SKR โชว์กำไร Q2/65 พุ่ง 17.14% ควัก 165 ล้าน เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.08 บาท
SKR โชว์ผลงานไตรมาส 2/65 รายได้รวม 1,348.70 ล้านบาท กำไรสุทธิ 171.73 ล้านบาท เติบโต 17.14% ลุยพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์เพิ่ม ด้านบอร์ดไฟเขียว จ่ายปันผลระหว่างกาล อัตราหุ้นละ 0.08 บาท
นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKR เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/65 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 1,348.70 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 150.48 ล้านบาท หรือเติบโต 12.56% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,198.22 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 171.73 ล้านบาท หรือเติบโต 17.14% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำไว้ 146.59 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด 0.08 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินประมาณ 165 ล้านบาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 ส.ค. 2565 กำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 8 ก.ย. 2565
ขณะที่ผลประกอบการครึ่งแรก ปี 65 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,100.97 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,196.08 ล้านบาท จำนวน 904.89 ล้านบาท หรือ 41.20% และมีกำไรสุทธิ 553.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 241.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 129.53%
โดยผลประกอบการไตรมาส 2/65 เติบโตทั้งรายได้และกำไรสุทธิ มีปัจจัยสนับสนุนมาจากบริษัทมีรายได้จากการรักษาพยาบาลทั้ง ลูกค้าทั่วไป ประกอบด้วย ลูกค้าเงินสด ลูกค้าประกัน และลูกค้าบริษัทคู่สัญญาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะปริมาณการรักษาพยาบาลของกลุ่มคนไข้รักษาโรคเฉพาะทางด้วยการผ่าตัด รวมถึงกลุ่มผู้เข้ารับบริการโดยใช้สิทธิประกันสังคมเพิ่มขึ้น และโครงการภาครัฐต่างๆ เช่น การให้บริการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ด้วยวิธี ATK และออกใบรับรองแพทย์สำหรับแรงงานต่างด้าว สำหรับศูนย์พิจารณาอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร อนุญาตให้ทำงาน และออกเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of identity: CI)
ปัจจุบัน สัดส่วนลูกค้าทั่วไป อยู่ที่ 60% และลูกค้าสวัสดิการภาครัฐ อยู่ที่ 40% โดยมาจากจำนวนผู้ประกันตนที่เลือก เครือโรงพยาบาลศิครินทร์ รวมประมาณ 350,000 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย นอกจากนี้ในแต่ละเดือนยังมีผู้ประกันตนรายใหม่ที่เลือกศิครินทร์เพิ่มขึ้นตลอด
สำหรับแนวโน้มภาพรวมธุรกิจครึ่งหลัง ปี 65 ประเมินว่าจะเติบโตดีต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง เครือโรงพยาบาลศิครินทร์วางแผนเพิ่มศักยภาพทางการแพทย์ โดยเตรียมเพิ่มจำนวนห้องผ่าตัดและบุคลากรทางการแพทย์โดยเน้นเฉพาะทาง เพื่อรองรับการขยายตัวของการเข้าใช้บริการตามความเชื่อมั่นของกลุ่มลูกค้าต่อศักยภาพการผ่าตัด ผ่านการนำเสนอ "เรื่องผ่าตัดไว้ใจศิครินทร์"
นอกจากนี้ เครือโรงพยาบาลศิครินทร์ เดินหน้าพัฒนา "โรงพยาบาลเคลื่อนที่ (Mobile Hospital)" ภายใต้แนวคิด "ศิครินทร์ เคียงข้างคุณ" สำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กร เพื่อให้บริการด้านส่งเสริมสุขภาพ ประกอบด้วย Smart Check Up, Smart Dental และบริการทางการแพทย์ด้านต่างๆ ครบวงจร โดยจะเน้นการส่งเสริมสุขภาพตามนโยบาย Healthy Thailand ของ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ แผนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทอีกช่องทางหนึ่ง
ขณะเดียวกัน บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาแอปพลิเคชันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้มีการนําเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ สามารถพูดคุยกันได้แบบ Real-time หรือ Telemedicine เข้ามาใช้งาน โดยช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เริ่มทดลองใช้งานในกลุ่มลูกค้าองค์กร
สำหรับธุรกิจ Non-Hospital บริษัทมีที่ดินอยู่ระหว่างพัฒนาพื้นที่ เพื่อก่อสร้าง Medical Complex บนสัญญาเช่า 25 ปี เพื่อเป็น Lifestyle Center ของลูกค้าทุกกลุ่ม ภายใต้การควบคุมตามมาตรฐานสากลระดับโลก
"จากแผนการดำเนินงานและปัจจัยดังกล่าว บริษัทมั่นใจว่า รายได้รวมปี 65 เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจะไม่กระทบต่อรายได้ เพราะที่ผ่านมาเครือโรงพยาบาลศิครินทร์ รักษาผู้ป่วยโควิดตามนโยบายของภาครัฐ ดังนั้น สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยโควิดไม่ได้สูงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเราเติบโตจากโครงสร้างรายได้ 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มลูกค้าทั่วไป กลุ่มสวัสดิการภาครัฐ กลุ่มงานโครงการภาครัฐ และกลุ่มโรงพยาบาลเคลื่อนที่ (Mobile Hospital) ซึ่งเรามุ่งมั่นสร้างความน่าเชื่อถือของโรงพยาบาล ด้วยมาตรฐานสากลระดับโลกและการบริการที่เป็นเลิศ ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ SIKARIN ที่สามารถเข้าสู่ทำเนียบกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 แล้ว เพื่อสร้างธุรกิจโรงพยาบาลให้เติบโตยั่งยืนในอนาคต" นายสุริยันต์ กล่าว