มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์

มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์

มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ร่วมพัฒนาไทยสู่ความเป็นเลิศด้านกีฬา

ประเทศไทยตั้งเป้าเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (sport tourism) และเป็นศูนย์กลางด้านกีฬาของอาเซียนที่ได้มาตรฐานระดับโลก ด้วยการจับมือกับมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย จัดโครงการอบรมเจ้าหน้าที่ของภาครัฐด้านการกีฬา โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการพาณิชย์และการลงทุนออสเตรเลีย สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย

มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ได้ให้ความช่วยเหลือประเทศไทยในการพัฒนาความเป็นเลิศด้านกีฬาทั้งในและนอกสนามแข่ง โดยร่วมกับสถาบันการศึกษาต่อเนื่องและการสอนภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติ (Institute of Continuing & TESOL Education) หรือ ICTE ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัย จัดโครงการเพิ่มพูนทักษะของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตามแผนยุทธศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560-2564)

โครงการนี้ประกอบด้วยกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในและนอกประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของไทยได้ร่วมกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพเป็นเวลา 3 สัปดาห์ พร้อมทั้งเรียนรู้จากผู้แทนสถาบันหลักด้านกีฬาของไทยและออสเตรเลียที่มีความเชี่ยวชาญอย่างสูงในการบริหารจัดการด้านกีฬา

ในโครงการดังกล่าว นักวิชาการของมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ได้ร่วมกับ ICTE ในการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเป็นเวลา 10 วันในเมืองท่องเที่ยวเชิงกีฬาชั้นนำอย่างอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพัฒนาเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดของการกีฬาแห่งประเทศไทยให้สามารถนำแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติไปปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม

ดร. ชีแรนน์ แฟร์ลีย์ จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ (UQ Business School) ซึ่งเป็นวิทยากรหลักในการอบรม กล่าวว่า “โครงการดังกล่าวช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้แนวความคิด เครื่องมือ และแนวทางในการพัฒนาการจัดการกีฬา เจ้าหน้าที่ของไทยได้รับความรู้ใหม่ๆ และทักษะที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ด้านการกีฬาสำหรับจังหวัดของตนเอง ดิฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะนำความรู้ใหม่นี้กลับไปใช้ และเป็นผู้นำในการบริหารจัดการด้านกีฬาของไทย

“การอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องด้านการกีฬาได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว โดยเราได้เชิญบุคลากรจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมานำเสนอข้อมูล เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสนทนาแลกเปลี่ยนมุมมองของทั้ง 2 ฝ่าย”

ในช่วงที่ 2 ของโครงการอบรม เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดของการกีฬาแห่งประเทศไทยได้เดินทางไปยังประเทศออสเตรเลีย เพื่อเยี่ยมชมสนามกีฬาและสถาบันที่เกี่ยวข้องในเมืองบริสเบน โกลด์โคสต์ ซิดนีย์ เมลเบิร์น และแคนเบอร์รา ได้แก่ องค์กรเทนนิสออสเตรเลีย (Tennis Australia) วิทยาลัยการกีฬาแห่งควีนส์แลนด์ (Queensland Academy of Sport) และสนามกีฬาที่สร้างขึ้นหรือปรับปรุงใหม่เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาเครือจักรภพประจำปีที่เมืองโกลด์ โคสท์ 2018 (2018 Gold Coast Commonwealth Games)

เรเน วินตัน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ICTE กล่าวว่า “โครงการอบรมนี้เป็นความพยายามระยะยาวเพื่อเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน และเป็นวาระแห่งชาติลำดับต้นๆ ของไทย ICTE ได้จัดโครงการอบรมดังกล่าวให้กับบุคลากรของไทยเกือบ 50 คนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับการกีฬาแห่งประเทศไทยในการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งในด้านการบริหารจัดการ ความเข้าใจวัฒนธรรม และปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การมาศึกษาดูงานที่ออสเตรเลียจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ด้านการกีฬาของไทยได้เข้าใจมุมมองของชาวออสเตรเลีย ซึ่งจะช่วยในการเรียนรู้ข้ามวัฒนธรรมได้ดียิ่งขึ้น”

การกีฬาเป็น 1 ในอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดทั่วโลก และกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น ความซับซ้อนของสังคมโลก การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และปัญหาด้านความเป็นเอกภาพ อุตสาหกรรมกีฬาของไทยสร้างรายได้กว่า 8 หมื่นล้านบาทต่อปี และสร้างงานมากกว่า 180,000 ตำแหน่ง คาดว่าตลาดจะเติบโตได้ร้อยละ 5 ต่อปี และจะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1 แสนล้านบาทภายในปี 2564