อาวดี้ RS 5 Coupe Quattro ดุแบบนี้ ดิบนิดหน่อย ไม่ชอบได้ไง
พูดถึงรถสปอร์ต หลายคนอยากมีขับสักคัน แต่หลายคนก็ต้องการมากไปกว่านั้น คือ ต้องขับขี่ได้ทุกวัน ใช้งานได้ทั่วไป ใช้งานได้สะดวก จึงเกิดแนวคิดพัฒนารถทั่วไปให้มีสมรรถนะที่ร้อนแรงขึ้น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี รวมถึง อาวดี้ อาร์เอส 5 คูเป้ ควอทโทร (Audi RS5 Coupe Quattro)
อาวดี้ (Audi) มีรถในกลุ่มนี้ที่รู้จักกันดีคือ Audi RS (อาวดี้ อาร์เอส) ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมหลายรุ่น รวมถึงการทำตลาดในไทย ไม่ว่าจะเป็น RS4, RS5 Coupe, RS6, RS8, RS Q3, RS Q8 หรือว่า TT RS Coupe เจ้าโรดสเตอร์คันแรง
และสำหรับ RS 5 Coupe Quattro ค่าตัว 5.99 ล้านบาท ที่อยู่กับผมวันนี้ จัดเป็นรถที่คนให้ความสนใจมากทีเดียว หลายคนชื่นชอบการออกแบบของมันที่ดูล้ำสมัย มีเอกลักษณ์ สวยงาม และมีความโฉบเฉี่ยวดุดันในตัว
เป็นผลผลิตจากแผน “อาวดี้ สปอร์ต” ซึ่งมีหน้าที่หลักคือ การพัฒนารถสมรรถนะสูง ถ่ายทอด ดีเอ็นเอ จากแทรค มาสู่ท้องถนนให้ได้อย่างกลมกลืน
และไม่ใช่แค่การโมดิฟายด์จาก A5 Coupe หรือ ปรับแต่งเครื่องยนต์ให้แรง แต่ว่าเป็นการพัฒนาทั้งระบบ ตั้งแต่เรื่องของวัสดุ เช่น การสรรหาวัสดุน้ำหนักเบา แข็งแรง
โครงสร้างของ RS5 Quattro เลือกใช้อลูมิเนียมในหลายส่วนๆ เพื่อรีดน้ำหนักทำให้เครื่องยนต์ถ่ายทอดสมรรถนะได้เต็มที่ ซึ่งถ้าเทียบกับรุ่นเดิม มันเบาลง 65 กก. ถือว่าไม่น้อย โดยน้ำหนักตัวโดยรวมอยู่ที่ 1,655 กก.
การออกแบบภายในห้องโดยสาร สอดคล้องกับโครงสร้างด้านนอก ดูล้ำสมัย เลือกใช้เส้นสายที่คม และเต็มไปด้วยเหลี่ยมมุม ซึ่งน่าจะรก แต่กลับไม่รก
เบาะนั่งมีความแข็งแต่นั่งสบาย โอบกระชับลำตัว เดินทางไกลดีไม่เมื่อยล้า ทัศนวิสัยดี แม้จะเป็นรถคูเป้ แต่มุมมองด้านหลังผ่านกระจกมองหลัง ชัดเจน ตำแหน่งควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ถนัดมือ ยกเวันการเลือกโหมดขับขี่ที่ผมบอกไปตั้งแต่ต้นว่าอยู่ไกลไปนิด
ท่านั่งออกแบบมาได้ เติมอารมณ์สปอร์ตได้ก่อนขับ แป้นเหยียบต่างๆ และการวางเบาะให้มีศูนย์ถ่วงต่ำ ดึงให้เท้าต้องยันไปด้านหน้า แต่ยืนยันได้ว่าสรีระคนไทย ไม่มีปัญหากับระยะเหยียบ
ส่วนเบาะนั่งแถวหลัง ผู้ใหญ่นั่งได้สบาย มีพื้นที่วางเท้า พื้นที่ว่างช่วงเข่า และพื้่นที่เหนือศีรษะเพียงพอ มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง
และหากมองทะลุเบาะหลังออกไป จะพบว่าห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายมีพื้นที่เยอะกว่าที่คาดเอาไว้ และฝาท้ายเปิดได้ด้วยการแหย่เท้าไปใต้กันชนหลังเท่านั้น
สำหรับออปชั่นหลักๆ ไฟหน้า แมทริกซ์ แอลอีดี ไฟขับขี่กลางวันแอลอีดี ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนม้ติ กระจกมองหลัง กระจกมองข้างปรับลดแสงอัตโนมัติ
ซันรูฟ เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระ 3 โซน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เบาะนั่งคู่หน้ามีระบบนวด ฝั่งคนขับมีระบบบันทึกตำแหน่ง เบาะหลังพับได้แบบแยก เพิ่มความสะดวกในการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่
ระบบ MMI Navigation PLUS มอนิเตอร์แบบ ทัชสกรีน ขนาด 10.1 นิ้ว ระบบ อาวดี้ สมาร์ทโฟน อินเตอร์เฟซ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า หรือ HUD มาตรวัด เวอร์ชวล คอคพิท ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว เห็นข้อมูลชัดเจน ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อ บลูทูธ ช่องเชื่อมต่อยูเอสบี เครื่องเสียงคุณภาพดีจาก แบง แอนด์ โอลุฟเซ่น
ส่วนระบบความปลอดภัย เช่น ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC) เบรกมือไฟฟ้า ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Audi pre sense basic) ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหลัง (Audi pre sense rear)
ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา ระบบแจ้งเตือนรถตัดผ่านขณะถอยหลัง ระบบตรวจจับความเคลื่อนด้านข้างและด้านท้ายพร้อมแจ้งเตือนเมื่อจะเปิดประตู เซ็นเซอร์กะระยะช่วยจอด ติดตั้งถุงลม 6 ตำแหน่ง ที่คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลม เป็นต้น
อาวดี้ RS 5 มาพร้อม เครื่องยนต์เบนซิน วี 6 เทอร์โบคู่ ระบบฉีดตรง ความจุ 2.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 450 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตรส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ทิปทรอนิค 8 สปีด และแน่นอนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro และใช้ยางสปอร์ตซีรีส์ต่ำ 275/30 R20
ช่วงล่าง RS Sports มีโหมดขับขี่ให้เลือก ทั้ง Auto, Comfort และ Dynamic แต่ผมว่าตำแหน่งปุ่มปรับเลือกระบบห่างมือไปสักหน่อย แต่อาวดี้ยังมีอีกโหมดหนึ่งให้ใช้งาน คือ RS Mode เรียกใช้ได้ง่ายด้วยปุ่มซึ่งติดตั้งบนพวงมาลัย
แต่ขับได้สนุกทุกโหมด แต่ถ้าชอบเสียงดุๆ พร้อมการตอบสนองของเครื่องยนต์แบบโหมดๆ ก็เลือก Dynamic จะได้รับการตอบสนองทันที
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ดุดัน เวลา 3.9 วินาที เพียงพอที่สร้างอารมณ์หลังติดเบาะได้ง่ายๆ ส่วนความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. และมีแพคเกจเสริม เพิ่มเป็น 280 กม./ชม. แต่เท่าที่มีโอกาสลองกับพื้นที่ที่มี ทำได้ไม่ถึง แต่ก็ใกล้เคียง
จุดเด่นก็คือ เครื่องยนต์ตอบสนองได้รวดเร็ว ขณะที่ช่วงล่างก็ทำงานได้เนียน ยึดเกาะถนนแบบไว้ใจได้ และช่วงการลองขับก็เจอกับสายฝนที่ยาวนาน ซึ่ง quattro ช่วยเรื่องนี้ได้เยอะ
แต่จะว่าไปแล้วอารมณ์ของ RS 5 มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่น้อย การเคลื่อนที่ของรถให้ความรู้สึกได้ว่าเคลื่อนไปทั้งคัน โดยเฉพาะการขับขี่ในทางโค้ง
หลายจังหวะกับความเร็วพอประมาณ ดูคล้ายๆ ว่าท้ายดิ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ดิ้นออก และพร้อมให้เราเติมน้ำหนักเท้าได้อีก มันทำให้ดูเหมือนรถมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา คอสปอร์ตถ้าได้ลองแล้วคงมีไม่มากนักที่จะไม่ชอบมัน
แต่กับถนนหนทางในบ้านเราที่ไม่เรียบกริ๊บแบบออโต้บาห์น ต้องยอมรับว่า ช่วงล่างค่อนข้างกระด้าง โดยเฉพาะเมื่อเจอกับสภาพผิวถนนที่ไม่เรียบ ขรุขระ เป็นคลื่นเป็นลอน แต่ใครจะไปสนเรื่องนี้ล่ะ อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่ง
ส่วนผู้โดยสาร จะถูกใจหรือไม่ ต้องลองถามไถ่กันดู หรือถ้าจะตัดสินใจซื้อไม่ซื้อ ก็ชวนกันไปลองทั้งผู้ขับ ผู้โดยสาร เพื่อหาฉันทามติให้ได้
เกี่ยวกับสมรรถนะ การควบคุมรถ เครื่องยนต์กระฉับกระเฉง ช่วงล่างแน่นๆ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบก็คือ พวงมาลัยเริ่มตั้งแต่วัสดุหุ้มที่ใช้อัลคันทาร่าที่หนืดมือ ไม่มีทางที่จะลื่นได้ง่ายๆ และอาวดี้เลือกหุ้มแบบบางๆ ให้ความรู้สึกว่าพวงมาลัยแข็งๆ กระชับ
การควบคุมมีความหนืดมีแรงต้านจากพวงมาลัยที่ชัดเจน ช่วยให้คุมรถได้ดี โดยเฉพาะเมื่อกำลังใช้ความเร็วทะเลาะกับโค้ง ซึ่งทำให้รู้ถึงอาการของล้อกับผิวถนนว่าเป็นเช่นไร ตรงนี้ผมชอบมาก เพราะถ้าพวงมาลัยเบาๆ ไม่ต้องออกแรงมาก การจับอารมณ์ตรงนี้จะลดลงไปอย่างแน่นอน
และมีแพดเดิล ชิฟท์ ติดตั้งที่พวงมาลัย เผื่อใครอยากจะเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง
ส่วนระบบเบรกแบบ RS กับคาลิปเปอร์เบรกที่เด่นเห็นแต่ไกลด้วยสีแดงก็เซ็ทมาได้ดี เหมาะกับความแรง และอัตราเร่งที่เร้าใจ ตอบสนองรวดเร็ว แน่นๆ ขณะที่อาการของตัวรถเป็นธรรมขาติขณะเบรก
โดยรวมต้องยอมรับว่า RS 5 Coupe quattro เป็นรถที่ขับสนุก และมีความดิบในตัวเล็กน้อย เหมาะกับผู้ที่ชอบขับรถ และชื่นชอบรถที่ถ่ายทอดอารมณ์สปอร์ตได้เป็นธรรมชาติ
แต่ถ้าใครชอบการขับกินลมชมวิว ขับทางไกล ไปเรื่อยๆ เพลินๆ ไม่เมื่อยไม่ล้า คันนี้ก็ตอบสนองได้ดีเช่นกันครับ ผมลองมาแล้ว