ซูซูกิ ‘สวิฟท์ จีแอล พลัส’ อัพเกรด ชุดแต่งสปอร์ต

ซูซูกิ สวิฟท์ (SWIFT) ถือเป็นอาวุธสำคัญของซูซูกิ ในการต่อสู้กับตลาด อีโค คาร์ แม้ว่า ปัจจุบัน ซูซูกิ จะมีรถทำตลาดนี้หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น เซียส (CIAS) หรือ ว่า เซเลริโอ (CELERIO) ก็ตาม แต่ตัวขับเคลื่อนหลักๆ คือ สวิฟท์

สวิฟท์ เป็นรถที่ลูกค้าซูซูกิ ชื่นชอบมานาน ตั้งแต่สมัยยังไม่ได้โดดเข้าร่วมโครงการ อีโค คาร์ วางเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และเมื่อขยับเข้าสู่อีโค คาร์ ก็ยังเป็นรถที่ได้รับความนิยมในวงกว้างเช่นกัน

สวิฟท์ เริ่มต้นทำตลาดในไทยมาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งเมื่อนับรวมถึงปัจจุบัน สวิฟท์ มียอดขายสะสม 139,477 คัน

สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุด ซูซูกิ เสริมตลาด เปิดตัว “สวิฟท์ จีแอล พลัส” (GL PLUS) เป็นรุ่นพิเศษ ที่อัพเกรดอารมณ์สปอร์ตให้มากขึ้นกว่าเดิม เป็นการสานต่อ “จีแอล แม็กซ์ อีดิชั่น” (GL MAX EDITION) ที่ถือว่าได้รับความนิยมไม่น้อยหลังเปิดตัวในปี 2563 ที่ผ่านมา

มิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า GL MAX EDITION ได้การตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าที่นิยมรถแต่งที่เป็นไปได้มากกว่ารถยนต์ทั่วไป ดังนั้นบริษัทจึงมั่นใจว่า จีแอล พลัส จะเข้ามาเป็นตัวช่วยเสริมทัพอีโคคาร์ของซูซูกิให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในปีนี้

วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด ระบุวา สวิฟท์ จีแอล พลัส รุ่นตกแต่งพิเศษมา ออกแบบด้วยแนวคิด “เร้าใจเต็มสปีดสุดขีดสไตล์พลัส” เป็นการพัฒนาขึ้นมามาจาก สวิฟท์ จีแอล (SWIFT GL) ด้วยชุดแต่งที่ออกแบบมาเป็นพิเศษรอบคัน เช่น

• ชุดสเกิร์ตรอบคัน
• สปอยเลอร์หลัง
• เสาอากาศครีบฉลาม
• ซุ้มล้อสีดำ
• ชุดสติกเกอร์ลายใหม่

ส่วนภายในยังคงเดิม ที่ซูซูกิ มองว่าเป็นการออกแบบที่ผู้บริโภคชื่นชอบอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape เพิ่มพื้นที่วางขาปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งทรงสปอร์ตที่โอบกระชับลำตัว จึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร

สำหรับ สวิฟท์ จีแอล พลัส ใช้เครื่องยนต์รหัส K12M เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่ (DUALJET) รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20

• กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
• แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที
• เกียร์อัตโนมัติ CVT

ส่วนแพลทฟอร์มตัวเก่ง คือ HEARTECT เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ พัฒนาโดยเน้นให้มีน้ำหนักลดลง ช่วยทำให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น และมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ส่วนโครงสร้างตัวถัง TECT ซูซูกิระบุว่าจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวรถ และระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือนและลดเสียงรบกวนจากภายนอก

ส่วนระบบช่วยเหลือการขับขี่ ระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น

• TCS ระบบช่วยควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่น หรือทางโค้ง
• ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ (ESP)
• ระบบเบรก ABS
• ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Hold Control)
• ระบบ IDLING STOP เพื่อช่วยลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
• ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า

ซูซูกิ สวิฟท์ พลัส มี 6 สีให้เลือกคือ สีแดงAblaze Red Pearl, สีน้ำเงินSpeedy Blue Metallic, สีเทาStar Silver Metallic, Mineral สีเทาเข้มGray Metallic และ สีดำSuper Black Pearl

ราคาจำหน่าย 567,000 บาท ส่วนสีขาว Pure White Pearl อยู่ที่ 572,000 บาท

ส่วนรายการส่งเสริมการขาย ซูซูกิ จัดกับสวิฟท์ทุกรุ่นย่อย คือ ข้อเสนอผ่อนขำระเริ่มต้น 3,333 บาท/เดือน หรือจะเลือกรับอัตราดอกเบี้ย 1.99% ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่ง 15,000 บาท แถมประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน