“วีบียอนด์” แกร่ง ประกาศกำไรไตรมาส 3 โตขึ้น 1,800% รายได้เพิ่มกว่า 178% พร้อมขึ้นแท่นบริษัทมหาชน
“วีบียอนด์” แกร่ง ประกาศกำไรไตรมาส 3 โตขึ้น 1,800% รายได้เพิ่มกว่า 178%
พร้อมขึ้นแท่นบริษัทมหาชน เปิดเกมรุกธุรกิจเทคโนโลยีซื้อขายอสังหาฯ Property Tech คอนเซ็ปต์ “ซื้อบ้านง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว” ด้วยระบบค้นหาตัวตนอัจฉริยะ
บริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 64 ธุรกิจมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 1,800% และมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 178% ของช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พร้อมขึ้นแท่นบริษัทมหาชน โดยคณะกรรมการได้มีมติให้แปรสภาพจดทะเบียนเป็น บริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) แล้ว และคาดว่ากระบวนการแปรสภาพจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2565 ก่อนยื่น Filing พร้อมเปิดเกมรุกธุรกิจซื้อขายอสังหาฯ บนแพลตฟอร์มออนไลน์นวัตกรรม Property Tech หรือ Prop Tech ด้วยคอนเซ็ปต์ “ซื้อบ้านง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว” ประกาศชิงตลาดตัวกลาง ดึงทุกพันธมิตรทุกแพลตฟอร์ม เชื่อมต่อโลกใหม่แห่งการซื้อขายอสังหาฯ ชิง Market Share ตลาดจากมูลค่า 8 แสนล้านบาท ให้ได้ 15% ภายใน 3 ปี
คุณวรเดช รุกขพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด เผยว่า วีบียอนด์มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ผลจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจและการขยายช่องทางการจัดจําหน่ายแนวใหม่ ซึ่งผลประกอบการสิ้นสุดไตรมาส 3 ปี 2564 ธุรกิจมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 1,800% และมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 178% ของปี 2563 ซึ่งในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 “วีบียอนด์” วางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่ามูลค่าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะมีมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาทซึ่งเรามีพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ นักลงทุนรายใหญ่ High-Net-Worth ที่จะเข้ามาร่วมลงทุนอีกจำนวนมาก พร้อมขยายช่องทางการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมเทคโนโลยีใกล้เคียง ที่จะนํามาสู่กําไรที่แข็งแกร่งนับจากนี้ ผมมั่นใจแผนธุรกิจที่มองครอบคลุมถึงตลาดขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าซื้อขายต่อปี 8-9 แสนล้านบาท บนตลาดอสังหาฯ
“นอกจากนี้ วีบียอนด์ยังเตรียมขยายธุรกิจบนแพลตฟอร์มออนไลน์ระบบ Economic system ด้วยนวัตกรรม “Property Tech” หรือ Prop Tech ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่รวมเอาธุรกิจอสังหาฯ กับเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้มากยิ่งขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “Property mall” ที่ตอนนี้อยู่ในช่วงพัฒนาระบบ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้ช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งถือเป็น Big Project ของกลุ่มบริษัทวีบียอนด์เลยก็ว่าได้ เพราะใน “Property mall” จะมีโครงการทั้งบ้านและคอนโดจากหลายแบรนด์ดังทั่วประเทศให้ลูกค้าเลือกซื้อ
ซึ่งให้ AI ศึกษาพฤติกรรมและความต้องการที่ตรงจุดของผู้บริโภค เพื่อเสนอโครงการที่สามารถตอบโจทย์ตรงความต้องการมากที่สุดด้วยโปรแกรมอัจฉริยะ ให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าอสังหาฯ ได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว เหมือนหยิบของบน Shelf ใน Supermarket นอกจากนี้เรายังมีสิทธิพิเศษ “VB Club” ซึ่งเป็นโครงการที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าวีบียอนด์ อาทิ ประกันภัยที่อยู่อาศัย, บริการจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้างที่ดีมีคุณภาพ และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ที่เราสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่ยากๆ ให้เป็นเรื่องง่าย ตรงตาม life style ของลูกค้า พร้อมมีบริการดูแลหลังการขายแบบครบวงจร (One Stop Service) อีกด้วย”
“ผมเชื่อว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง นโยบายการเปิดประเทศและการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังมีนโยบายสร้างแรงซื้อใหม่จากนักลงทุนต่างชาติจากรัฐบาล ที่ตอบรับข้อเสนอแนวทางสร้างแรงซื้อใหม่จากเราและกลุ่มพันธมิตร จะเป็นปัจจัยบวกให้ธุรกิจต่างๆ กลับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะธุรกิจภาคอสังหาฯ ที่ตอนนี้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนจากภาครัฐ โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลทำให้มีกำลังซื้ออสังหาฯ จากชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาอย่างมหาศาล และทำให้ธุรกิจอสังหาฯ กลับมาคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอน ผมมั่นใจว่า “วีบียอนด์” จะแข็งแกร่งเพราะธุรกิจที่เราลงทุนแทบทุกตัวล้วนเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ในช่วงวิกฤติ ซึ่งสะท้อนได้ชัดว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย จะยิ่งทำให้เราเติบโตแบบก้าวกระโดดทันทีและมีเสถียรภาพทั้งการเงินและการลงทุน และเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่ช่วยทำให้เม็ดเงินในธุรกิจอสังหาฯ และอื่นๆ กลับมามีสีสันและน่าจับตามองอีกครั้งครับ” คุณวรเดชกล่าว