DFSK Glory 560 ค่าตัวไม่แรง เครื่องยนต์-ช่วงล่าง ดีกว่าที่คิด
ดีเอฟเอสเค (DFSK) อีกหนึ่งแบรนด์รถจากจีน ที่เข้ามาหวังสร้างฐานการตลาดไนไทย ผ่านตัวแทนจำหน่าย บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด โดยเริ่มต้นกับรถ 2 รุ่น คือ กลอรี่ 560 และ กลอรี ไอ-ออโต้ เนื่องจากเห็นว่าตลาดเอสยูวี กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
ตลาดเอสยูวี ได้รับความนิยม โดยเฉพาะกลุ่มรถขนาดเล็ก หรือ บี-เอสยูวี ที่ปัจจุบันมีรถให้เลือกหลายยี่ห้อ ทั้งรายเดิมและรายใหม่
กลุ่มนี้ ตลาดรถจากจีนเข้ามามีบทบาทไม่น้อย เริ่มจาก เอ็มจี ที่ส่ง แซดเอส เข้ามาทำตลาดเมื่อหลายปีก่อน และได้รับการตอบรับไม่น้อยทีเดียว ตามมาด้วย เกรท วอลล์ ที่เปิดตัว ฮาวาล โจไลอ้อน ไฮบริด เอสยูวี ปลายปีที่แล้ว และก็ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน
ทั้ง 2 รุ่น มีแนวทางการทำตลาดคล้ายๆ กัน คือ ใส่ออปชั่นเยอะ แต่ราคาเข้าถึงได้ง่าย
ในตลาดยังมีรถจากจีนอีก 1 รุ่น นั่นคือ DFSK (ดีเอฟเอสเค) โดย บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ตัวแทนจำหน่าย ที่ส่ง GLORY 560 เข้าชิงชัยในตลาดในราคา 7.49 แสนบาท พร้อม แพกเกจ บำรุงรักษาฟรี 5 ปี หรือ 1 แสน กม.
เอสยูวี 7 ที่นั่งคันนี้ ผลิตจากโรงงานอินโดนีเซีย ตลาดที่นิยมเอสยูวีขนาดเล็ก ซึ่งปัจจุบันก็มีรถหลายๆ รุ่นที่ทำตลาดในบ้านเรา
Glory 560 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จ ขนาด 1,499 ซีซี. รองรับเชื้อเพลิง อี85 ได้ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตรที่ 1,800-4,000 รอบ/นาที เกียร์ ซีวีที ขับเคลื่อนล้อหน้า
ช่วงล่างด้านหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชันบีมพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนเบรกให้มาเป็น ดิสก์เบรก 4 ล้อ ติดตั้งยางขนาด 217/60 R17 พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า
ดูจากสเปคที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคนิค ไม่เลวทีเดียว
เครื่องยนต์ทำงานได้ดีครับ รถมีความกระฉับกระเฉงชัดเจน การตอบสนองของอัตราเร่งทำได้อย่างที่ตั้งใจ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ได้มากทีเดียว ทั้งเส้นทางหลัก และเส้นทางรอง
ขณะที่ช่วงล่าง นิ่งใช้ได้ และจัดการกับโค้งได้ดี การเกาะถนนให้ความมั่นใจในการขับขี่ รวมถึงโค้งแคบๆ ก็ยังคุมรถได้ไม่ยาก แม้จะเป็นรถในรูปแบบเอสยูวี มีความสูง แต่ก็ยังเติมอารมณ์สปอร์ตในการขับขี่
ทั้งการตอบสนองของเครื่องยนต์ และช่วงล่าง ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้ครับ อารมณ์เหมาะกับคนที่ชอบขับรถ ที่ขับแล้วไม่เกร็งไม่เหนื่อย แม้จะต้องผ่านเส้นทางที่ต้องลัดเลาะไปมา โค้งซ้ายโค้งขวาอยู่ตลอดเวลาก็ตาม
พวงมาลัยก็เซ็ทได้ดี ความแม่นยำสูงทีเดียว แน่นอนมีส่วนช่วยได้มากในการขับขี่ ส่วนน้ำหนักถ้ามองกลาง ก็ไม่หนักไม่เบาเกินไป แต่ถ้าใครที่ชอบอารมณ์สปอร์ต น่าจะอยากได้มากกว่านี้สักหน่อย
ทัศนวิสัยเห็นได้ชัดเจนทุกมุม ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง หรือว่าด้านหลัง เมื่อรวมกับการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ดี ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ ทำให้การเดินทางเป็นไปแบบผ่อนคลาย
