“เซ็นทรัล รีเทล” ฉลองข่าวดีต้อนรับปีใหม่
หลัง ก.ล.ต. ไฟเขียวแบบไฟลิ่งพร้อมส่งหุ้นไอพีโอเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อยอดความสำเร็จผู้นำธุรกิจค้าปลีกไทยระดับโลก
บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ ‘CRC’ พร้อมเปิดศักราชใหม่ด้วยการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) หลังแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป
การเสนอขายหุ้น IPO ของ CRC ในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่นักลงทุนจะได้ร่วมเป็นเจ้าของและเติบโตไปกับ CRC ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจรีเทลในประเทศไทย ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม และผู้ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งอย่างการเป็นผู้นำด้าน Customer-Centric Omnichannel ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ผสมผสานจุดเด่นที่ดีที่สุดของออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ นำไปสู่มาตรฐานใหม่ของประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สมบูรณ์แบบ สามารถนำเสนอสินค้าและบริการตรงตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า ตลอดจนการสร้างยอดขายได้ทุกที่ทุกเวลาทุกช่องทาง
CRC มีแผนจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 1,691,000,000 หุ้น โดยแบ่งออกเป็น (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,331,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 22.1 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการขยายสาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ การปรับปรุงสาขาต่าง ๆ และการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพื่อโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมุ่งขยายความสำเร็จในระดับโลกอย่างมั่นคงในระยะยาว โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม ทั้งนี้ CRC มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมภายหลังจากหักภาษี และการจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและ CRC กำหนดไว้ในแต่ละปี
พร้อมกันนี้ CRC ประกาศเดินหน้าทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ ROBINS ที่ราคาเสนอซื้อ 66.50 บาทต่อหุ้น เพื่อแลกกับหุ้น IPO ของ CRC ตามช่วงอัตราแลกหุ้นเบื้องต้นที่ 1.39 ถึง 1.66 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของ CRC ต่อ 1 หุ้นสามัญเดิมของ ROBINS ในระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 (รวม 25 วันทำการ) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ (Tender Agent) หลังจากนั้นหุ้นของ ROBINS จะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมกับหุ้น IPO ของ CRC เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) กล่าวว่า “คณะผู้บริหารของ CRC ซึ่งมีส่วนผสมที่ลงตัวจากทั้งครอบครัวจิราธิวัฒน์และทีมผู้บริหารมืออาชีพที่มากด้วยประสบการณ์ ได้วางโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลใหม่ (New Central New Retail) จนมีความพร้อมอย่างถึงขีดสุดในการต้อนรับนักลงทุนให้มาร่วมต่อยอดความสำเร็จบนเวทีระดับโลกไปกับเรา ผ่านรูปแบบธุรกิจค้าปลีกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ CRC ที่รวบรวมแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำหลากหลายประเภท (Multi-category) ใน 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มแฟชั่น กลุ่มฮาร์ดไลน์ และกลุ่มฟู้ด หลากหลายรูปแบบและช่องทาง (Multi-format) ที่ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ (Multi-market) ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำมากมาย อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ซูเปอร์สปอร์ต เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป เพาเวอร์บาย ไทวัสดุ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ในประเทศไทย รวมไปถึงบิ๊กซี/GO! เหงียนคิม ลานชีมาร์ท ในประเทศเวียดนาม และรีนาเชนเต ห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี”
“CRC พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization) ผ่านการวิเคราะห์ฐานข้อมูลสมาชิก Loyalty Program ที่มีมากกว่า 28.8 ล้านรายทั่วโลก เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับการช้อปปิ้งอย่างรอบด้าน ได้แก่ ความสะดวกสบายที่สามารถซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลาทั่วโลก การเข้าถึงตัวเลือกสินค้าที่มากกว่าและมั่นใจได้ในคุณภาพของแท้ และบริการหลากหลายเชื่อมโยงทั้งหน้าร้านและออนไลน์ อาทิ Click & Collect, Click & Delivery, Reserve & Collect บริการรับจองสินค้าทางออนไลน์และสามารถมาดูสินค้าที่หน้าร้านได้ภายในเวลาอันสั้น สามารถรับสินค้าหรือสั่งให้ไปส่งสินค้าไปยังที่ที่ต้องการ, Chat & Shop, e-Ordering และ Express Delivery บริการส่งของด่วนภายใน 1-2 ชั่วโมง ตลอดจนบริการหลังการขาย เรามั่นใจว่าจุดแข็งเหล่านี้จะทำให้ CRC กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้กับทุกคนภายใต้แนวคิด Central of Life” ญนน์ กล่าวเสริม
ด้านผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 CRC มีรายได้รวม 159,506 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 6,298 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 4.1 จากรายได้รวมในช่วงระยะเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า
ผู้สนใจลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลจากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวนของ CRC ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต.ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. www.sec.or.th และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ CRC ได้ที่ https://www.centralretail.com/