LONGi เปิดโรงงานผลิตโมดูลชนิดโมโนคริสตัลไลน์แห่งใหม่

LONGi Solar ผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ชั้นนำของโลก ประกาศเปิดโรงงานผลิตโมดูลชนิดโมโนคริสตัลไลน์ประสิทธิภาพสูงที่มีกำลังการผลิต 5 กิกะวัตต์ ในเมืองซูโจว มณฑลอันฮุย ประเทศจีน นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในการเพิ่มศักยภาพการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากทั่วโลก

โรงงาน LONGi Chuzhou ใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 328 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และวางศิลาฤกษ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 โดยมีการทำสัญญารับเหมา ดำเนินการก่อสร้าง รวมถึงทดสอบการทำงานของระบบและอุปกรณ์ต่างๆ เสร็จเรียบร้อยในปีเดียวกัน โรงงานแห่งนี้เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงสายการผลิตแบบอัตโนมัติครบวงจร เพื่อรองรับการผลิตโมดูลประสิทธิภาพสูงหลายรุ่น รวมถึง Hi-MO3 ซึ่งเป็นโมดูล PERC แบบแบ่งครึ่งชนิดโมโนคริสตัลไลน์แบบกระจกสองหน้า และผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆอีกมากมาย ซึ่งตรงใจลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง ให้ผลผลิตสูง และเชื่อถือได้

หลังการทดสอบอุปกรณ์ เพิ่มกำลังการผลิต รักษาความเสถียรในการผลิต และเก็บรายละเอียดในขั้นสุดท้ายแล้ว โรงงาน LONGi Chuzhou ก็ได้ผลิตโมดูลครั้งแรกในเดือนมกราคม 2562 ปัจจุบัน เฟส 1 ของโรงงานที่มีกำลังการผลิต 2.5 กิกะวัตต์ได้เดินสายการผลิตเต็มกำลังเพื่อป้อนโมดูลให้กับลูกค้าทั่วโลก ส่วนเฟส 2 กำลังอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบการทำงาน และจะเริ่มผลิตเต็มกำลังในอีกไม่นานนี้

ตลอดสองปีที่ผ่านมา โมดูล PERC ชนิดโมโนคริสตัลไลน์มีชื่อเสียงโด่งดังในตลาดเซลล์แสงอาทิตย์ทั่วโลก เพราะเทคโนโลยี PERC ที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าและลดต้นทุน BOS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อผสานกับเทคโนโลยีแบบกระจกสองหน้าก็ยิ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น ปัจจุบัน โมดูลและเซลล์ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ของ LONGi ใช้เทคโนโลยี PERC ทั้งหมด โดยมีทั้งแบบกระจกหน้าเดียวและกระจกสองหน้า

คุณหลี่ เหวินเสวี่ย ประธาน LONGi Solar กล่าวว่า "ในปี 2562 เราสังเกตเห็นช่องว่างระหว่างยอดสั่งซื้อจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกับความสามารถในการผลิตโมดูลและเซลล์ประสิทธิภาพสูงของเรา ซึ่งโรงงาน LONGi Chuzhou จะเข้ามาลดช่องว่างดังกล่าว นอกเหนือจากการผลิตแล้ว โรงงานแห่งนี้ยังเปลี่ยนความสำเร็จทางเทคนิคและเทคโนโลยีให้กลายเป็นการผลิตสินค้าใหม่ๆในปริมาณมากด้วย"

นอกจากนี้ LONGi ยังประกาศว่าจะเดินหน้าแผนการเพิ่มกำลังการผลิตโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอนแบบแท่งและแบบเวเฟอร์ให้ได้ 45 กิกะวัตต์ในปี 2563 พร้อมปรับกำลังการผลิตโมดูลและเซลล์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และในฐานะผู้นำของโลกด้านเทคโนโลยีโมโนคริสตัลไลน์ บริษัทจะเดินหน้าลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนรักษาความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี และเร่งผลักดันเป้าหมายในการทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์เท่ากับหรือถูกกว่าไฟฟ้าจากสายส่ง (Grid Parity) ทั่วโลก