ตัวถังกว้างขวาง การออกแบบดูร่วมสมัย ยกเว้นด้านท้ายที่ผมว่าดูธรรมดาไปนิด แต่ก็เป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว หลายคนอาจจะคิดไปอีกแบบก็ได้
ขณะที่ภายในห้องโดยสาร โปร่งโล่ง เบาะนั่งแถว 2 นั่งสบาย พื้นที่มากพอ สำหรับรถในตลาด บี-เอสยูวี ส่วนเบาะนั่งคู่หน้ามีพื้นที่โดยรอบที่ให้ความรู้สึกกว้างขวางเช่นกัน เบาะนั่งได้สบาย กระชับลำตัว
แต่สำหรับตำแหน่งผู้ขับขี่ เมื่อรวมกันทั้งเบาะ พวงมาลัย ตำแหน่งแป้นเหยียบต่างๆ อาจจะดูเหมือนยังขาดๆ เกินๆ เล็กน้อย ในการปรับให้เหมาะสมที่สุด ที่ต้องขับไปปรับไปอยู่หลายรอบ จนกว่าจะชินกับมัน ปัญหาก็ค่อยๆ หายไป ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากพวงมาลัยที่ปรับได้เฉพาะขึ้น-ลง เลื่อนเข้า-ออก ไม่ได้
ส่วนเบาะแถว 3 เข้า-ออกไม่ยาก จากการพับ และเลื่อนเบาะแถว 2 ถ้าถามว่านั่งได้ไหม ตอบว่านั่งได้ครับ ผู้ใหญ่ก็นั่งได้ แต่แน่นอนถ้าต้องเดินทางไกลๆ หรืออยู่บนรถนานๆ อาจจะเมื่อยล้าได้สำหรับเบาะนั่งแถว 3 คงจะต้องใช้วิธีสลับตำแหน่งกันนั่งบ้าง
เรื่องของออปชั่น DFSK ใส่มาให้พอตัว ด้านนอก มีไฟขับขี่กลางวัน แอลอีดี ไฟตัดหมอก ราวหลังคา เสาอากาศครีบฉลาม
ติดตั้งจอแสดงข้อมูลเอชดี ทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ใช้งานง่าย
หน้าปัดแสดงข้อมูลชขับขี่เป็นแบบ เรืองแสงสีน้ำเงิน เติมความหรู เบาะนั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง ผู้โดยสารด้านหน้า 4 ทิศทาง เป็นการปรับมือ ไม่ใช่ไฟฟ้า
เบาะแถวที่ 2 พับได้ 60/40 มีที่ท้าวแขนพร้อมที่วางแก้วตรงกลาง แบบพับเก็บได้ หากต้องการนั่ง 3 คน เบาะแถว 3 พับแยกได้ แบบ 50/50 ซึ่่งช่วยให้สามารถใช้พื้นที่ในห้องโดยสารได้หลากหลาย ยืดหยุ่น เมื่อต้องบรรทุกสิ่งของสัมภาระ อาจจะพับแล้วไม่ราบเรียบสนิทเสียทีเดียว แต่ก็ไม่น่ามีปัญหากับการใช้งาน
และมีช่องแอร์สำหรับเบาะนั่งแถว 2 ด้วย
DFSK Glory ยังมีการออกแบบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ถือว่าดีสำหรับการใช้งาน สำหรับครอบครัว เช่น ที่วางแก้ว วางขวด มีเยอะหลายจุด และรองรับทุกตำแหน่งเบาะนั่งทั้ง 3 แถว
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ระบบ Keyless สำหรับเปิด-ปิด รถ และสตาร์ทรถ กระจกไฟฟ้า โดยฝั่งคนขับเป็นแบบอัตโนมัติ กระจกมองช้างปรับไฟฟ้า พับอัตโนมัติ เมื่อล็อครถ เซ็นทรัลล็อค เบรกมือไฟฟ้า
ด้านความปลอดภัย มีระบบต่างๆ เช่น
- ระบบช่วยเบรก (EBA)
- ระบบควบคุมการลื่นไถล (TCS)
- ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ (ESP)
- ระบบป้องกันการไหลทางลาดชัน (HHC)
- ระบบเซ็นเซอร์จอดรถพร้อมกล้องมองหลัง
- ถุงลมคู่หน้า
- ระบบเบรก ABS + EBD
- ระบบตัดสตาร์ทพร้อมเสียงเตือนภัยเมื่อถูกจารกรรม
ส่วนคุณภาพวัสดุ และการประกอบ อาจจะไม่เนี๊ยบมากนัก แต่อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี ซึ่งใครที่สนใจ ไปลองดูตัวจริงเพื่อตอบคำถามด้วยตัวเอง จะดีที่สุด และแน่นอนรวมถึงการหาโอกาสลองขับ ซึ่งอาจจะทำให้ได้คำตอบที่ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ
โดยรวมถ้าถามว่ารถคันนี้ตอบโจทย์ไหม ไมว่่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป หรือตอบโจทย์ครอบครัว ผมว่าก็ได้อยู่ครับ สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถโดยไม่มีภาระค่าใช้จ่ายกับตัวรถมากนักกับค่าตัว 7.49 แสนบาท และยังให้ความรู้สึกในการขับที่ดี