ORA Good Cat อัดออปชั่นแน่นคัน วิ่งไกลสุด 500 กม. คาดราคาเริ่มต่ำล้าน

ORA Good Cat อัดออปชั่นแน่นคัน วิ่งไกลสุด 500 กม. คาดราคาเริ่มต่ำล้าน

เกรท วอลล์ พร้อมเปิดตัว โอร่า กู๊ดแคท (ORA Good Cat) อย่างเป็นทางการวันที่ 29 ตุลาคม โดย กู๊ดแคท มี 2 ขนาด แบตเตอรีให้เลือก รวม 3 รุ่นย่อย พร้อมอัดออปชั่นทั้งความบันเทิง ระบบช่วยขับ ความปลอดภัยมาเต็มคัน

เป็นกระแสที่ผู้คนให้ความสนใจมาก ในการเปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์ซื้อรถ “โอร่า กู๊ดแคท” รถพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นการครั้งแรกในประเทศไทย 
โดยนับตั้งแต่เกรท วอลล์ ประกาศเปิดให้ลงทะเบียน ก็พบว่ามีผู้สนมากมาย โดยภายใน 24 ชั่วโมงแรก มีผู้ใช้สิทธิ์แล้ว 4,296 คัน 
เพราะผู้ที่ใช้สิทธิ์จองล่วงหน้า จนถึงเวลา 18.00 น. วันที่ 29 ตุลาคม 2564 จะได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่าง เช่น ฟรีดอกเบี้ย 48 เดือน แถมประกันภัย แถมเครื่องชาร์จ และอื่น รวมถึงการบริการต่างๆ เบ็ดเสร็จแล้วมูลค่ากว่า 2.2 แสนบาท 
ที่สำคัญคือ การจองสิทธิ์ไม่มีค่าใช้จ่าย และหากรถเปิดตัวแล้ว ราคาไม่ถูกใจ ผู้ลงทะเบียนจะไม่ซื้อก็ได้ ไม่มีการผูกมัดใดๆ 
โอร่า เป็หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ในเครือเกรท วอลล์ มอเตอร์ ธุรกิจหลักคือ การพัฒนาอีวี มีอายุไม่มากนัก โดยเกรท วอลล์ เปิดตัวแบรนด์นี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2561 หรือแค่ 3 ปีนิดๆ เท่านั้นเอง 

ORA Good Cat อัดออปชั่นแน่นคัน วิ่งไกลสุด 500 กม. คาดราคาเริ่มต่ำล้าน
แต่แนวทางการบริหารงานของเกรทวอลล์ ก็เลือกที่จะก้าวให้ทันโลกยุคใหม่อย่างรดวเร็ว ด้วยการรดมทีมงานมืออาชีพทั้ง ทีมวิจัยและพัฒนา นักออกแบบ มาจากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี ออสเตรีย สหรัฐ ญี่ปุ่น รวมถึงเกาหลีใต้

เกรท วอลล์ เริ่มต้นรุกตลาด โอร่า ในบ้านเกิดเป็นแห่งแรก ด้วย โอร่า แบล็ค แคท (Black Cat) ปลายปี 2561 โดยแบล็ค แคท สามารถขับขี่ได้ 405 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง และภายใน 2 ปี มียอดขายในจีนมากกว่า 100,000 คัน 
จากนั้นกลางปี 2563 เปิดตัว ไวท์ แคท (White Cat) ในรูปแบบ 5 ประตู สามารถขับขี่ได้มากกว่า 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง 
ส่วนพระเอกของเรา กู๊ด แคท (ORA Good Cat) ที่จะลงตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ 29 ตุลาคมนี้  เผยโฉมครั้งแรกในงาน เฉิงตู มอเตอร์โชว์ ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563

