร็ว หรือ fast charging ให้ดีขึ้นอีกด้วย รวมถึงความเสถียรที่ดีกว่าเมื่อทำงานในอุณหภูมิสูง