กู๊ด แคท เป็นรถในรูปแบบ แฮทช์แบ็ค เน้นรูปทรงโค้งมน ย้อนยุค 
ขนาดตัวถังจะจัดอยู่ในกลุ่ม บี-เซ็กเมนต์ ซึ่งหากเทียบกับรถแฮทช์แบ็ค ยอดนิยมในบ้านเราขณะนี้ อย่างฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ค แล้ว กู๊ดแคทมีความยวาวตัวถังที่สั้นกว่าซิตี้ แฮทช์แบ็ค
แตที่น่าสนใจคือ กู๊ด แคท กว้างกว่า และมีฐานล้อที่ยาวกว่า แน่นอน การที่รถยกเครื่องยนต์ออกไป ทำให้การออกแบบแพลทฟอร์มทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งรวมถึงการจัดวางตำแหน่งฐานล้อต่างๆ รวมถึงการออกแบบภายในห้องโดยสาร


ทั้งนี้ กู๊ด แคท มีมิติตัวถังคือ 
•    ยาว 4,235 มม.
•    กว้าง 1,825 มม. 
•    สูง 1,596 มม. 
•    ความยาวฐานล้อ 2,650 มม. 
•    น้ำหนัก 1,510 กก.

ORA Good Cat อัดออปชั่นแน่นคัน วิ่งไกลสุด 500 กม. คาดราคาเริ่มต่ำล้าน

โดยมีจำหน่ายรวม  3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย  

  • ORA Good Cat 400 TECH 

มี 2  สี คือ  สีดำ สีขาว  ภายในเบาะผ้าสีดำ

  • ORA Good Cat 400 PRO

มี 5 สี ให้เลือกคือ สีแดงหลังคาดำ สีขาวหลังคาดำ สีฟ้า สีดำ และ สีขาว ภายในเบาหนังสีดำ

  • ORA Good Cat 500 ULTRA

มี  7 สี ได้แก่ สีเขียวหลังคาขาว สีเบจหลังคาน้ำตาล สีแดงหลังคาดำ สีขาวหลังคาดำ สีฟ้า สีดำและสีขาว 
ภายในมี 3 สี ได้แก่ สีดำ (เบาะหนัง) สำหรับทุกตัวเลือกสีภายนอก ยกเว้นเลือกตัวรถสีเขียวหลังคาขาวที่ภายในเป็นสีเขียว/เทา (เบาะหนัง) และตัวรถสีเบจหลังคาน้ำตาลภายในจะเป็นสีเบจ/น้ำตาล (เบาะหนัง) 

ORA Good Cat อัดออปชั่นแน่นคัน วิ่งไกลสุด 500 กม. คาดราคาเริ่มต่ำล้าน

 

ORA Good Cat อัดออปชั่นแน่นคัน วิ่งไกลสุด 500 กม. คาดราคาเริ่มต่ำล้าน

ออปชั่นหลักๆ ที่มากับรถ ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light และไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home)
ไฟท้าย LED ไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลังแบบ LED
ล้ออัลลอยสปอร์ต  ขนาด 18 นิ้ว สำหรับรุ่น PRO และ ULTRA ส่วน TECH ใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว 
ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระแมคเฟอร์สันสตรัทและหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง 

ภายในห้องโดยสาร ติดตั้งหน้าจอ Interactive Double Screen หน้าจอพาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถขนาด 17.25 นิ้ว จอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมีเดียพร้อมระบบสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว ติดตั้งลำโพง 6 ดอก
ระบบสั่งการด้วยเสียง ควบคุมได้ทั้งเครื่องปรับอากาศ ระบบนำทาง ซันรูฟ และมัลติมีเดีย 
ระบบเชื่อมต่อโครงข่ายระยะไกล ช่วยให้เปิด-ปิดการชาร์จ เครื่องปรับอากาศ ปิดหน้าต่าง ได้จากระยะไกล เบาะปรับไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่น Welcome Seat ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้า-ออกจากรถได้ง่าย และระบบเบาะนวดไฟฟ้า เบาะหลังพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดเป็น 858 ลิตร

หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ฟังก์ชั่นอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงในรถยนต์ เช่น การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฟังเพลง วิดีโอ 
ระบบกรองอากาศ PM2.5  เกียร์ระบบ Electronic Shifter เพื่อลดขนาดพื้นที่คอนโซลกลาง ระบบชาร์จไร้สาย (Wireless Charging)
การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์ (FOTA) การตอบโต้ด้วยเสียงผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่สามารถจดจำเสียง ช่วยลดการใช้งานปุ่มกด
รองรับ Apple CarPlay และ Siri รองรับ Android Auto และ Google Assistant ระบบนำทาง รองรับแอปพลิเคชั่นเพลง เช่น JOOX 

ORA Good Cat มีแบตเตอรี 2 ขนาดความจุ คือ

  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 47.788 kWh ระยะทางใช้งานสูงสุด 400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ในรุ่น 400 TECH และ 400 PRO
  • แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary (NMC) ความจุ 63.139 kWh ใช้งานได้สูงสุด 500 กิโลเมตร ในรุ่น 500 ULTRA

การชาร์จไฟ หากชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0 - 80%) ใช้เวลา 45 นาที สำหรับรุ่น 400 และ 60 นาที สำหรับรุ่น 500 
ชาร์จแบบเร็ว (30 - 80%) ใช้เวลา 32 นาที สำหรับรุ่น 400 และ 40 นาที สำหรับรุ่น 500 
ชาร์จด้วยไฟบ้านกระแสสลับ (AC) ใช้เวลา  8 ชั่วโมง สำหรับรุ่น 400 และ 10 ชั่วโมง สำหรับรุ่น 500 

ORA Good Cat อัดออปชั่นแน่นคัน วิ่งไกลสุด 500 กม. คาดราคาเริ่มต่ำล้าน

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor

  • ให้กำลังสูงสุด 105 kW หรือ 143 PS
  • แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร
  • ความเร็วสูงสุด 152 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน  3.8 วินาที

มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 5 โหมดคือ มาตรฐาน  Sport   ECO  ECO+ และ  อัตโนมัติ 

ด้านออปชั่น เพื่อช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัย ประกอบด้วย 
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย (Driver Assistance and Safety Systems) 
สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับ L2+ ประกอบด้วย

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI การเบรกฉุกเฉินความเร็วต่ำ เมื่อเรดาร์ทำงาน จะตรวจสิ่งกีดขวางทั้งที่หยุดนิ่งหรือคนเดินถนนที่เคลื่อนที่ในแนวถอยจอด (ความเร็วไม่เกิน 8 กม./ชม.) หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชน ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติ
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) 
การควบคุมการเข้าโค้ง (Intelligent Turn) เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย 
ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) โดยเมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูง ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา 

ORA Good Cat อัดออปชั่นแน่นคัน วิ่งไกลสุด 500 กม. คาดราคาเริ่มต่ำล้าน

ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IAP) ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือ แนวเฉียง ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) 
ติดตั้ง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง  และระบบโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน เป็นต้น 

ส่วนราคาจำหน่าย จะเปิดเผยอย่างเป็นทางการวันที่ 29 ตุลาคม แต่ก็ประเมินกันว่าน่าจะอยู่ในระดับ 900,000-1,200,000 บาท
ส่วน อีวี ที่จำหน่ายในบ้านเราขณะนี้ และมียอดขายเป็นกอบเป็นกำ คือ เอ็มจี อีพี (MG EP) ราคาเริ่มต้น 9.88 แสนบาท 
โดยเอ็มจี อีพี เป็นรถในรูปแบบตัวถังที่แตกต่างไป คือ สเตชั่น แวกอน และมีน้ำหนักที่มากกว่า กู๊ดแคท คือ 1,574 กิโลกรัม
 ติดตั้งแบตเตอรี ความจุ 50.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับขี่ได้ 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร